“หนุ่ม กะลา” โดนเรียกค่าลิขสิทธิ์ 60 ล้าน ตัดพ้อจ่ายไม่ไหว!!
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย “หนุ่ม กะลา” โดนเรียกค่าลิขสิทธิ์ 60 ล้าน ตัดพ้อจ่ายไม่ไหว!!
กรณี นายชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ กรรมการผู้จัดการบริษัทมิวสิคบั๊ก จำกัด เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนทั่วประเทศ เนื่องจากนายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ หนุ่ม กะลา อายุ 36 ปี นักร้องชื่อดัง นำผลงานเพลง “ยาม” ไปร้องแสดงสดในสถาน บันเทิงตามจังหวัดต่างๆกว่า 44 แห่ง จนถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม เข้าจับกุม
ในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าด้วยการเผยแพร่ภาพและเสียงต่อสาธารณะชน ซึ่งงานดนตรีกรรมหรือโสตทัศนวัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจับกุมได้ภายในร้านอะลาดิน (Aladin Club) ซอยรามอินทรา 14 แขวงจรเข้บัว เขต เขตลาดพร้าว กทม เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 พ.ย. หนุ่ม กะลา เดินทางมา ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อเข้าพบนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นท้องที่ใน 44 แห่ง ที่ ทางบริษัทมิวสิคบั๊ก เข้าแจ้งความไว้ หลังจากนำเพลง “ยาม” ไปแสดงดนตรีสด ในผับ 4 คูณ 4 อ๊อฟโร้ด ตั้งอยู่ริมถนนศรีนครินทร์ อ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อช่วงตนเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
หนุ่ม กะลา กล่าวว่า ตนเองคงพูดอะไรได้ไม่มาก คิดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าเค้าอยากให้จบก็คงจบไปนานแล้ว เนื่องจากมีการนัดมาตกมาพูดคุยกันแล้ว แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากสิ่งที่เค้าเรียกร้องทั้งอาญาและแพ่งนั้นมากว่า 60 กว่าล้านบาท ตนทำงานร้องเพลงไม่ได้ทำธุรกิจสร้างตึกถึงต้องมีเงินมากขนาดนั้น หากเราให้หัวใจกันเพื่อต้องการให้เรื่องจบและมีการเรียกร้องอย่างสมเหตุสมผล ตนก็พร้อมที่จะจ่าย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไม่ถึงต้องนำเพลง “ยาม” มาร้องขอชี้แจงว่า จริงๆแล้วและศิลปินคนอื่นๆในแกรมมี่ มีสิทธิที่จะร้องเพลง “ยาม” เนื่องจาก วงลาบานูน ย้ายมาอยู่แกรมมี่แล้ว ซึ่งแกรมมี่ก็นำลิขสิทธิ์มา เพื่อจัดเก็บให้กับมิวสิคบั๊ก กระทั่งสองค่ายมีข้อพิพาทกัน จนสัญญาจบลงเมื่อ 31 ตุลาคม 60 ก่อนที่ตนจะถูกไล่แจ้งความมาตั้งแต่นั้นมา
ยอมรับว่าอาจเป็นความผิดพลาดของตนที่เดินสายเล่นคอนเสิร์ตตลอด จึงไม่ทราบว่าทางมิวสิคบั๊กห้ามศิลปินในสังกัดแกรมมี่เล่นเพลง “ยาม”แล้ว ทั้งนี้ตนอยากชี้แจงว่า ไม่ได้โดนรวบระหว่างแสดงคอนเสิร์ตแต่อย่างใดตามที่มีข่าวออกไปแต่อย่างใด โดยข่าวที่ออกไปนั้นไม่เป็นความจริงเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงเข้ามาเชิญตนเองไปให้ปากคำที่โรงพักเท่านั้น และก็ไม่ได้มีผลกระทบกับงานแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ ตนเองเดินทางมา ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการนั้น เพื่อ เข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เละเป็นพื้นที่แรกที่ตนเข้ามารายงานตัว หลังจากทราบว่าตนถูกแจ้งดำเนินคดีกว่า 44 แห่ง ทั้งนี้เพื่อความสบายใจจึงเดินทางกลับมาที่นี่อีกอีกครั้ง ถึงแม้ทาง พนักงานสอบสวนจะไม่ได้เรียกก็ตาม เพื่อให้ทางคู่กรณีทราบว่า ตนเองไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนีแต่อย่างใด
https://www.facebook.com/teeneedotcom