เปิดนาที “ทาม” เพื่อนทอมร่ำไห้! หย่อนจดหมายความในใจใส่เตาเผาศพ “น้องอิน” (คลิป)

วันที่ 11 เม.ย. ที่ ศาลาหน้าเมรุวัดราชสิงขร พระอารามหลวง ถนนเจริญกรุง มีกำหนดประชุมเพลิง ‘น้องอิน' น.ส.ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี อดีตนักแสดงเด็กชื่อดัง อายุ 21 ปี ที่เสียชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุรถเสียหลักชนต้นไม้แถวสะพานข้ามทางรถไฟเชียงราก

โดยเมื่อเวลา 11.00 น. ทางครอบครัวของน้องอิน ได้ถวายภัตตาหารเพล แด่พระสงฆ์และสามเณร เพื่ออุทิศกุศลให้กับน้องอิน ผู้ล่วงลับ จากนั้นเวลา 14.45 น. มีการเคลื่อนศพจากศาลาไปยังเมรุ โดยมีพระสงฆ์หนึ่งรูปเดินนำขบวน ตามด้วยกระถางธูป, รูปถ่าย และ ผ้าไตร พร้อมด้วยญาติและเพื่อน คนสนิทในวงการของนักแสดงสาวผู้ล่วงลับร่วมในขบวน ก่อนจะเดินเวียนรอบเมรุ 3 รอบ แล้วนำโลงศพขึ้นตั้งบนจิตกาธาร

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนที่จะเคลื่อนศพ คุณแม่ลัดดา เชิดชูบุพการี ได้ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ โดยคุณแม่กล่าวว่า

"วันนี้วันสุดท้ายที่มาร่วมส่งน้องอินไปสู่สุขคติ แม่ก็บอกน้องให้ขึ้นไปอยู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้า และแม่ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีมาให้น้อง และทุกๆ ท่าน แม่รู้สึกขอบคุณมาก ถามว่าแม่หรือน้องมีห่วงใดๆ ไหม แม่ว่าแม่ไม่มีห่วงแล้ว และน้องก็ไม่มีห่วงแล้ว เมื่อวานนี้แม่ได้พูดบอกกับน้องแล้วประมาณว่าอย่าห่วงแม่ อย่าห่วงสิ่งใดๆ แล้ว และแม่ก็จะไม่ห่วงอะไร ไม่ต้องห่วงแม่ แม่เลี้ยงดูตัวเองได้ และก็ขออโหสิกรรมกับลูกด้วย อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ให้น้องไปในทางที่สว่างไสวข้างหน้า"

"แม่กับน้องอินผูกพันกันเพราะว่าอยู่กันสองคน คือเราช่วยกัน ไม่ใช่ว่าจะให้น้องทำงานคนเดียว เดี๋ยวคนอื่นจะว่าแม่ใช้แรงงานเด็ก น้องอินอยากหาเงินให้แม่เยอะๆ ด้วยความเป็นเด็กกตัญญู ทำงานมาตั้งแต่ 4 ขวบกว่า จนปัจจุบันอายุ 20 วาระสุดท้ายของเขาแล้ว"

"เขาเป็นเด็กที่ไม่หยุดนิ่งคิดแต่จะทำมาหาเงิน อยากมีบ้านใหม่ มีความฝันเหมือนคนทั่วไป ถามว่าตอนทำงานมีงอแงไหม ตอนเด็กน้องตั้งใจทำงานมาก เหมือนเขารู้หน้าที่ ถ้ายังไม่ถึงคิวถ่ายเขาก็จะไปนอน พอถึงเวลาถึงคิวเขา พอเรียกเขาก็จะกระเด้งขึ้นมาทำงาน เขาจะไม่งอแง บางทีเขามีข้อต่อรอง เหมือนตื่นมาแล้วยังง่วงอยู่ แม่จะบอกว่ามีไอศกรีมนะ พอกินแล้วตาสว่างแกก็จะทำงานต่อ แต่ที่งอแงแล้วไม่เล่นเลยจะไม่มี"

วันนี้คุณแม่ดูเข้มแข็งขึ้นกว่าวันก่อนๆ
"ใช่ค่ะ เพราะว่าใหม่ๆ ทำใจไม่ได้เลย มาวันนี้เราดูหมอไพ่ยิปซีมาบ้าง คำตอบที่ได้มันก็ดี ก็ทำให้ แม่สบายใจ ว่าถ้าน้องไม่ได้ไปเกิด ก็ไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์เลย ในไพ่บอกมาแบบนี้ ในส่วนตัวแม่แม่อย่าก็ให้ไปตามพรหมลิขิตของเขา ซึ่งเราเลือก ไม่ได้ ในสองวิถีนี้แม่ก็โอเค แล้วน้องก็จะได้ไปเกิดเร็วด้วยนะ"

เป็นเพราะน้องมีบุญมาก
"แม่ก็เชื่อแบบนั้นนะ เพราะเขาก็มาอยู่ได้แป๊บเดียว แล้วเขาก็ต้องไป สังเกตมีหลายคนเป็นแบบนี้ ตอนที่เขามีชีวิตอยู่เขาก็ชอบทำบุญ นั่งวิปัสสนา ชอบไหว้พระพิฆเณศ"

"สุดท้ายแล้วแล้วแม่ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้น้องอิน และส่งมาให้แม่ ทั้งสื่อทุกที่ ทั้งผู้ที่อยู่ทางบ้าน ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ"

คุณแม่ลัดดา กล่าวเพิ่มว่า "เรื่องลอยอังคาร แม่จะไปลอย แต่ตอนแรกคุณป้าเขาหัวโบราณ แต่พี่บิณฑ์บอกว่าแม่ลอยได้ ก็เลยจะไปลอย เรื่องแบ่งสัดส่วนอัฐิ แม่จะลอยหมดเลยเพราะแม่มีลูกคนเดียว ไม่มีใครที่จะมานั่งไหว้เราต่อ จะไปลอยที่วัดช่องลม สมุทรสาคร (วัดสุทธิวาตวราราม) พี่บิณฑ์บอกว่าถ้าไปสัตหีบมันไกล รถติดด้วยเป็นช่วงสงกรานต์"

ต่อมา เวลา 16.05 น. บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เป็นผู้ที่น้องอินให้ความเคารพ ได้เป็นผู้อ่านประวัติ และกล่าวคำสรรเสริญ และเชิญแขกผู้มีเกี่ยวทุกท่านยืนขึ้นเพื่อไว้อาลัยให้แก่ น้องอิน ผู้ล่วงลับ เป็นเวลา 1 นาที ก่อนก่อนจะเริ่มพิธีทอดผ้าบังสุกุลและฌาปนกิจ ตามลำดับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ด้วยความอาลัย แด่การจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับของ น้องอิน-ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี พื้นที่โดยรอบเมรุมีชาวบ้านที่มาร่วมแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมาก

ต่อด้วย เชิญพระสงฆ์ขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ตามด้วยแขกผู้มีเกียรติ ตามลำดับ โดยมี บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เป็นประธานในพิธี

ต่อมา เมื่อถึงเวลาตอนเผาจริง ทาม เพื่อนคนสนิท ได้เดินขึ้นมาเป็นลำดับสุดท้าย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปิดตู้เผา ทามได้พูดว่า "มีอะไรจะให้อิน" พร้อมกับเปิดกระเป๋า หยิบจดหมายใส่เข้าไปในตู้เผาด้วย

 สุดท้าย บิณฑ์ ได้ปลดรูปน้องอิน จากบนเมรุลงมาให้แม่ที่ยืนรออยู่ข้างล้าง พร้อมกับให้หันรูปเข้าหาตัวแล้วกลับบ้าน โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มแต่อย่างใด

Cr::khaosod.co.th