‘กัปตัน’ หลบปฏิบัติธรรม-หลัง‘มิ้ง’แท้งลูก ครอบครัวเสียใจ ขอดูใบรับรองแพทย์ขูดมดลูก
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย ‘กัปตัน’ หลบปฏิบัติธรรม-หลัง‘มิ้ง’แท้งลูก ครอบครัวเสียใจ ขอดูใบรับรองแพทย์ขูดมดลูก
หลัง มิ้ง ศวภัทร ประกาศว่าแท้งลูก ล่าสุด ด้านตัวแทนทีมที่ปรึกษาของทางครอบครัวนักแสดงหนุ่ม กัปตัน ชลธร คงยิ่งยง เผยว่า เมื่อวาน (20 ก.ค.) ทางเราได้คุยกับทางครอบครัวน้องกัปตันไปบางส่วนแล้ว เรากำลังคุยกันว่ากับเหตุการณ์ครั้งนี้จะสื่อสารกับทุกคนอย่างไรดี เพราะทุกคนก็ต้องการทราบฟีดแบ็กจากทางเรา ยังคิดกันอยู่ว่าจะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าว หรือว่าโพสต์ชี้แจงทางโซเชียลดี ตอนนี้ต้องรอน้องกัปตันก่อน เพราะว่าน้องไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่า จ.เลย ตัวน้องเองก็เพิ่งทราบข่าวตอนที่กำลังจะเข้าวัด ทางเราก็ให้น้องได้ทำในสิ่งที่เขาตั้งใจที่จะไป คือ ไปปฏิบัติธรรม 3 วัน ซึ่งภายในวันจันทร์ เราคงมีคำตอบที่ชัดเจนขึ้น เพราะว่าทางทีมที่ปรึกษาของครอบครัวน้องกัปตัน ครอบครัวน้อง และทางบริษัทนาดาว เราจะไปประชุมกันและหาข้อสรุปจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การไปปฏิบัติธรรมครั้งนี้ กัปตัน วางแผนไว้นานหรือยัง ตัวแทนทีมที่ปรึกษาของทางครอบครัวนักแสดงหนุ่ม ตอบว่า "วางแผนไว้นานแล้ว น้องเขาไปกับป้า ซึ่งมันประจวบเหมาะกับที่น้องมิ้งค์โพตส์ ที่ผ่านมาเราก็ติดตามข่าวของน้องมิ้งค์อย่างใกล้ชิด จนมาถึงเมื่อคืน (20 ก.ค.) ช่วงเวลา 2 ทุ่ม น้องมิ้งค์ก็ออกมาโพสต์ว่าตัวเองแท้ง ถามว่าความรู้สึกของทางครอบครัวกัปตันเป็นอย่างไรหลังจากทราบข่าวนี้ เท่าที่ตนได้คุยมาเมื่อวาน แน่นอนว่าไม่ใช่ความรู้สึกใจชื่นแน่นอน เพราะถ้ามันเกิดขึ้นจริง นั้นก็คือหลานของพวกเรา
หลังจากทราบข่าวเรื่องแท้ง คนที่ดูกังวลที่สุดก็คือคุณแม่ของน้องกับตัวน้อง เพราะไม่ว่าอย่างไรมันเป็นผลที่เกิดจากกระทำของตัวน้องกัปตัน แต่ที่ผ่านมาเราไม่ได้รับความชัดเจนจากทางน้องมิ้งค์เลย จะบอกว่าแท้งเราก็อยากขอดูใบรับรองแพทย์ว่ามีการขูดมดลูก ตั้งแต่วันแถลงข่าวเราก็ไม่ได้ติดต่อกับทางน้องมิ้งค์เลย เพราะว่าเราชวนเขาไปฝากท้องด้วยกัน เขาก็ไม่ไป แล้วหลักฐานต่างๆ ที่น้องบอกว่ามี แต่ไม่สามารถแสดงให้ดูได้ เราก็ยังไม่เคยเห็น
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การไปปฏิบัติธรรมครั้งนี้ กัปตัน วางแผนไว้นานหรือยัง ตัวแทนทีมที่ปรึกษาของทางครอบครัวนักแสดงหนุ่ม ตอบว่า "วางแผนไว้นานแล้ว น้องเขาไปกับป้า ซึ่งมันประจวบเหมาะกับที่น้องมิ้งค์โพตส์ ที่ผ่านมาเราก็ติดตามข่าวของน้องมิ้งค์อย่างใกล้ชิด จนมาถึงเมื่อคืน (20 ก.ค.) ช่วงเวลา 2 ทุ่ม น้องมิ้งค์ก็ออกมาโพสต์ว่าตัวเองแท้ง ถามว่าความรู้สึกของทางครอบครัวกัปตันเป็นอย่างไรหลังจากทราบข่าวนี้ เท่าที่ตนได้คุยมาเมื่อวาน แน่นอนว่าไม่ใช่ความรู้สึกใจชื่นแน่นอน เพราะถ้ามันเกิดขึ้นจริง นั้นก็คือหลานของพวกเรา
หลังจากทราบข่าวเรื่องแท้ง คนที่ดูกังวลที่สุดก็คือคุณแม่ของน้องกับตัวน้อง เพราะไม่ว่าอย่างไรมันเป็นผลที่เกิดจากกระทำของตัวน้องกัปตัน แต่ที่ผ่านมาเราไม่ได้รับความชัดเจนจากทางน้องมิ้งค์เลย จะบอกว่าแท้งเราก็อยากขอดูใบรับรองแพทย์ว่ามีการขูดมดลูก ตั้งแต่วันแถลงข่าวเราก็ไม่ได้ติดต่อกับทางน้องมิ้งค์เลย เพราะว่าเราชวนเขาไปฝากท้องด้วยกัน เขาก็ไม่ไป แล้วหลักฐานต่างๆ ที่น้องบอกว่ามี แต่ไม่สามารถแสดงให้ดูได้ เราก็ยังไม่เคยเห็น
จนในโซเชียลจับผิดบอกว่ามิ้งค์โกหกเรื่องท้อง ทางเราก็ยังไม่ได้อะไรที่เป็นหลักฐานจากฝ่ายหญิงว่าท้อง แต่เราก็ให้เกียรติฝ่ายหญิง เพราะถึงอย่างไรมันก็เกิดจากการกระทำของน้องกัปตัน ตัวน้องกัปตันเขาก็ต้องการความชัดเจน เพื่อที่จะได้เดินหน้าต่อไปในทางไหน แต่ถ้าฝ่ายหญิงไม่ยอมเอาหลักฐานมาให้เราดู เราก็ใช้วิธีการที่ขอเอกสารมาดู"
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะมีการฟ้องร้องกันหรือเปล่า ตัวแทนที่ปรึกษาครอบครับกัปตัน เผยว่า ในทางกฎหมายตรงนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้ตัดสินใจ ขอคิดให้ตกผลึกเสียก่อน ว่ามันมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพราะอย่างไรเขาทั้งคู่ก็มีความสัมพันธ์กันจริง ซึ่งเรื่องนี้เราได้มีการพูดคุยและตักเตือนน้องกัปตันไปเยอะมาก เพราะว่าเรื่องนี้มันเกิดจากผลที่ว่าน้องยังเป็นวัยรุ่น ที่ยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ แล้วไปมีความสันพันธ์กันโดยที่ไม่ป้องกัน ตรงนี้มันจะเป็นบทเรียนให้กับตัวน้องไปตลอดชีวิต
เท่าที่คุยกันคิดว่าเราน่าจะให้น้องกลับออกมาจากวัดให้เร็วขึ้น เพราะไม่ว่าทางเรา ครอบครัว และบริษัทจะได้ข้อตกลงกันอย่างไร เราก็ต้องรอการตัดสินใจจากน้องกัปตันด้วย ส่วนจะมีการฟ้องร้องไหม หรือถ้าเกิดมีการฟ้องร้องจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ขั้นตอนการดำเนินคดีทางกฎหมายของไทยมันต้องใช้เวลานานอาจจะเป็นปี หรือมากกว่านั้น ซึ่งระหว่างนั้นน้องก็ต้องคอยมาตอบเรื่องนี้ตลอด มันก็ไม่เดินหน้าสักทีมันมีหลายปัจจัย ณ ตอนนี้ทางเราต้องการความชัดเจนเท่านั้น"
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะมีการฟ้องร้องกันหรือเปล่า ตัวแทนที่ปรึกษาครอบครับกัปตัน เผยว่า ในทางกฎหมายตรงนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้ตัดสินใจ ขอคิดให้ตกผลึกเสียก่อน ว่ามันมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพราะอย่างไรเขาทั้งคู่ก็มีความสัมพันธ์กันจริง ซึ่งเรื่องนี้เราได้มีการพูดคุยและตักเตือนน้องกัปตันไปเยอะมาก เพราะว่าเรื่องนี้มันเกิดจากผลที่ว่าน้องยังเป็นวัยรุ่น ที่ยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ แล้วไปมีความสันพันธ์กันโดยที่ไม่ป้องกัน ตรงนี้มันจะเป็นบทเรียนให้กับตัวน้องไปตลอดชีวิต
เท่าที่คุยกันคิดว่าเราน่าจะให้น้องกลับออกมาจากวัดให้เร็วขึ้น เพราะไม่ว่าทางเรา ครอบครัว และบริษัทจะได้ข้อตกลงกันอย่างไร เราก็ต้องรอการตัดสินใจจากน้องกัปตันด้วย ส่วนจะมีการฟ้องร้องไหม หรือถ้าเกิดมีการฟ้องร้องจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ขั้นตอนการดำเนินคดีทางกฎหมายของไทยมันต้องใช้เวลานานอาจจะเป็นปี หรือมากกว่านั้น ซึ่งระหว่างนั้นน้องก็ต้องคอยมาตอบเรื่องนี้ตลอด มันก็ไม่เดินหน้าสักทีมันมีหลายปัจจัย ณ ตอนนี้ทางเราต้องการความชัดเจนเท่านั้น"
Cr::: khaosod.co.th
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom