บวกกับผมทรงสะดุดตาที่ไถเกรียนทั้งสองข้างแต่ไว้ยาวตลอดช่วงกลางศีรษะแบบที่เรียกว่า “โมฮ็อก” ทำให้ “วิน เอี่ยมอ่อง” ถูกจับตามองจากวงการมายากลเมืองไทยเป็นพิเศษ อย่างที่บอกแล้วว่าการแสดงของเขามันช่างแตกต่างจากที่คนไทยเคยดู วินบอกว่าการแสดงของเขาไม่ใช่มายากล แต่มันคือ “มายาจิต”
ฟังจากปาก วิน เอี่ยมอ่อง ผมเป็นนักมายากลจิต
การแสดงของเขาที่ดูแตกต่างจากการแสดงมายากลทั่วไป
บวกกับผมทรงสะดุดตาที่ไถเกรียนทั้งสองข้างแต่ไว้ยาวตลอดช่วงกลางศีรษะแบบที่เรียกว่า “โมฮ็อก” ทำให้ “วิน เอี่ยมอ่อง” ถูกจับตามองจากวงการมายากลเมืองไทยเป็นพิเศษ อย่างที่บอกแล้วว่าการแสดงของเขามันช่างแตกต่างจากที่คนไทยเคยดู วินบอกว่าการแสดงของเขาไม่ใช่มายากล แต่มันคือ “มายาจิต”
บวกกับผมทรงสะดุดตาที่ไถเกรียนทั้งสองข้างแต่ไว้ยาวตลอดช่วงกลางศีรษะแบบที่เรียกว่า “โมฮ็อก” ทำให้ “วิน เอี่ยมอ่อง” ถูกจับตามองจากวงการมายากลเมืองไทยเป็นพิเศษ อย่างที่บอกแล้วว่าการแสดงของเขามันช่างแตกต่างจากที่คนไทยเคยดู วินบอกว่าการแสดงของเขาไม่ใช่มายากล แต่มันคือ “มายาจิต”
หลายคนคงเคยเห็นการแสดงของเขามาบ้างแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการหักช้อนหักส้อมให้งอได้ทั้ง ๆ ที่มันอยู่ในมือเขาเฉย ๆ การทำให้เหรียญบิดเบี้ยวทั้ง ๆ ที่กำอยู่ในมือผู้ชม การใช้พลังถ่ายเทความร้อนไปสู่กระดาษที่ผู้ชมกำไว้ในมือและกระดาษนั้นก็มีควันและความร้อนจริง ๆ จนผู้ชมต้องสะบัดทิ้ง
และอีกหลายการแสดงที่ล้วนแล้วแต่สร้างความแปลกใจระคนสงสัย ว่าเขามีพลังจิตและควบคุมจิตใจผู้อื่นได้จริงหรือ...??
ตอนนี้เด็กไทยคนนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นผู้แสดงกลแนวนี้เป็นคนแรก ๆ ของประเทศแล้ว วินยังได้รับการว่าจ้างไปแสดงในต่างประเทศบ่อยครั้ง ปลายเดือนม.ค.นี้เขาก็ต้องเดินทางไปแสดงที่อิตาลีนานนับเดือน ซึ่งชื่อเสียงของวินในต่างประเทศก็เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา และนับว่าเขาประสบความสำเร็จอย่างล้นเหลือกับอาชีพนักมายาจิต อินเตอร์ด้วยอายุเพียง 24 ปี
ไม่ว่าจะเป็นการหักช้อนหักส้อมให้งอได้ทั้ง ๆ ที่มันอยู่ในมือเขาเฉย ๆ การทำให้เหรียญบิดเบี้ยวทั้ง ๆ ที่กำอยู่ในมือผู้ชม การใช้พลังถ่ายเทความร้อนไปสู่กระดาษที่ผู้ชมกำไว้ในมือและกระดาษนั้นก็มีควันและความร้อนจริง ๆ จนผู้ชมต้องสะบัดทิ้ง
และอีกหลายการแสดงที่ล้วนแล้วแต่สร้างความแปลกใจระคนสงสัย ว่าเขามีพลังจิตและควบคุมจิตใจผู้อื่นได้จริงหรือ...??
ตอนนี้เด็กไทยคนนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นผู้แสดงกลแนวนี้เป็นคนแรก ๆ ของประเทศแล้ว วินยังได้รับการว่าจ้างไปแสดงในต่างประเทศบ่อยครั้ง ปลายเดือนม.ค.นี้เขาก็ต้องเดินทางไปแสดงที่อิตาลีนานนับเดือน ซึ่งชื่อเสียงของวินในต่างประเทศก็เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา และนับว่าเขาประสบความสำเร็จอย่างล้นเหลือกับอาชีพนักมายาจิต อินเตอร์ด้วยอายุเพียง 24 ปี
วิน หรือ วิชยุตม์ เอี่ยมอ่อง เป็นเด็กไทยแท้บ้านอยู่อุบลราชธานี
แต่ที่เราเห็นเขาพูดภาษาไทยกระท่อนกระแท่นเป็นเพราะ เขาไปอยู่อเมริกาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ กลับมาเมืองไทยตอนอายุ 11 ขวบ อยู่อีกไม่กี่ปีเขาก็ไปเรียนต่อที่อังกฤษจบปริญญา ตรีด้านศิลปะ และตัดสินใจเรียนโทด้านจิตวิทยา โดยได้มาสเตอร์ดีกรีจากเบอร์มิงแฮมในสาขาการบำบัดและสะกดจิต เขายังเป็นเด็กไทยคนเดียวที่ได้เป็นสมาชิกของ International brotherhood of Magician (I.B.M.)
วินสนใจการเล่นมายากลตั้งแต่อายุ 12 ขวบ เขาเอาไพ่ไปเล่นกับเพื่อนที่โรงเรียนเพราะอยากทายใจเพื่อนได้
จากนั้นได้อ่านหนังสือจิตวิทยาเล่มหนึ่งทำให้เขารู้ว่าเขาสนใจด้านนี้ เขาทิ้งกลไพ่ทันทีเพราะลึก ๆ ในใจเขารู้ว่าผู้ที่ชมกลไพ่ยังไงก็รู้ว่านั่นคือการเล่นกล เขาเอามายากลแบบเดิมมาผสมผสานกับด้านจิตวิทยาเพื่อให้รับรู้ถึงจิตใจคนอื่น ให้ควบคุมจิตใจคนอื่นได้ และเขาก็บัญญัติศัพท์การแสดงของเขาว่ามายาจิต
“ผู้ที่ชมการแสดงของผมอาจจะคิดว่าผมมีพลังจิต แต่ผมบอกได้เลยว่าผมไม่มีพลังจิต ผมไม่สามารถบอกได้ว่าพลังจิตไม่มีจริง แต่ผมยังไม่เคยเห็นหลักฐานว่าคนที่มีพลังจิตจริง ๆ สักครั้ง สำหรับการแสดงของผม ไม่ว่าจะหักช้อน หักส้อม เป็นเรื่องจริงเพราะมันเป็นวิทยาศาสตร์ มีหลักฐานยืนยันได้ มันคือการควบคุมกระแสไฟฟ้าในตัวเรา และผมยืนยันได้ว่าทุกคนก็สามารถทำแบบผมได้ หากได้รับการฝึกฝน”
แต่ที่เราเห็นเขาพูดภาษาไทยกระท่อนกระแท่นเป็นเพราะ เขาไปอยู่อเมริกาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ กลับมาเมืองไทยตอนอายุ 11 ขวบ อยู่อีกไม่กี่ปีเขาก็ไปเรียนต่อที่อังกฤษจบปริญญา ตรีด้านศิลปะ และตัดสินใจเรียนโทด้านจิตวิทยา โดยได้มาสเตอร์ดีกรีจากเบอร์มิงแฮมในสาขาการบำบัดและสะกดจิต เขายังเป็นเด็กไทยคนเดียวที่ได้เป็นสมาชิกของ International brotherhood of Magician (I.B.M.)
วินสนใจการเล่นมายากลตั้งแต่อายุ 12 ขวบ เขาเอาไพ่ไปเล่นกับเพื่อนที่โรงเรียนเพราะอยากทายใจเพื่อนได้
จากนั้นได้อ่านหนังสือจิตวิทยาเล่มหนึ่งทำให้เขารู้ว่าเขาสนใจด้านนี้ เขาทิ้งกลไพ่ทันทีเพราะลึก ๆ ในใจเขารู้ว่าผู้ที่ชมกลไพ่ยังไงก็รู้ว่านั่นคือการเล่นกล เขาเอามายากลแบบเดิมมาผสมผสานกับด้านจิตวิทยาเพื่อให้รับรู้ถึงจิตใจคนอื่น ให้ควบคุมจิตใจคนอื่นได้ และเขาก็บัญญัติศัพท์การแสดงของเขาว่ามายาจิต
“ผู้ที่ชมการแสดงของผมอาจจะคิดว่าผมมีพลังจิต แต่ผมบอกได้เลยว่าผมไม่มีพลังจิต ผมไม่สามารถบอกได้ว่าพลังจิตไม่มีจริง แต่ผมยังไม่เคยเห็นหลักฐานว่าคนที่มีพลังจิตจริง ๆ สักครั้ง สำหรับการแสดงของผม ไม่ว่าจะหักช้อน หักส้อม เป็นเรื่องจริงเพราะมันเป็นวิทยาศาสตร์ มีหลักฐานยืนยันได้ มันคือการควบคุมกระแสไฟฟ้าในตัวเรา และผมยืนยันได้ว่าทุกคนก็สามารถทำแบบผมได้ หากได้รับการฝึกฝน”
วิน นิยามคำมายาจิตว่า การใช้สัมผัสทั้ง 5 ที่เรามีอยู่ทำให้เกิดภาพลวงตาในสัมผัสที่ 6
และการแสดงของเขาจะต้องเล่นกับผู้ชมเท่านั้น เพราะการแสดงของเขาจะต้องเข้าไปถึงจิตใจของฝ่ายตรงข้าม ผิดกับการแสดงมายากลที่สามารถเล่นกับตัวเองได้ วินยังบอกอีกว่าการแสดงของเขาจะได้ผลลัพธ์ไม่ 100% เหมือนกับมายากล เพราะมายากลจะเหมือนถูกกำหนดไว้เลยว่าเล่นแบบนี้จะได้ผลออกมาแบบนั้น แต่สำหรับการแสดงของเขาจะขึ้นอยู่กับจิตใจของผู้เล่น จึงมีความเป็นไปได้ที่การแสดงจะล้มเหลว
“บ่อยครั้งครับที่มันไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น เรียกได้ว่าล้มเหลวครับ แต่ผมก็จะแก้สถานการณ์ด้วยการพูดซึ่งมันก็คือจิตวิทยาอย่างหนึ่ง เพื่อเชื่อมไปยังการแสดงชุดต่อไป”
วินย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นมายากลหรือมายาจิตของเขา เป็นเพียงการแสดง ไม่ได้เกิดจากพลังจิตใด ๆ ทั้งนั้น....!!.
และการแสดงของเขาจะต้องเล่นกับผู้ชมเท่านั้น เพราะการแสดงของเขาจะต้องเข้าไปถึงจิตใจของฝ่ายตรงข้าม ผิดกับการแสดงมายากลที่สามารถเล่นกับตัวเองได้ วินยังบอกอีกว่าการแสดงของเขาจะได้ผลลัพธ์ไม่ 100% เหมือนกับมายากล เพราะมายากลจะเหมือนถูกกำหนดไว้เลยว่าเล่นแบบนี้จะได้ผลออกมาแบบนั้น แต่สำหรับการแสดงของเขาจะขึ้นอยู่กับจิตใจของผู้เล่น จึงมีความเป็นไปได้ที่การแสดงจะล้มเหลว
“บ่อยครั้งครับที่มันไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น เรียกได้ว่าล้มเหลวครับ แต่ผมก็จะแก้สถานการณ์ด้วยการพูดซึ่งมันก็คือจิตวิทยาอย่างหนึ่ง เพื่อเชื่อมไปยังการแสดงชุดต่อไป”
วินย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นมายากลหรือมายาจิตของเขา เป็นเพียงการแสดง ไม่ได้เกิดจากพลังจิตใด ๆ ทั้งนั้น....!!.
https://www.facebook.com/teeneedotcom