คืบหน้าดราม่าสุดแซ่บแฉ!ลูกเลี้ยงแย่งสามีศิริพร อำไพพงษ์ ล่าสุดสามีสัมภาษณ์โต้
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย คืบหน้าดราม่าสุดแซ่บแฉ!ลูกเลี้ยงแย่งสามีศิริพร อำไพพงษ์ ล่าสุดสามีสัมภาษณ์โต้
ดราม่าร้อนฉ่า!! เรื่องใหม่ของวงการบันเทิงเรื่องล่าสุดมีมาให้เผือกอีกแล้ว เมื่อเพจจอมแฉ "เจ้เผือก" ออกโรงสาธยาย ไทม์ไลน์ดราม่าแบบลากไส้มาทุกขด หลังนักร้องลูกทุ่งตัวแม่ "พี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์" ออกมาโพสต์เฟ๊ชบุ้กระบุว่า ได้ปิดกิจการ"สถาบันเสริมความงาม" ซึ่งเปิดให้กับ ลูกบุญธรรมสาวที่เลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออกลงไป ก่อนที่ฝ่ายของลูกสาว จะออกมาโพสต์ตอกกลับ"คุณแม่" ว่า ทำแบบนี้กับตัวเองได้อย่างไร เพราะตอนนี้ตนมีภาระต้องดูแลคุณพ่อที่กำลังป่วยหนักเป็นโรคมะเร็ง
โดยเจ้เผือก ร่ายรายละเอียดว่า
แต่มาวันนี้ ลูกสาวบุญธรรมก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความต่างๆ นานา ถึงแม่ของตนในเชิงตัดพ้อ ยังไม่รวมถึงการรวมหัวกับสามี ที่มีศักดิ์เป็นพ่อพากัน โกงแม่ตัวเองอีกด้วย ไม่น่าเชื่อเช่นกันว่า คนที่ตัวเองคิดว่าเป็นลูก ทั้งสอนและทุ่มเทให้ทุกอย่างคนนี้ จะหักหลังกันได้แบบนี้
นักร้องลูกทุ่งดังได้นำเอาผู้หญิงคนหนึ่งมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม และลูกคนนี้มีพรสวรรค์ในด้านความสวยความงาม ลูกทุ่งดังจึงได้ลงทุนเปิดคลินิกเกี่ยวกับความสวยความงามให้ และให้ลูกสาวดูแลอย่างเต็มที่
แต่ต่อมา ลูกทุ่งดัง ก็จับได้ว่า ลูกสาวบุญธรรมของตัวเองไปแอบกินกับสามีของตน ซึ่งเรียกว่าพ่อ ที่ผ่านมาลูกทุ่งดังก็ได้แต่ใจเย็นเฝ้าดูพฤติกรรมของทั้งสองคนเป็นเวลาหลายเดือน และเมื่อทุกอย่างแน่ชัดแล้ว ลูกทุ่งดังคนนี้จึงตัดสินใจจะตัดทุกอย่างออกไป ธุรกรรมอะไรที่เคยให้ลูกสาวบุญธรรมใช้ชื่อของตน ก็ได้ยกเลิกออกไปทั้งหมดและไม่ได้เรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้น แม้กระทั่งคลินิกเสริมความงามที่เคยเปิดให้ ก็ได้ประกาศปิดตัวลงแต่มาวันนี้ ลูกสาวบุญธรรมก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความต่างๆ นานา ถึงแม่ของตนในเชิงตัดพ้อ ยังไม่รวมถึงการรวมหัวกับสามี ที่มีศักดิ์เป็นพ่อพากัน โกงแม่ตัวเองอีกด้วย ไม่น่าเชื่อเช่นกันว่า คนที่ตัวเองคิดว่าเป็นลูก ทั้งสอนและทุ่มเทให้ทุกอย่างคนนี้ จะหักหลังกันได้แบบนี้
โดยหลังจากที่เพจดังได้แชร์เรื่องนี้ออกไป ต่างมีคนเข้ามาคอมเมนต์กันเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะเชื่อถือได้แค่ไหน คงต้องรอฟังความจริงจากปากของ ผู้เกี่ยวข้องกันอีกที!
อย่างไรก็ตาม ภายหลังกระแสข่าวนี้ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทางฝั่งของ นายธนชาติ สุมโนมหาอุดม หรือ โก้ สามีของศิริพร ก็ออกโรงโต้กลับ ผ่านการให้สัมภาษณ์กับ อัมรินทร์ ทีวี ระบุว่า ไม่มีความสัมพันธ์เกินเลยกับลูกบุญธรรม ส่วนที่เจ้าตัวจะปิดคลินิกความงามนั้น ตนเองก็ยังไม่ทราบเรื่อง
ด้านความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับนางสาวศิริพร ขณะนี้ไม่ได้เรียกว่าเลิกรากัน หรือทะเลาะขัดแย้งใด แต่เพราะเกิดจากหญิงที่ชื่อเล็ก เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของนางสาวศิริพร ทำให้นางสาวศิริพรเริ่มตีตัวออกห่างย้ายไปอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี โดยไม่กลับมาที่บ้านอีกเลย ส่งผลให้ตนเองไม่เคยได้พบเจอ หรือพูดคุยกับนางสาวศิริพร แต่นางสาวศิริพรก็จะติดต่อโดยตรงกับนางสาวอร ลูกบุญธรรมตามปกติตามปกติ
เหตุการณ์ครั้งนี้ตนเองจึงมองว่า นางสาวศิริพรเปลี่ยนไปเพราะมีคนที่ชื่อเล็กเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งอ้างตัวว่ามีฐานะ มีเงินหลักล้าน มีทอง มีเพชร มีบ้าน ได้ชักชวนนางสาวศิริพรไปทำบุญใหญ่ ทำให้ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้รวมกว่า 8 เดือน นางสาวศิริพรก็ไม่เคยกลับมาที่บ้านอีก ทุกอย่างคือพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป โดยสังเกตจากนางสาวศิริพรเปลี่ยนจากการสวมเสื้อผ้าไหมทาเล็บสีชมพู กลายเป็นสวมใส่เสื้อผ้าสีสันลวดลายต่าง ๆ แม้กระทั่งทาเล็บเปลี่ยนเป็นสีอื่น ซึ่งผิดวิสัยจากศิริพรคนเดิม และยังถูกวาดฝันโดยชักชวนให้ไปอยู่ต่างประเทศด้วยกันพร้อมทั้งให้ใช้เงินทองของคนชื่อเล็กทั้งหมด แต่ก่อนที่จะไปอยู่ต่างประเทศให้มีการขายคลินิกและบ้านที่มีอยู่
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกระแสข่าวทั้งหมด เป็นเพียงการนำเสนอของกลุ่มโซเชียลและสำนักข่าวบางสำนัก โดยตนเองอยากให้ฟังข้อเท็จจริงจากปากของนางสาวศิริพร เพราะเจ้าตัวยังไม่ได้ออกมาพูดอย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภายหลังกระแสข่าวนี้ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทางฝั่งของ นายธนชาติ สุมโนมหาอุดม หรือ โก้ สามีของศิริพร ก็ออกโรงโต้กลับ ผ่านการให้สัมภาษณ์กับ อัมรินทร์ ทีวี ระบุว่า ไม่มีความสัมพันธ์เกินเลยกับลูกบุญธรรม ส่วนที่เจ้าตัวจะปิดคลินิกความงามนั้น ตนเองก็ยังไม่ทราบเรื่อง
ด้านความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับนางสาวศิริพร ขณะนี้ไม่ได้เรียกว่าเลิกรากัน หรือทะเลาะขัดแย้งใด แต่เพราะเกิดจากหญิงที่ชื่อเล็ก เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของนางสาวศิริพร ทำให้นางสาวศิริพรเริ่มตีตัวออกห่างย้ายไปอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี โดยไม่กลับมาที่บ้านอีกเลย ส่งผลให้ตนเองไม่เคยได้พบเจอ หรือพูดคุยกับนางสาวศิริพร แต่นางสาวศิริพรก็จะติดต่อโดยตรงกับนางสาวอร ลูกบุญธรรมตามปกติตามปกติ
เหตุการณ์ครั้งนี้ตนเองจึงมองว่า นางสาวศิริพรเปลี่ยนไปเพราะมีคนที่ชื่อเล็กเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งอ้างตัวว่ามีฐานะ มีเงินหลักล้าน มีทอง มีเพชร มีบ้าน ได้ชักชวนนางสาวศิริพรไปทำบุญใหญ่ ทำให้ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้รวมกว่า 8 เดือน นางสาวศิริพรก็ไม่เคยกลับมาที่บ้านอีก ทุกอย่างคือพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป โดยสังเกตจากนางสาวศิริพรเปลี่ยนจากการสวมเสื้อผ้าไหมทาเล็บสีชมพู กลายเป็นสวมใส่เสื้อผ้าสีสันลวดลายต่าง ๆ แม้กระทั่งทาเล็บเปลี่ยนเป็นสีอื่น ซึ่งผิดวิสัยจากศิริพรคนเดิม และยังถูกวาดฝันโดยชักชวนให้ไปอยู่ต่างประเทศด้วยกันพร้อมทั้งให้ใช้เงินทองของคนชื่อเล็กทั้งหมด แต่ก่อนที่จะไปอยู่ต่างประเทศให้มีการขายคลินิกและบ้านที่มีอยู่
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกระแสข่าวทั้งหมด เป็นเพียงการนำเสนอของกลุ่มโซเชียลและสำนักข่าวบางสำนัก โดยตนเองอยากให้ฟังข้อเท็จจริงจากปากของนางสาวศิริพร เพราะเจ้าตัวยังไม่ได้ออกมาพูดอย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น
ส่วน ศิริพร ก็เคลื่อนไหวล่าสุดผ่านการให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า
"ไม่อยากจะพูดถึง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และตัวเองก็ไม่ได้อยู่บ้านนั้นแล้ว และก็ได้กลับไปอยู่บ้านที่จังหวัดอุดรธานีนานแล้ว ก็อยากให้เรื่องนี้จบๆ ไป"
"ไม่อยากจะพูดถึง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และตัวเองก็ไม่ได้อยู่บ้านนั้นแล้ว และก็ได้กลับไปอยู่บ้านที่จังหวัดอุดรธานีนานแล้ว ก็อยากให้เรื่องนี้จบๆ ไป"
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom