หมิว ปล่อยโฮรับเลิก เป้ วงมายด์ ลั่นเราไม่ได้เป็นความสุขของเขาแล้ว

หลังจากที่คบกันมาเงียบๆ เพราะทั้งคู่นั้นเจอมรสุมดรามาถูกครหาเป็นมือที่สามแย่งหลังจากที่ผ่านมรสุมดรามาถูกครหาเป็นมือที่สามแย่ง "เป้ วงมายด์" หรือ "บดินทร์ เจริญราษฎร์" จากอดีตแฟนสาวนอกวงการ ล่าสุดนางร้าย "หมิว สิริลภัส" ก็ออกมาเผยความสัมพันธ์รักระหว่างเธอกับเป้ผ่านรายการ "ไนน์เอ็นเตอร์เทน" ยอมรับรักจบลงแล้ว ฝ่ายชายอ้างไม่ใช่ความสุขของตนอีกต่อไปแล้ว เจ็บจนหน้าชา

ช่วงนี้สภาพจิตใจเป็นอย่างไรบ้าง?

"ช่วงนี้ดีขึ้นค่ะ ได้เพื่อนๆ ได้ครอบครัว ได้งาน ผู้ใหญ่รู้ว่าห้ามให้ว่างก็พยายามป้อนงานมาให้ แล้วก็เรียนค่ะ ถามว่าเฮิร์ตหนักมั้ย เรียกว่าลมแรงนิดนึง เหมือนกับว่าเรารู้จักกันมานานหลายปี ถ้ารวมเวลาที่รู้จักกันก็ประมาณ 6-7 ปีค่ะ"

สาเหตุที่เลิกกัน?

"เราก็นั่งคุยกันว่าตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าไม่มีความสุขแล้ว จะเอาอย่างไรดี อันนี้หมิวเป็นคนพูด ปกติกเวลาที่เรามีปัญหากันก็จะมานั่งคุยกัน เราไม่เคยทะเลาะกันเลยตั้งแต่อยู่ด้วยกัน เราพยายามคุยกันด้วยเหตุผล เวลาที่มีปัญหาอะไรเราก็มานั่งคุยกันแบบนี้ทุกครั้ง ว่าเธอเราจะเอาอย่างไรดีกับปัญหานี้ เธอคิดว่าอย่างไร เราคิดว่าอย่างนี้ แล้วเรามาช่วยกันนะ ครั้งนี้หมิวก็ถามว่าเราจะช่วยกันให้ไปต่อ หรือว่าเราจะพอแล้ว เขาก็บอกว่าพอแล้วได้มั้ย เขาหมดแล้ว"

คือเขาหมดรักเราแล้ว?

"น่าจะอย่างนั้นนะ หมดแพสชั่นอะไรประมาณนั้น ตอนนั้นก็ช็อก เพราะปกติที่มีปัญหาเรื่องแบบนี้จะพยายามแก้ปัญหามาตลอด วันนั้นช็อก มันเหมือนแฟลชแบ๊กวันที่เขามานั่งจับมือเราแล้วบอกว่าขอกลับมาได้มั้ย เราก็บอกว่าได้ ซึ่งมันเป็นที่เดียวกับวันที่เขาบอกว่า เขาขอโทษ เขาหมดแล้ว เราก็โอเคค่ะ พี่ต้องลองรักใครมากๆ ที่พร้อมซัพพอร์ตเขาทุกอย่าง ทั้งเรื่องของงาน เรื่องของจิตใจ และเรื่องการใช้ชีวิต"

แต่ที่ผ่านมาตัวเขาไม่เคยบอกหรือเปิดว่าคบกับเรา?

"นั่นก็เรื่องของเขา มันขึ้นอยู่กับว่าให้เกียรติกันมากกว่า แต่เราก็คุยกันอยู่ตลอดว่าเราไม่เปิดดีกว่า อย่างแรกเราไม่อยากให้มันเป็นข่าว ถ้าเป็นข่าวมันไม่ได้กระทบกับเราสองคน มันกระทบกับวงของเขา การทำงาน และหลายๆ ฝ่าย เพราะฉะนั้นเราก็ตกลงกันแล้วว่าอยู่ในจุดนี้แฮปปี้มั้ย ก็อยู่ค่ะ เราก็อยู่ แต่ว่าคนรอบข้าง เพื่อนๆ คนในๆ จะรู้ว่าเราดูแลกันอยู่"

ที่บอกว่าอยู่แล้วไม่มีความสุข เพราะเขาเป็นคนเจ้าชู้ด้วยไหม?

"ไม่ใช่เรื่องความเจ้าชู้เลย อยากให้ทุกคนเข้าใจเขาใหม่ แต่ด้วยภาพลักษณ์ของเขาเป็นคนเจ้าชู้ เวลาที่เขามีใครหรือดูแลใครจริงๆ บอกได้เลยว่าเขาไม่ได้เป็นผู้ชายเจ้าชู้เลย อันนี้หมิวกล้ายืนยัน ถามว่ามีมือที่สามมั้ย หมิวก็ไม่ได้ไปตามสืบเพราะว่าหมิวไว้ใจเขามาตลอด แล้วเขาก็ไว้ใจหมิวมาตลอด ส่วนที่บอกว่าไม่มีความสุข ด้วยว่ามันก็มีหลายๆ เรื่องที่เคลียร์กันไม่จบ แล้วเราก็มาเคลียร์กันด้วยเหตุผลมากเกินไป และบางทีเราก็ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงที่จู้จี้จุกจิกมานั่งคุยเยอะ มันก็เป็นความผิดของหมิวส่วนนึงที่ว่าพอมีปัญหาปุ๊ปเราก็จะกันตัวเองออกมาอยู่คนเดียว มันทำให้เขารู้สึกว่า เขาไม่มีตัวตนอยู่ในชีวิตเราแล้ว มันก็เจ็บกันทั้งคู่ พอถึงเวลาที่ต้องคุย เราก็มาคุยกัน เขาก็บอกว่าเขารักหมิวนะ แต่ตอนนี้เขาขอรักตัวเองบ้าง"

มีปัญหาอะไรมาก่อนหน้านี้ไหม?

"ไม่เยทะเลาะกันเลยค่ะ มันเป็นปัญหาส่วนตัว เหมือนกับว่าหมิวเคยสัญญากับเขาไว้แล้วหมิวทำไม่ได้ เขาสัญญากับหมิวไว้ แต่เขาก็ทำไม่ได้ เป็นเรื่องเล็กน้อยค่ะ ถามว่าเสียใจกับรักครั้งนี้มั้ย เสียใจค่ะ(ร้องไห้) เสียใจที่สู้กันมาเยอะ ผ่านอะไรกันมาเยอะ แต่ว่าพอจะถึงเส้นชัยแล้ว เราไม่ใช่คนที่จับมือเขาไปส่งเส้นชัย แต่เราก็โอเค รู้สึกดีที่เราพาเขามาตลอดทาง สู้กันมาตลอด แต่วันที่เขาถึงเส้นชัย เราไม่ได้ไปยืนฉลองความสำเร็จกับเขาตรงเส้นชัยเท่านั้นเองค่ะ"

ก่อนหน้านี้ร้องไห้หนักไหม?

"แรกๆก็มีค่ะ มีร้องบ้างค่ะ พอผ่านมาก็เริ่มทำใจและยอมรับได้ เรายังรักเขาเหมือนเดิม ยังเป็นกัลยาณมิตรให้เขาได้ ทุกครั้งที่เขาล้ม หมิวก็ยังเป็นคนแรกที่วิ่งเข้าไปหาเขาเหมือนเดิม หมิวก็ยังเป็นคนที่ซัพพอร์ทคนข้างๆเขาเหมือนเดิม เพียงต้องยอมรับสถานะว่าเราจะยืนคู่กันไม่ได้อีกแล้ว(เสียงสั่น)"

ถ้าวันนึงเขาขอกลับมาคืนดีล่ะ?

"ขอเป็นคนที่มองข้างหลังเขาดีกว่า มองเขามีความสำเร็จ มองเขามีความสุขดีกว่าค่ะ(ร้องไห้) เพราะเรารู้แล้วว่าการที่เรายืนอยู่ข้างๆ เขา มันไม่ได้ทำให้เขามีความสุข เราก็ยอมที่เป็นคนอยู่ข้างหลังยังเห็นเขาเติบโต มีชีวิต เห็นเขามีเพลงดังๆ มีบริษัทของตัวเองดีๆ มีคนรัก มีคนทำให้เขามีความสุข มากกว่าที่เราเคยทำ"

ปัญหามาจากว่าเรามีปัญหาแล้วไม่คุยกัน?

"ไม่ค่ะ เราไม่เคยเก็บค่ะ เราจับมือนั่งคุยกันตลอดด้วยเหตุผลตลอด แต่ครั้งนี้เขาเลือกอีกทางนึง หมิวเลือกอีกทางนึง หมิวเลือกที่จะพยายามต่อ แต่เขาเลือกว่ามันไปต่อไม่ได้แล้ว ตอนนั้นหมิวก็บอกเขาไปว่าลองไปคิดดูดีๆ ก่อน เราผ่านอะไรกันมาเยอะ เราจับมือสู้กับอะไรหลายๆอย่างกันมา ทั้งเรื่องข่าว และเรื่องคนที่ไม่เห็นด้วยกับเราในช่วงแรกๆ หมิวก็บอกเขานะลองไปคิดดูดีๆไหม เราผ่านอะไรกันมาเยอะ หมิวก็เสียดาย เราสัญญาว่าจะไม่ทำมันพังใช่ไหม เขาก็บอกว่าหมิวไม่ใช่ความสุขของเขาอีกต่อไปแล้ว เราก็เลยรู้สึกว่าในเมื่อเราไม่ใช่ความสุขของเขา เพราะฉนั้นเราก็ควรปล่อยเขาให้ไปเจอคนที่ทำให้เขามีความสุขมากกว่าที่เราทำดีกว่า"

เจ็บไหมกับคำพูดของเขา?

"ก็เจ็บค่ะ เพราะเราเคยเป็นรอยยิ้มของเขา เคยเป็นคนนึงที่ทำให้เขาหายเหนื่อย เวลากลับมาจากทำงาน เวลาเจอปัญหา เวลาที่เขามีปัญหา เราก็เป็นคนเดียว ที่คอยกอดเขา ลูบหัวเขาได้ แล้วบอกว่าไม่เป็นไรนะ นอกจากพ่อกับแม่เขาตอนนั้นก็เป็นเราที่อยู่ข้างๆ เขาตลอด เพราะว่าเขามาอยู่ที่นี่ก็อยู่ตัวคนเดียว ตอนนั้นหน้าชาค่ะ แต่เสร็จแล้วเราก็มานั่งจับมือกันว่าถ้ามันไม่ไหวแล้วจริงๆ หมิวยอมทุกอย่างให้เขา ยอมจนไม่รู้จะยอมอย่างไรแล้ว เขาก็บอกว่าเขายอมให้หมิวทุกอย่างจนไม่รู้จะยอมอย่างไรแล้ว ถ้าครั้งนี้ต้องยอมแล้วจะเจ็บหรือจะต้องเสียใจก็ยอม"

เรายังได้คุยกับเขาอยู่ไหม?

"ไม่ได้คุยเลยค่ะ ไม่คุยกันจะดีกว่า ดีกว่ามานั่งคุยกันแล้วยังเหลือความรู้สึกอะไรอยู่ เพราะมันทำร้ายหมิวเอง ไม่ได้ทำร้ายเขาหรอก เพราะเขาคงหมดไปนานแล้ว เขาก็คงคิดว่าที่ไม่คุยกับหมิวแล้ว เพราะเขาไม่อยากให้หมิวเจ็บอีกแล้วเหมือนกันนี้"

รู้สึกยังไงคะที่คบกันมา 7 ปีแล้วอยู่ๆมันก็หายไปเลย?

"เหมือนเนื้องอกที่มันอยู่ที่ใจ วันนึงพอมันตัดทิ้งแล้วหัวใจมันก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว"

เข้มแข็งขึ้นไหมคะตอนนี้ ?

"ดีขึ้นค่ะ ตอนนี้ดีชึ้นแล้ว มีผู้จัดการคอยดูแล คอยโทรหา มีเพื่อนๆพี่น้องๆ แล้วก็ไปเรียนค่ะ โฟกัสเรื่องอื่นดีกว่า แล้วตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมจะคุยกับใครค่ะ ขอรักษาตัวเองก่อน ไม่อยากเอาใครเข้ามาแทนเพราะว่ามันไม่แฟร์"