ไม่รอด! ตร.เรียกตัวสาวขับรถชนเซนติเมตร แจ้งข้อหาหนัก

สาววีออสดำไม่รอดผิดชัดทำพิธีกรดับ2ศพ - โดยเมื่อวันที่ 4 ม.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี อุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนแล้วตกคลอง เป็น รถยนต์เก๋ง CR-V กับรถยนต์เก๋งวีออสสีดำ ทำให้พิธีกรรายการดังและเพื่อนที่นั่งในรถมาด้วยเสียชีวิต พื้นที่ สภ.ภูภิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้สั่งการให้ ชุดพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ภ.จว.เมืองเชียงใหม่ ทำการตรวจสอบคลิปจากภาพกล้องวงจรปิด บริเวณสามแยกที่เกิดเหตุ และลงไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานแสวงหาข้อเท็จจริง ประกอบสำนวนการสอบสวน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย

โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้นพบว่า เส้นแบ่งการจราจร ถนนคันคลองชลประทาน (ขาออกเมือง) จุดเกิดเหตุ มีไฟเขียวไฟแดง พบว่ามี 3 ช่องทาง โดย 2 ช่องทางแรก ช่องซ้ายสุดให้รถวิ่งไปทางตรง ช่องกลาง เป็นช่องที่รถสามารถไปทางตรง และเลี้ยวขวาได้ และช่องขวาริมสุด เป็นช่องที่ใช้สำหรับยูเทิร์น โดยมีเครื่องหมายการตีเส้นจราจรสีขาวแบ่งไว้อย่างชัดเจน

จากการตรวจสอบคลิปวงจรปิด ช่องทางการเดินรถของคู่กรณีทั้ง 2 คัน พบว่า ฝ่ายรถยนต์นั่ง CR-V ขับมาตามช่องทางในเลนที่สามารถขับเลี้ยวขวาได้ ในส่วนของฝ่ายรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส ซึ่งขับอยู่ช่องขวา ซึ่งเป็นช่องที่ใช้สำหรับยูเทิร์นเท่านั้น แต่ปรากฏว่าผู้ขับขี่กลับขับไปทางตรง ไม่ได้ยูเทิร์น กระทั่งเกิดอุบัติเหตุชนกับรถ CR-V ขึ้น

โดยเบื้องต้นวันนี้ (4 ม.ค.2562) พนักงานจะได้เรียกตัว ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งวีออส มาแจ้งรับทราบข้อกล่าวหาในฐานความผิดขับขี่รถยนต์โดยประมาท เป็นเหตุทำให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทรัพย์สินเสียหาย ตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป

ในส่วนของประเด็นจากภาพในคลิป รถ CR-V ไม่ได้เปิดไฟเลี้ยวขวาไว้ขณะที่ขับขี่มาถึงจุดกลับรถนั้น จะมีความผิดหรือไม่นั้น พนักงานสอบสวนต้องทำการตรวจสอบคลิปให้ชัดเจนและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ซึ่งช่องทางดังกล่าวนั้นเป็นช่องทางให้รถวิ่งทางเดียวอยู่แล้ว หากไม่เปิดไฟเลี้ยว ก็อาจจะเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดกฎจราจรเรื่องการไม่เปิดให้สัญญาณไฟเท่านั้น

แต่ในส่วนของรถยนต์เก๋งสีดำ ที่ขับขี่อยู่เลนขวาสุด ซึ่งมีเครื่องหมายจราจรบนผิวทางระบุไว้นั้นก็เป็นการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ โดยพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานตามกฎหมายต่อไป

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้คงต้องรอให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ผลการตรวจพิสูจน์ร่องรอยการเฉี่ยวชน ผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ โดยจะดำเนินการด้วยความโปร่งใส รวดเร็วและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อสรุปมีความเห็นในทางคดีและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องลงมากำกับดูแลการทำสำนวนการสอบสวบ ของพนักงานสอบสวนต้องให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับการกระทำผิดแห่งคดีเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน และตอบคำถามสังคมได้

พร้อมขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนคำนึงถึงภัยที่อาจจะเกิดขึ้นบนท้องถนน เพื่อลดอัตราความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ซึ่งในแต่ละปีนั้น มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุและการสูญเสียทั้งในชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมากจากอุบัติเหตุจราจร โดยขอให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญในการเคารพกฎจราจร และมีน้ำใจต่อกันบนท้องถนน อาทิ การขับขี่รถให้ช้าลง ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรจอดรถในที่ที่เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย หยุดให้ทางแก่คนเดินเท้าตรงทางม้าลาย และเคารพสัญญาณไฟจราจร