สรุปที่มาที่ไปคดีฉ้อโกง 35 ล้าน ศาลสั่งจำคุก “มิตร มิตรชัย” 6 ปี

เเฟนเพจเฟซบุ๊ก Poetry of Bitch ได้สรุปเรื่องราวคดีทั้งหมด ของ "มิตร มิตรชัย น้องชายแท้ๆ ของไชยา มิตรชัย และแอน มิตรชัย

แนะนำตัวละครก่อน

"คุณปุ้ย รัญชิตา" นักธุรกิจหญิงอายุ 43 ปี เจ้าของกิจการสารหล่อลื่นเครื่องจักรกลย่านลำลูกกา

"มิตร มิตรชัย" (หรือนายคีรีรัก สมณะบารมี) ลิเกชื่อดังอายุ 21 ปี เป็นน้องชายแท้ๆ ของไชยา มิตรชัย และแอน มิตรชัย

** อายุตอนเกิดเหตุเมื่อปี 2558 **

จากปากคำคุณปุ้ย
:
1- คุณปุ้ยเป็นแฟนลิเกของมิตร ไปดู 2-3 ครั้งต่อปี ต่อมาทราบว่ามิตรจะตั้งคณะลิเกเอง ตนก็ยินดีช่วยเท่าที่ช่วยได้ จึงได้เริ่มติดต่อกันทางไลน์

2- ต่อมาเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้นจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง มิตรบอกว่ารักและอยากสร้างครอบครัวด้วย คุณปุ้ยเห็นว่าไหนๆก็จะสร้างครอบครัวด้วยกันแล้ว ก็ยินดีช่วยเรื่องเงินเต็มที่

3- คุณปุ้ยจึงไปหากู้เงินจากที่ต่างๆ มาให้ บางครั้งเอาโฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันก็มี ซึ่งมิตรก็ทราบดีว่าเงินที่ได้มานั้นยืมคนอื่นมา และสัญญาว่าจะใช้คืนทุกบาททุกสตางค์

4- ในระหว่างนั้นคุณปุ้ยกับมิตรก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน โดยคุณปุ้ยได้ซื้อบ้านในชื่อของมิตร และเธอเป็นคนผ่อน

5- ระหว่างคบหากัน มิตรยังมีโปรเจคอื่นที่จะทำอีก 2 โปรเจค คือ 1. ทำลิเกออนไลน์ 2. ทำเอ็มวีร่วมกับแอน มิตรชัย มิตรก็มาขอให้คุณปุ้ยหาเงินให้อีก โดยโน้มน้าวว่าเมื่อทำเสร็จจะมีรายได้เท่านี้ๆ มีเงินใช้หนี้แน่นอน คุณปุ้ยก็หามาให้เรื่อยๆ

6- เวลามิตรนำโปรเจคไปเสนอนายทุนก็จะพาคุณปุ้ยไปด้วย แต่ไม่ให้เข้าไปนั่งฟัง

7- ถ้าคุณปุ้ยหาเงินให้ไม่ได้หรือได้ไม่ครบ มิตรจะบอกว่าถ้างั้นก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน เพราะช่วยเหลือกันไม่ได้

8- จุดแตกหักมาถึงเมื่อมิตรต้องการเงินอีก 10 ล้าน แต่คุณปุ้ยหาให้ได้แค่ 2 ล้าน มิตรจึงให้เธอขนข้าวของออกจากบ้าน เธอก็ยอมออกมาจากบ้านที่เธอเป็นคนซื้อ

9- รวมเบ็ดเสร็จจนถึงวันที่ย้ายออกมา คุณปุ้ยเป็นหนี้ 35.5 ล้านบาท เฉพาะที่มีหลักฐานการโอนเงินให้มิตร 28 ล้าน ส่วนที่เหลือเป็นเงินสด ไม่มีหลักฐานการโอน

10- จากนั้นคุณปุ้ยมีโอกาสได้คุยกับผู้จัดการของแอน มิตรชัย ทำให้ทราบว่าไม่มีโปรเจคใดๆตามที่มิตรบอก และยังทราบอีกว่าเงินที่เธอเสียไปไม่ได้อยู่ที่มิตรคนเดียว แต่มีการโอนให้ญาติพี่น้องบางคนด้วย

11- เมื่อถึงเวลาชำระหนี้ปรากฏว่ามิตรไม่เคยชำระเลยแม้แต่ครั้งเดียว แล้วยังเปลี่ยนเบอร์หนี ทำให้คุณปุ้ยต้องรับหน้าทั้งหมด

12- ต่อมานายตำรวจท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าของเงินที่ให้มิตรยืม นัดให้มิตรมาคุยแล้วให้มิตรเซ็นยอมรับสภาพหนี้ 35 ล้านบาท

13- หลังจากนั้นมีการปล่อยข่าวว่าคุณปุ้ยเป็นภรรยาน้อยของนายตำรวจคนดังกล่าว ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เธอกับนายตำรวจเป็นเพียงคนที่นับถือกันเท่านั้น

14- นอกจากนี้ยังปล่อยข่าวว่าเธอไม่ใช่แฟนมิตร แต่เป็นแม่ยก ขอยืนยันว่าเธอไม่ใช่แม่ยกแน่นอน ทุกคนในครอบครัวมิตรเรียกเธอว่า "น้องสะใภ้"

จากปากคำมิตร
:
1- มิตรเล่าว่าคุณปุ้ยเข้ามาในฐานะแม่ยกก่อน แล้วค่อยพัฒนาความสัมพันธ์จนถึงขั้นจะใช้ชีวิตร่วมกัน

2- ยืนยันว่าไม่เคยยืมเงินจากคุณปุ้ย คุณปุ้ยเป็นฝ่ายเลี้ยงดูตนในทุกๆเรื่อง และเป็นการให้ด้วยเสน่หา จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องไปยืมเงินคุณปุ้ยอีก

3- เรื่องบ้าน คุณปุ้ยเป็นคนซื้อให้เองเพราะกังวลว่าตนจะมีผู้หญิงอื่น จึงซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน

4- ที่เปลี่ยนเบอร์โทรหลังเลิกกัน เพราะด้วยวัยของตนยังรับปัญหาที่หนักขนาดนี้ไม่ไหว

5- เหตุที่เซ็นรับสภาพหนี้ 35 ล้าน เพราะนายตำรวจอ้างว่ามีนักข่าวอยู่ด้านนอก จะบอกนักข่าวเรื่องตนกับคุณปุ้ย ตนยังไม่พร้อมจะเปิดเผยเรื่องนี้จึงจำเป็นต้องเซ็น

ไทม์ไลน์เรื่องนี้คร่าวๆ

30 ก.ค. 58
นายตำรวจที่ให้มิตรยืมเงินผ่านคุณปุ้ย นัดมิตรไปคุย และให้มิตรเซ็นรับสภาพหนี้ 35 ล้านบาท

28 ก.ย. 58
มิตรไปร้องกองปราบฯ ว่าถูกนายตำรวจขู่ให้รับสภาพหนี้ โดยเล่าว่าตนคบหากับสาวใหญ่คนหนึ่ง ต่อมาทราบว่าสาวใหญ่สนิทสนมกับนายตำรวจคนดังกล่าว ตนจึงตีตัวออกห่าง เมื่อนายตำรวจรู้เข้าก็นัดตนมาเคลียร์ แต่พอตนมาถึงกลับบังคับให้เซ็นรับสภาพหนี้ 35 ล้านที่สาวใหญ่เป็นคนเอาไป

30 ก.ย. 58
คุณปุ้ยเข้าแจ้งความว่ามิตรฉ้อโกงเงิน 35 ล้านบาท

5 ต.ค. 58
มิตรมาให้ปากคำและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา บอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนกับคุณปุ้ยเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ดูแลเด็กเท่านั้น ไม่มีการยืมเงิน

10 ต.ค. 58
มิตรตั้งโต๊ะแถลงข่าว บอกว่าคุณปุ้ยให้การอุปถัมภ์ดูแลตนอย่างดี ซื้อรถซื้อบ้านให้ โอนเงินให้ใช้เป็นประจำทุกเดือน 20,000 - 50,000 บาท ซึ่งเป็นการให้ด้วยความเสน่หา ช่วงหลังทะเลาะกันบ่อยจึงแยกทางกัน แต่ฝ่ายหญิงกลับมาทวงเงินคืน โดยอ้างว่าตนยืมมาลงทุน ซึ่งไม่เป็นความจริง

8 ส.ค. 59
ศาลชั้นต้นตัดสินว่าเงินที่มิตรได้มาไม่ใช่ได้มาด้วยเสน่หา แต่เป็นการลงทุนร่วมกัน ศาลตัดสินให้จำคุกมิตร 6 ปี ไม่รอลงอาญา และให้ชดใช้เงิน 27 ล้านบาทคืนแก่โจทก์ มิตรได้ยื่นอุทธรณ์

19 มิ.ย. 60
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น มิตรยื่นฎีกา

25 ก.ค. 62
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คดีถึงที่สุดแล้ว ช่วงเย็นมีการส่งตัวมิตรไปยังเรือนจำธัญบุรี