ไม่ต้องห่วง แม่อยู่ได้-ครอบครัวเล่าน้ำตาล มาบอกลา เพลงสุดท้ายในชีวิต ดังขึ้น ทั้งๆที่ไม่มีใครเปิด

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. ที่ ศาลาเทพกาญจนา วัดป้อมวิเชียรโชติการาม จ.สมุทรสาคร นางสุขใจ ถิรเมธีกุล อายุ 54 ปี มารดา พร้อมด้วย น.ส.พิมพ์ลดา ทองชิว อายุ 31 ปี น้ำผึ้ง พี่คนโต และ นายกิตต์ธีธัช ก้องภพจิรพัฒน์ พี่เขย เปิดใจกับสื่อมวลชน ภายหลังจากสูญเสีย น.ส.บุตรศรัณย์ ทองชิว หรือ น้ำตาล เดอะสตาร์ อย่างไม่มีวันกลับมา

นางสุขใจกล่าวว่า ตนบอกกับน้ำตาล ในตอนที่น้องจะเสียว่า ไม่ต้องห่วงอะไร แม่อยู่ได้ไม่ต้องห่วง ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์ว่าน้องจะจากไป ที่ผ่านมาทุกอย่างแม่มอบสิ่งดีๆ ให้กับน้องแล้ว

ด้าน น.ส.พิมพ์ลดา กล่าวว่า ระหว่างที่เข้ารับการรักษาตัว เราพยายามทำทุกอย่างสี่คิดว่าดีที่สุดแล้ว ในช่วงที่น้องจะเสียเราได้นำเพลงนำเพลง You are my sunshine ที่น้องไอริช หลานสาวที่รักของน้ำตาล ร้องมาเปิดให้น้ำตาลฟัง เราเชื่อว่าน้ำตาลได้ยิน เราพยายามเรียกชื่อน้องให้กลับมา แต่น้องไม่กลับมาแล้ว

น.ส.พิมพ์ลดา กล่าวต่อว่า ปกติแล้ว ที่บ้านก็ไม่ได้เป็นคนพูดจาหวานอะไร แต่เราจะอยู่ด้วยกัน สนิทสนมกัน ตัวจะติดกันแทบ 24 ชม. แต่เมื่อตนแต่งงานก็ได้แยกไปอยู่บ้านอีกหลัง ส่วนน้ำทิพย์ น้องสาวคนเล็กไปอยู่ต่างประเทศ ไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ แต่เมื่อทราบข่าวช่วงแรกก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เพราะที่ผ่านมาเรามีกันอยู่แค่นี้

ด้านนายกิตต์ธีธัช กล่าวว่า สำหรับการบริจาคอวัยวะของน้ำตาลนั้น แพทย์สันนิษฐานว่า สาเหตุอาจมาจากระบบทางเดินหายใจ ทางครอบครัวจึงได้อนุญาตให้แพทย์ตัดชิ้นเนื้อบริเวณโพรงจมูกไปวินิจฉัย ซึ่งหากวินิจฉัยแล้ว ทราบว่าอาการดังกล่าวเป็นอะไร มาจากสาเหตุอะไร เกิดจากโรคอะไร ก็สามารถทราบโรคที่แน่ชัดและอาจหาวิธีการป้องกันและรักษาได้ ส่วนอวัยวะส่วนอื่น ทางครอบครัวไม่อยากให้มีการผ่าเพิ่มเติมเพราะที่ผ่านมาน้องช้ำมามากแล้ว อยากให้น้องไปแบบสวยงาม

นอกจากนี้นายกิตต์ธีธัช กล่าวว่า ภายหลังจากที่น้องจากไปอย่างสงบ ทางครอบครัวก็ได้ขับรถกลับไปบ้าน เพื่อจะนำชุดมาเปลี่ยนให้น้อง เมื่อถึงบ้านขณะที่รถกำลังจะจอดรถ อยู่ดีๆ ระบบมือถือของตนเชื่อมต่อกับบลูทูธในรถ โดยที่ไม่มีใครกด จากนั้นก็มีเสียงเพลง You are my sunshine ที่น้ำตาลสอนน้องไอริชร้องดังขึ้น ทุกคนก็สงสัยว่าเสียงมาจากไหน เสียงค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ ตนพยายามกดหยุด แต่เพลงไม่หยุด เล่นวนไปถึง 2 ครั้ง ทางครอบครัวจึงมองหน้ากันและพูดว่า รู้แล้วนะ ตนเชื่อว่านี่คือวิธีการบอกลาของน้องที่สดใส และไม่อยากให้คนอื่นเป็นทุกข์

เครดิตแหล่งข้อมูล : news.ch7.com