น้องพีคลูกไพโรจน์ เปิดแชทพ่อ ยันอยากจบ ไม่คิดทำลายชื่อเสียง!
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย น้องพีคลูกไพโรจน์ เปิดแชทพ่อ ยันอยากจบ ไม่คิดทำลายชื่อเสียง!
จากกรณี ลูกชายอดีตพระเอกดัง ไพโรจน์ สังวริบุตร ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวระหว่างพ่อกับแม่ ที่มีปัญหาการฟ้องร้อง หลังจากหย่าร้างกัน โดยมีปัญหาเรื่องครอบครองกรรมสิทธิ์บ้านตามมานั้น
ล่าสุด พีค สังวริบุตร กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องออกมาชี้แจงเรื่องพ่อนำชื่อแม่ออกจากการเป็นเจ้าบ้านที่ จ.กาญจนบุรีนั้น ไม่ได้ไม่เจตนาไม่ดี หรือต้องการโจมตี หรือทำลายชื่อเสียงของพ่อ เพียงแต่อยากให้พ่อนำชื่อแม่กลับเป็นเจ้าบ้านเหมือนเดิม เพราะที่ดิน 19 ไร่ที่เป็นปัญหาอยู่นี้ ไม่ได้มีโฉนดในการแบ่งทรัพย์สินกันศาลจึงไม่ได้สั่งให้แบ่งเป็นของใครคนใดคนหนึ่ง
"ผมขอยืนยันว่าที่ดินนั้นเป็นชื่อพ่อ ส่วนแม่เป็นเจ้าบ้าน จึงอยากให้กลับไปเหมือนเดิมเพราะเป็นของพ่อและแม่ที่ร่วมสร้างกันมาตั้งแต่ปี 2538 ขณะที่ผมเองเกิดเมื่อปี 2539 ก็ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เป็นครั้งคราว ยังจำได้ว่าเคยวิ่งเล่นอยู่ในบ้านหลังนี้ ทั้งยังได้ไปพักหลายครั้งหลายหน"นายรวิกร กล่าว
ตั้งแต่ได้ทราบว่าพ่อนำชื่อแม่ออกจากการเป็นเจ้าบ้านก็ได้ขอพบขอพูดคุยกับพ่อเรื่องนี้มาตลอด แต่พ่อก็บ่ายเบี่ยงอ้างติดธุระติดถ่ายละคร จึงไม่มีโอกาสได้เจอกับพ่อ หรือการที่ตนไลน์ไปคุยกับพ่อ พ่อก็ได้พยามห้ามตนไม่ให้เข้าบ้าน โดยพ่อได้บอกให้ตนดูข้อกฎหมาย
ล่าสุด พีค สังวริบุตร กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องออกมาชี้แจงเรื่องพ่อนำชื่อแม่ออกจากการเป็นเจ้าบ้านที่ จ.กาญจนบุรีนั้น ไม่ได้ไม่เจตนาไม่ดี หรือต้องการโจมตี หรือทำลายชื่อเสียงของพ่อ เพียงแต่อยากให้พ่อนำชื่อแม่กลับเป็นเจ้าบ้านเหมือนเดิม เพราะที่ดิน 19 ไร่ที่เป็นปัญหาอยู่นี้ ไม่ได้มีโฉนดในการแบ่งทรัพย์สินกันศาลจึงไม่ได้สั่งให้แบ่งเป็นของใครคนใดคนหนึ่ง
"ผมขอยืนยันว่าที่ดินนั้นเป็นชื่อพ่อ ส่วนแม่เป็นเจ้าบ้าน จึงอยากให้กลับไปเหมือนเดิมเพราะเป็นของพ่อและแม่ที่ร่วมสร้างกันมาตั้งแต่ปี 2538 ขณะที่ผมเองเกิดเมื่อปี 2539 ก็ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เป็นครั้งคราว ยังจำได้ว่าเคยวิ่งเล่นอยู่ในบ้านหลังนี้ ทั้งยังได้ไปพักหลายครั้งหลายหน"นายรวิกร กล่าว
ตั้งแต่ได้ทราบว่าพ่อนำชื่อแม่ออกจากการเป็นเจ้าบ้านก็ได้ขอพบขอพูดคุยกับพ่อเรื่องนี้มาตลอด แต่พ่อก็บ่ายเบี่ยงอ้างติดธุระติดถ่ายละคร จึงไม่มีโอกาสได้เจอกับพ่อ หรือการที่ตนไลน์ไปคุยกับพ่อ พ่อก็ได้พยามห้ามตนไม่ให้เข้าบ้าน โดยพ่อได้บอกให้ตนดูข้อกฎหมาย
ส่วนเรื่องที่ผู้ใหญ่บ้านระบุว่าไม่เห็นแม่มาอยู่บ้านที่ จ.กาญจนบุรี และส่งจดหมายไปให้ ขอชี้แจงว่าทางเข้าบ้านตนที่ จ.กาญจนบุรีนั้นค่อนข้างเป็นทางลึกและต้องเลาะชายป่าเข้าไป แต่ก็มีคนเฝ้าบ้าน ส่วนบ้านผู้ใหญ่บ้านนั้นอยู่ลึกเข้าไปอีก และจากการสอบถามคนเฝ้าบ้านก็บอกว่าไม่เคยได้รับจดหมายอะไรเลย
"ผมอยากให้พ่อมาพูดคุยและเจรจาตกลงกันดีๆ ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาเรื่องการฟ้องร้องระหว่างพ่อกับแม่ผมก็ไม่เคยเข้าไปไปยุ่ง แต่สำหรับที่ดินผืนนี้ผมคิดว่าไม่ควรตกไปเป็นของคนอื่นที่ไม่ได้ร่วมสร้างมา มันควรเป็นของพ่อกับแม่เหมือนเดิม สิ่งที่ผมออกมาให้สัมภาษณ์ก็ต้องการเพียงแค่นี้เท่านั้น ถ้าพ่อจะทำอะไรกับที่ดินผืนนี้ควรบอกผมกับแม่ก่อน ไม่ใช่ทำอะไรโดยไม่ปรึกษาหารือกัน ผมเคยคิดไว้นานแล้วว่า หากวันหนึ่งมีทุนในการทำธุรกิจจะทำรีสอร์ท เพราะที่นั่นเคยเป็นรีสอร์ทมาก่อน"
"ผมอยากให้พ่อมาพูดคุยและเจรจาตกลงกันดีๆ ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาเรื่องการฟ้องร้องระหว่างพ่อกับแม่ผมก็ไม่เคยเข้าไปไปยุ่ง แต่สำหรับที่ดินผืนนี้ผมคิดว่าไม่ควรตกไปเป็นของคนอื่นที่ไม่ได้ร่วมสร้างมา มันควรเป็นของพ่อกับแม่เหมือนเดิม สิ่งที่ผมออกมาให้สัมภาษณ์ก็ต้องการเพียงแค่นี้เท่านั้น ถ้าพ่อจะทำอะไรกับที่ดินผืนนี้ควรบอกผมกับแม่ก่อน ไม่ใช่ทำอะไรโดยไม่ปรึกษาหารือกัน ผมเคยคิดไว้นานแล้วว่า หากวันหนึ่งมีทุนในการทำธุรกิจจะทำรีสอร์ท เพราะที่นั่นเคยเป็นรีสอร์ทมาก่อน"
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom