เปิดประวัติ โอ วรุฒ จากอดีตพระเอกยอดนิยม สู่การจากลาไม่หวนกลับ

เวลา 2 .40 น. ของวันที่ 11 กันยายน 2561 วงการบันเทิงไทยได้สูญเสีย "โอ วรุฒ วรธรรม" อดีตพระเอกที่เคยเป็นที่รักของคนไทยมากที่สุดในยุคหนึ่ง ไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังโอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จากอาการชักหมดสติ และหยุดหายใจ แพทย์ได้นำตัวเข้าห้องฉุกเฉินแล้วปั๊มหัวใจหลายรอบ ท่ามกลางการเอาใจช่วยจากครอบครัว เพื่อนสนิท และ แฟนๆทั่วประเทศ แต่ในที่สุด ก็สุดยื้อ "โอ"จากไปอย่างสงบในวัย 47 ปี

สำหรับ วรุฒ วรธรรม เกิด : 17 กันยายน พ.ศ. 2512 จบการการศึกษา จากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนแล้วไปเรียนต่อที่อังกฤษ เพื่อเรียนด้านการบิน

โอ มีพี่น้อง 2คน เป็นน้องคนสุดท้อง อยู่ในวงการมากว่า 15 ปีได้เพราะความเป็นตัวของตัวเอง ไม่คิดว่ามีชื่อเสียงแล้วจะต้องแบ่งชั้นกับคนโน้นคนนี้ ทำงานด้วยความชอบมากกว่าเรื่องธุรกิจ เพราะการทำงานได้เงินก็จริงแต่ถ้าทำแล้วไม่ชอบมันก็ไม่มีความสุข วงการบันเทิงให้ความเป็นผู้ใหญ่ ทำให้รู้จักการทำอะไรให้มันถูกต้อง ทุกวันนี้นอกจากงานแสดง ยังเป็นพิธีกรหลายรายการ อาทิ เกมนักชิมสะบัดช่อ ดาราพาตะลุย โอโน่โชว์

ด้านชีวิตครอบครัว เคยสมรสกับ น.ส.พิชชภา หรือเก๋ ซึ่งพบรักกันเมื่อครั้งที่โอ วรุฒ ป่วย โดยทั้งคู่มีอายุห่างกัน 17 ปี โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน และมีบุตรชายคือ อาณาจักร วรธรรม (แอร์บัส) ปัจจุบัน วรุฒและน.ส.เจษฎาวัลย์ได้แยกทางกันแล้ว และโอ เคยออกมาเปิดเผยว่า ตนเองมีบุตรชายคนโต ที่เกิดจากภรรยาคนแรกอีกหนึ่งคน อยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ชื่อ "เอ้ก"

มรสุมชีวิต::: โอเคยได้รับฉายาว่า "เจ้าชายสายเสมอ" เนื่องจากกิตติศัพท์ที่รับรู้กันดีว่า มักมาสายในงานแสดงหรืองานพิธีต่างๆ

โดยโอเคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า "เรื่องแบ่งเวลาไม่มีปัญหาเพราะไม่จำเป็น เพราะเหมือนกับเป็นชีวิตประจำวันมากกว่า ตื่นนอนก็ออกไปทำงาน ทำเสร็จก็กลับ วันไหนไม่มีก็เที่ยว อนาคตก็จะอยู่วงการบันเทิงต่อไป แต่ถ้าไม่มีงานแล้วก็ไปอยู่ต่างจังหวัด ทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เพราะเป็นคนรักสัตว์ จะเลี้ยงตามโครงการพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อย่างแบบเศรษฐกิจพอเพียง แล้วก็เป็นฟาร์มแบบครบวงจร"

จากความผิดพลาดในการก้าวเดินของชีวิต ทำให้จากนั้น โอก็เริ่มห่างหายจากวงการบันเทิงไปเรื่อยๆ และประกอบกับประสบปัญหาชีวิตคู่ ทำให้หันเหไปพึ่ง สุรา และ กลายเป็นโรค พิษสุราเรื้อรังในที่สุด

ซึ่งเจ้าตัวเองก็เคยสารภาพถึงเรื่องนี้เอาไว้ในรายการ ชีวิตดี๊ดี ทางช่อง 3 เมื่อหลายเดือนก่อนว่า

"ปัญหาพิษสุราเรื้อรัง เริ่มต้นเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เริ่มจากเรามีปัญหาครอบครัวก่อน เราก็เลยดื่มหนัก พอเช้าก็ลุกไม่ขึ้น ก็ส่งผลต่อการทำงาน นอนน้อยแล้วยังเมาอยู่ เลยถูกปลดงานกลางอากาศ เลยคราวนี้จากที่มีปัญหาครอบครัวอย่างเดียวก็มีเรื่องงานอีก ก็เครียดหนัก คราวนี้ก็กินหนักเข้าไปอีก กินเพื่อให้ลืมความเครียด กินวันละขวดลิตร จากนั้นก็ขายบ้าน ขายทรัพย์สิน แต่ขายไปก็อยู่ได้ไม่กี่เดือนเอง ได้เยอะ แต่ค่าใช้จ่ายเราเยอะ เพราะเราใช้เงินเยอะ ดื่ม เที่ยว แจกตังค์สาวๆ

เรารู้สึกว่าเงินซื้อความสุขได้ เราพยายามลืมความทุกข์ที่อยู่ในใจเรา เป็นแบบนี้ 2 ปี ผมเมาทุเรศเลย พี่โน่มาถามว่าทำไมไม่หยุดสักที มึงทำแบบนี้ไม่ได้ มึงตายนะ หลังจากนั้นก็เป็นจุดตกต่ำที่สุดในชีวิต หลังจากไม่มีบ้านอยู่ก็ไปอาศัยอยู่บ้านชั้นเดียวหลังเล็กๆ ก็ยังไม่หยุดดื่มนะ ดื่มในห้องเล็ก 3x3 เมตร มีแค่เตียงกับโทรทัศน์ ที่นี่คือแหล่งที่ดื่มเยอะสุด เหล้าอยู่ปลายเตียง ลุกมาก็ดื่ม

เมาก็ล้มตัวลงนอน ดื่มหนักแบบนี้ 2 ปี ไม่ออกไปไหนเพราะลุกออกมาไม่ได้ ประสาทไปหมดแล้ว เพราะดื่มจนตัวไม่มีบาลานซ์ ยืนอาบน้ำไม่ได้ต้องนั่ง เพราะถ้ายืนแล้วล้มเลย ยืนใส่กางเกงไม่ได้นะ ล้ม"

"จุดเปลี่ยนคือทนสภาพตัวเองไม่ไหว มันทุเรศ ย่ำแย่ จนวันหนึ่งลุกขึ้นยืนในห้อง มองสภาพตัวเอง เราไม่ใช่ โอ วรุฒ คนเก่า ไม่ใช่ วรุฒ วรธรรม ที่ประชาชนชาวไทยชื่นชอบ มองตัวเองในกระจกว่ามันเลว ทุเรศมากๆ เลยตัดสินใจชี้ไปที่ขวดเหล้าว่า เฮ้ย มึงกับกูเลิกกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แล้ววันนั้นก็หยุดกิน ก็นอนไม่หลับอยู่ 2 วัน จนวันที่ 3 ถึงหลับ พอหลับร่างกายมันได้พักผ่อนตื่นมาวันที่ 4 ชีวิตมันดีขึ้นเลย เฮ้ย กูลุกมาตื่นได้ ความรู้สึกที่ดีมันเกิดขึ้น เราตื่นมาในสภาพที่แอลกอฮอล์ไม่อยู่ในร่างกาย เรารู้สึกว่ากูสนุกกับชีวิตแบบนี้ มันดีกว่าอี 2 ปีที่เราใช้ชีวิตแบบนั้น"