อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2561 ทรายได้ออกมาเผยว่า ตนขอบคุณสำหรับกำลังใจ ตนอ่านทุกคอมเมนต์ที่มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ที่ตนพูดเพราะมันก็คือความเหนื่อยล้าของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่หาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่ก่อนพ่อทำให้แม่อย่างไร ตนก็ทำให้แม่อย่างนั้น แต่ถึงอย่างไร ตนก็คือคนที่ต้องกินยาต้านเศร้าทุกวัน บางวันมันรับไม่ไหว ยาก็เอาไม่อยู่ ความรักที่มีอาจจะไม่ได้กุ๊กกิ๊กอย่างที่แม่หวัง แต่ถึงอย่างไร ตนก็ไม่มีวันทิ้งแม่ไปไหน
"เราไม่ได้รู้สึกผิดบาปที่เสียใจเรื่องแม่นะ อย่างน้อยมันก็เตือนให้เราได้รู้ ว่าเราเป็นคนที่แบกทุกเรื่อง ทุกอารมณ์ไม่ไหวหรอก แต่อารมณ์ก็เป็นคนละอย่างกับหน้าที่ และเรามั่นใจอย่างยิ่ง ว่า เราไม่เคยบกพร่องในหน้าที่ ไม่ว่าจะในฐานะลูก ฐานะหัวหน้าครอบครัว ฐานะนักแสดง หรืออะไรก็ตาม :))"
นอกจากนี้ ทรายเองยังบอกว่า เธอเองเข้าใจแม่เสมอ ตนเกิดมาในยุคปี 1980 ในยุคที่ยังไม่สร่างจากบุปผาชน แม่เองก็ไม่มีความเป็นแม่อย่างที่หลายคนวาดหวัง แม่ทั้งโยนตนลงบนเตียง ใช้นมชงเลี้ยง และจ้างพยาบาลมาดู ไม่ยอมอาบน้ำให้ แต่เมื่อตนเป็นโคลิค แม่ก็ใจสลายเหมือนกัน
แม่อาจจะไม่รู้ว่าการเลี้ยงเด็กคืออะไร พอโตขึ้นมาหน่อยแม่ก็เป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งในฐานะที่ตนเป็นลูกคนโต ตนก็ได้แต่สัญญาว่าจะดูแลแม่ เพราะแม่เองนั้น บอบบางกว่าที่คิด
"แม่บอบบางกว่าฉัน เข้าใจโลกได้น้อยกว่า การมีแม่คือการมีลูกวัยรุ่นที่ฉันไม่มีวันหมดห่วง ฉันไม่ได้รักแม่ที่เป็นแม่เป็นแม่ที่ดี ตื่นเช้าไปส่ง นั่งฟังปฐมนิเทศทุกปี
ฉันรักที่แม่ไม่ทำอะไรแบบนั้นเลย แล้วบอกฉันว่า, นี่คือแม่จะเลือกได้หรือไม่ เราก็เป็นของกันและกัน"
https://www.facebook.com/teeneedotcom