เมื่อวันที่ 19 มกราคม เมย์-พิชญ์นาฏ กล่าวว่า สภาพจิตใจวันนี้ดีกว่าเมื่อวาน รู้สึกว่าตัวเองมีพอยต์มากขึ้นจากเดิมที่ไม่รู้จะไปทางไหนหรือเดินต่อไปยังไง เวลานี้มีเรื่องหนึ่งที่เมย์ค่อนข้างไม่สบายใจ คือเรื่องที่คุณพ่อของเจให้สัมภาษณ์ทำนองว่าเมย์เข้าไปคุย ต้องชี้แจงก่อนว่าเมย์ไม่ได้เข้าไปขอลูกชายของเขา แต่เรื่องเกิดจากว่าเจ ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่นก่อนว่ามีแพลนจะแต่งงานกับเมย์ จากนั้นไปออกรายการต่างๆ ได้พูดอีกว่ามีแพลนจะแต่งงานกับเมย์หลังบวช ซึ่งตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่ของเจก็เออออตามนั้นในวันบวชว่าอาจจะมีข่าวดี ซึ่งส่วนตัวเมย์ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แต่กลายเป็นว่ามีนักข่าวมาแซวเยอะมากว่าจะมีข่าวดีเหรอ ยอมรับว่าข่าวนั้นทำให้เมย์ดีใจ ฉะนั้นที่ให้สัมภาษณ์ว่าเมย์ได้เข้าไปคุยเรื่องแต่งงานคือเมย์ไม่ได้ไปขอลูกเขา ความเป็นจริงคือลูกเขาเป็นคนที่อยากแต่งงานกับเมย์ รวมถึงให้ความหวังเมย์ด้วย ซึ่งพอกำลังมีหวังอยู่แต่สุดท้ายก็มาดับหวังด้วยการบอกว่าไม่มีฤกษ์ ตรงนี้เมย์รู้สึกว่าใจร้ายเกินไป
เมย์-พิชญ์นาฏ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีข่าวว่าเมย์เรียกสินสอด 30 ล้านบาทนั้น ตรงนี้เริ่มไปกันใหญ่และน่าจะเป็นความเข้าใจผิดของข่าวที่ถูกแชร์ไปเรื่อยๆ จากที่เมย์พูดว่าเจ ใช้เงินสด 30 ล้านบาทในการสร้างสนามฟุตบอลให้กับคุณพ่อของเขา กลับเปลี่ยนมาเป็นเรื่องสินสอดว่าเมย์เรียกไปจำนวนเท่านั้น ทั้งที่ เมย์ ไม่ได้เรียกเลย อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว คุณแม่ของเขาได้พูดไว้ก่อนแล้วว่า "แม่ไม่มีอะไรให้" รวมถึงที่คุณพ่อของเขาถามว่า "พ่อเมย์จะเรียกสินสอดแพงมั้ย ถ้าเรียกแพงพ่อไม่มีให้นะ" เมย์ยังจำวันนั้นได้ดีว่าตัวเองร้องไห้และบอกว่าเมย์ไม่ได้อยากได้เงินหรือสินสอดหรืออะไรเลย เมย์ไม่เอาสินสอดอะไรก็ได้ แหวนที่เจให้เมย์เมื่อวาเลนไทน์ปีที่แล้ว วงนี้เมย์ก็ใส่ได้ อีกอย่างถ้าเมย์อยากได้เงินคงไม่มาคบเขาหรอก เมย์แค่รู้สึกว่าอยู่ดีๆ เขาสร้างฝันให้เมย์และอยู่ดีๆ เขาก็ทำลายฝันนั้น ถ้าเขาเอ็นดูเมย์สักนิดหรือมาจับมือและพูดกับเมย์ว่า "พ่อแม่มีเงินเท่านี้ บ้านเราไม่ได้รวย เมย์อยู่ได้มั้ย" เมย์ตอบได้ทันทีเลยว่าเมย์ยินดีค่ะ เพราะว่าเมย์รักและพร้อมที่จะลำบากกับเขาจริงๆ ค่ะ ฉะนั้นตอนนี้ประเด็นที่มันไปไกลเรื่องสินสอด 30 ล้านบาท ยิ่งทำให้เมย์แย่เข้าไปอีก อย่าทำแบบนี้กับเมย์เลย และไม่อยากให้มีการสัมภาษณ์ในเรื่องที่ไม่จริงเพราะทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่าความจริงคืออะไร เขาพูดกับเมย์มาตลอดว่า "บ้านเขาไม่รวย แต่เขารวยน้ำใจ" แต่ในวันนั้นที่ได้เปิดใจคุยกันเมย์กลับไม่เห็นว่าจะเป็นแบบนั้นเลย
"ส่วนตัวเมย์รู้สึกได้ ถึงแม้จะบอกว่า "แม่ไม่อะไร แต่งได้นะ แต่แม่ไม่มีอะไรให้" คือมันเป็นความรู้สึกแล้วว่าเขาไม่ได้อยากให้แต่ง ฉะนั้นต่อให้บอกว่าแล้วแต่เจเลย เมย์ก็ไม่ได้อยากแต่งแล้ว เมย์เลือกที่จะกลับกรุงเทพฯ และให้เจได้เคลียร์ปัญหากับครอบครัวของเขาก่อน เมย์คิดว่าเจน่าจะเป็นคนเดียวที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ของเขารักและเอ็นดูเมย์ได้ ยอมรับว่าเมย์หวังว่าหลังจากนั้นน่าจะมีอะไรที่ดีขึ้น แต่ในใจของเมย์ก็มีเดดไลน์คือวันที่ 10 มกราคมที่เมย์ไปส่งเจที่แอร์พอร์ต จริงๆ 70% เมย์ก็ทำใจไว้แล้ว แต่อีก 30% ลึกๆ ก็หวังว่าจะมีอะไรที่ดีขึ้น สุดท้ายคือทุกคนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนไม่มีการคุยกันกับเรื่องนี้ เจเองก็ไม่พูดเรื่องนี้เลยเช่นกัน สำหรับเมย์วันนั้นคิดว่ามันถึงที่สุดแล้ว จริงๆ คือเมย์ไม่ได้คาดหวังแล้วว่าจะต้องแต่งเดี๋ยวนี้ แต่ความรู้สึกเป็นเรื่องของการบอกปัดที่ใช้คำพูดไม่ถนอมน้ำใจกันมากกว่า และทำให้เมย์ไม่มีกำลังใจที่จะเดินต่อไปแล้ว" เมย์-พิชญ์นาฏ กล่าว
ดาราสาวกล่าวต่อว่า หลังจากที่เจ กลับไปญี่ปุ่นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พยายามทำตัวเหมือนเป็นแฟนปกติ แต่ใจเมย์มันไม่ได้แล้ว จริงๆ ทุกครั้งที่ไปส่งเจที่แอร์พอร์ต ขากลับก็จะนั่งดูคิวว่าเดือนหน้าจะบินไปหาเขาวันไหน แต่ตอนนี้มันไม่มีอะไรแล้ว เมย์เองก็ทรมานใจ รวมถึงเข้าใจว่าคุณพ่อคุณแม่ของเขาคงไม่ชอบเมย์จริงๆ แล้วด้วย พอรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหว ก็พยายามที่จะเลิก บางวันก็หายไปเลย เขาทักอะไรก็ไม่ตอบ แต่พอเมย์ลงรูปแล้วไม่แท็กชื่อเขาก็จะมีแฟนคลับกลุ่มเล็กๆ ที่เชียร์คู่เราอยู่เสียใจและถามไถ่ตลอดว่าทำไมไม่แท็ก สุดท้ายเมย์ก็กลับมาแท็ก ส่วนรูปในวิดีโอคอลล์ก่อนวันที่เมย์จะลงไอจีเมื่อวาน (18 มกราคม) ทุกคนก็คิดว่าเห็นยังรักกันดีอยู่นี่ เมย์อยากบอกว่านั่นคือการร้องไห้ด้วยกันทั้งคู่ สถานการณ์มันทรมานทั้งสองฝ่าย โดยที่เมย์ไม่เต็มที่กับเขาแล้วเพราะใจมันเสียไปแล้ว
https://www.facebook.com/teeneedotcom