เปิดภาพนาที “โอ วรุฒ” ช็อกหมดสติ แฟนเก่าเผยคำพูดสุดท้ายที่ได้คุย ชี้ติดเพื่อนทำทรุด (คลิป)

นับเป็นการสูญเสียของวงการบันเทิงที่ทำเอาหลายคนโศกเศร้าต่อการจากไปของ โอ วรุฒ วรธรรม ที่เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ เมื่อเวลา 02.40 น. วันที่ 11 ก.ย.61 หลังอาการทรุดหนัก นอนรักษาตัวในห้องไอซียู โดยครอบครัว พ่อแม่ และ นีโน่ เพื่อนสนิท รุดถึงโรงพยาบาลกลางดึก ดูร่างสิ้นลมด้วยความโศกเศร้าอาลัย เตรียมรับศพกลับช่วงบ่ายวันนี้

อย่างไรก็ตาม น้องสาวโอ วรุฒ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เขามีอาการป่วย ไม่สบาย เจ็บคอ จึงไปหาหมอและได้ยามารับประทาน แต่ยังมีอาการอ่อนเพลีย หลังเสร็จจากการร่วมงานที่ จ.ลำพูน เขาก็เดินทางกลับมาบ้านพักที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ และขอตัวขึ้นไปอาบน้ำเพื่อพักผ่อน แต่ก็เกิดล้มลง โชคดีที่ตนอยู่ใกล้ จึงคว้าตัวไว้ทัน ก่อนจะล้มลงกระแทกพื้น หลังจากนั้นก็เกิดอาการชักเกร็งจนหมดสติ จึงได้เร่งนำส่งโรงพยาบาล

เปิดภาพนาที “โอ วรุฒ” ช็อกหมดสติ แฟนเก่าเผยคำพูดสุดท้ายที่ได้คุย ชี้ติดเพื่อนทำทรุด (คลิป)

ด้าน อุ้ย สุธิตา (เกตานนท์) โบด้า นักแสดง อดีตคนสนิทของโอ วรุฒ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งได้คุยกับโอ วรุฒ เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากไม่ได้คุยกันมานาน ขณะนั้นโอ วรุฒ มีความเครียดและท้อแท้เพราะไม่มีงาน ยอมรับว่าไม่ได้ตกใจที่เขาต้องเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากในอดีตโอ วรุฒ ใช้ชีวิตหนักมาก เป็นคนเพื่อนเยอะ คอยมอบสิ่งดี ๆ ให้คนรอบข้าง จนเขาลืมมองว่าหากอายุเยอะร่างกายมันจะไม่เหมือนเด็ก

ตนพยายามเตือนเขา ตนก็รู้สึกแย่ไปด้วย ต่อให้ตนรักใครมาก ๆ ตนก็ต้องรักตัวเองก่อน ตนเป็นห่วงไม่อยากเห็นเขาเป็นอะไรไปต่อหน้าต่อตา การใช้ชีวิตแบบนี้มันไม่ไหว ถ้ารักใครสักคนแล้วต้องเห็นเขาเข้าโรงพยาบาลตลอด ตนก็อยากให้เขาปรับปรุง ห่างออกมาก็คิดว่าเขาคิดได้ แต่ความที่โอ วรุฒ มีเพื่อนเยอะ เลยฉุดกันไปในทางที่กู่ไม่กลับ

ขณะที่แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์ ผู้ที่เคยร่วมงานภาพยนตร์เรื่องคู่กรรม ในปี 2531 คู่กับโอ วรุฒ โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของโอ วรุฒ และทำให้เขาได้แจ้งเกิดทันที โดยแหม่มเปิดเผยว่า ไม่เจอเขามาเป็นนานนับ 10 ปีแล้ว แต่พอทราบข่าวเมื่อคืน ก็รู้สึกใจหาย ถึงรู้ว่าเขาสุขภาพไม่ดีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่อยากให้เป็นอะไรไป อย่างน้อยก็เคยทำงานร่วมกัน

โดยในอดีตเคยเล่นหนังเรื่อง คู่กรรม ด้วยกัน ตอนนั้นจำได้ว่าน้องเขายังใหม่ แต่มีความพยายาม ดูสดใส ทำให้เขามีเสน่ห์ นิสัยส่วนตัวเขาก็เป็นคนดี อัธยาศัยดี อาจจะมีบกพร่องในเรื่องงานนิดหน่อย ส่วนเรื่องที่เขาชอบดื่มเหล้า ก็เห็นเขาดื่มตั้งแต่เข้าวงการได้สักระยะ ส่วนใหญ่จะดื่มกับพี่นีโน่และแก๊งเขา เหมือนเป็นความชอบส่วนตัวของเขาด้วย เนื่องจากครอบครัว ทั้งพ่อและพี่ชายก็เป็นคนชอบดื่ม บวกกับเขาบังคับตัวเองไม่ได้ เวลาดื่มก็จะเพลิน ทำให้มางานสายเพราะไม่ตื่น ก็เป็นที่รู้กัน แต่เวลาเจอหน้าก็โกรธไม่ลง

ส่วนช่วงที่เขาป่วยหนักก่อนหน้านี้ก็ได้เจอกัน เขาผอมมาก ก็บอกเขาว่าต้องดูแลตัวเอง ให้ระวังตัวเองเพราะเป็นแบบนี้ปุบปับได้ มันจะช็อกเพราะเป็นเบาหวาน ที่ทานอะไรไปก็เผาพลาญหมด น้ำตาลสวิงตลอด ซึ่งน่ากลัว เขาตอบกลับว่า "ครับ"

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ตนก็อยากจะให้กำลังใจคุณพ่อคุณแม่ เพราะทั้งคู่อายุมากแล้ว เป็นห่วงทั้งคู่