วี เหงา!ขอ คืนดี บุ๋ม คิดหนัก อยากอยู่คนเดียว

บุ๋มไปนั่งสมาธิกลางป่ามาเหรอ?
 

“ใช่ค่ะ บุ๋มไปแคมป์สวดมนต์เคาต์ดาวน์ที่อาศรมอิสรชน ของท่าน ว.วัชรเมธี นุ่งขาวห่มขาว นอนเต็นท์กลางป่า 3 วัน 2 คืน ในช่วงปีใหม่ มันทำให้บุ๋มได้กลับมาสู่ตัวตนของตัวเองมากขึ้น เพราะปีที่ผ่านมาชีวิตบุ๋มเจอแต่เรื่องวุ่นวาย การได้มาสวดมนต์ ทำสมาธิที่นี่ ทำให้จิตใจเราตกผลึก”
 

รู้สึกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด?
 

“ไปแล้วดีมากค่ะ เป็นความสบายใจ ไม่ได้ ต้องนั่งสมาธิเคร่งเครียดหรอกนะ แค่ปล่อยตัวเอง พอถึงเวลาเคาต์ดาวน์เราก็ปล่อยโคมลอย เสร็จแล้วฟังเทศน์เพื่อเตือนสติตัวเอง ท่านก็สอนมา 4 ข้อ คือ 1. อย่ามัวจ้องจับผิด 2. อย่ามัวคิดริษยา 3. อย่าเสียเวลากับความหลัง ซึ่งข้อนี้โดนใจบุ๋มมาก แล้วก็ 4. อย่าคบบาปมิตร คืออย่าคบเพื่อนไม่ดี แล้วบุ๋มพยายามรักษาศีล 5 กินมังสวิรัติ ด้วย! อย่างน้อยก่อนถึงวันจันทร์ที่ 10 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดของบุ๋ม
เอง อยากให้ชีวิตดีๆน่ะค่ะ”
 

“ซึ่งการได้ปรับมาอยู่กับตัวเองมากขึ้น

ทำให้บุ๋มได้คิดอะไรหลายๆอย่าง แล้วคืนเคาต์ดาวน์ คุณวีโทรศัพท์มาจากเมืองจีน มาแฮปปี้นิวเยียร์ แล้วเค้าก็บอกว่าปีนี้เค้าเหงาจัง เพราะทุกปีในช่วงนี้จะมีบุ๋มอยู่ร่วมเคาต์ดาวน์ด้วย แล้วเค้าก็บอกว่าอยากจะขอคืนดี ซึ่งบุ๋มยอมรับว่ายังรู้สึกดีๆกับเค้านะ แต่บุ๋มได้ค้นพบตัวเองแล้วว่าบุ๋มอยู่คนเดียวดีกว่า” 

ใจร้ายไปมั้ย?
 

“อืม..ม ดูเหมือนใจร้าย ใช่!อาจจะใจร้าย บุ๋มเลยบอกไปว่ากลับจากเมืองจีนแล้วเราค่อยมาเจอกัน คุยกันอีกครั้งนึง บอกตรงๆบุ๋มไม่อยากกลับไปทะเลาะ ไม่อยากเสียใจอีกแล้ว ตอนนี้บุ๋มอยากจะซื้อที่ดินอยู่กลางป่า ปลูกอาศรม นุ่งขาวห่มขาวอยู่ที่นั่นเลย บุ๋มมีความสุขมากกับการได้ใช้ชีวิตอยู่ในความสงบ ถึงเวลาทำงานเราก็ทำงานไป เต็มที่เลย แต่ช่วงที่ได้พักบุ๋มอยากบวช ไม่รู้สิ บุ๋มเริ่มคิดจากตัวเองก่อน ให้ตัวเองมีความสุข ไม่มีรัศมีความเครียด เราถึงจะไปวางรากฐานให้คนอื่นมีความสุขได้”
 

ถ้าวีกลับมาแล้วจะคุยว่าไง?
 

“ยังไม่รู้เลยค่ะ บุ๋มอาจจะให้เค้า อันดามัน (ลูกสาว) ไปดูแลเรื่องการเรียน แล้วให้อยู่ที่บ้านเค้าเลย ส่วนบุ๋มก็อยู่คอนโดแล้วค่อยไปหาเป็นระยะๆ จริงๆบุ๋มกับเค้ายังมีความรู้สึกดีๆต่อกันเสมอนะ ที่ผ่านมาช่วงว่างเราก็ไปดูหนัง กินข้าวด้วยกัน พยายามรักษาสัมพันธภาพ เพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้ชีวิต แต่พอคุยเรื่องซีเรียส หรือสิ่งต่างๆที่เราต้องตกลงกันทีไร ทะเลาะกันทุกที”
 

“เฮ้อ!มันก็พูดยากเนอะ เราสองคนมีข้อจำกัดของตัวเอง แต่ยังไง เราก็ต้องเอาอันดามันเป็นหลัก เราสองคนอาจจะไม่ได้มีโอกาสมาอยู่ด้วย แต่เราอาจจะได้เจอกันบ้างเพื่อลูก ซึ่งเรื่องนี้ทางครอบครัวของวี กับครอบครัวของบุ๋มก็ไม่เกี่ยวแล้ว มันเป็นเรื่องของเราสองคน”
 

วีต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูเดือนละแสนจริงเหรอ?
 

“เรื่องวีให้ลูกเดือนละแสนไม่เป็นความจริงเลยค่ะ เค้าก็ให้ในฐานะพ่อที่ต้องดูแลลูก ไม่ถึงแสนแน่นอน แต่จำนวนเท่าไหร่บุ๋มไม่ขอพูดถึงดีกว่า”

มีคนเม้าท์ว่าบุ๋มเลิกสามี เพราะอยากสร้างภาพให้คนสงสาร ล่าสุดยังเห็นวีไปเฝ้าในรายการร้านชำยามเช้า?
 

“ไม่ได้ไปเฝ้าค่ะ วันนั้นเค้าไปสวัสดีปีใหม่ อ.ประมาณ แล้วก็ทักทายบุ๋มด้วย อย่างที่บอกว่าเรายังคุยกันทุกวัน เรื่องสร้างภาพบุ๋มจะทำเพื่ออะไร ไม่มีใครอยากมีภาพแบบนี้หรอก บุ๋มอยากเป็นผู้หญิงเพอร์เฟกต์ ที่ประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน รวมทั้งเรื่องครอบครัวด้วย เรื่องการหย่าร้างมันไม่ได้ทำให้บุ๋มดูดีเลยนะ การตัดสินใจแบบนี้เพราะเราคิดไม่ออกแล้วต่างหากถึงได้ทำ”
 

“บอกตรงๆบุ๋มสะท้อนใจทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า แม่ม่าย

ต่อให้เค้าเติมเป็นแม่ม่ายมหาเสน่ห์ แม่ม่ายทรงเครื่อง บุ๋มก็ยังรู้สึกไม่ดีทุกครั้ง แม้จะเป็นคำชมก็เถอะ ไม่รู้สิ อาจจะเป็นเพราะบุ๋มยังไม่ชินมั้ง แผลมันยังใหม่ๆอยู่ ไม่ได้มีความรู้สึกภาคภูมิใจหรอกนะคะ แต่เป็นเรื่องเศร้าที่บุ๋มไม่อยากให้เกิดขึ้น แล้วปีนี้บุ๋มจะทำธุรกิจเครื่องสำอางปนัดดา ร่วมกับบีเอสซี เปิดตัวเดือนหน้าด้วย

บุ๋มอยากเห็นภาพตัวเองประสบความสำเร็จมากกว่าถูกมองว่าเป็นแม่ม่ายผู้ล้มเหลวในชีวิตคู่ ถ้าบุ๋มคิดอยากจะสร้างภาพจริง บุ๋มไม่เก็บงำเอาไว้ตั้งหลายเดือนหรอกค่ะ”
 

มีหนุ่มๆเสนอตัวช่วยดามใจมั้ย?
 

“ก็มีคนเข้ามาคุยๆนะ แต่ถามว่ามีคนที่จะเต็มที่กับเรามั้ย ไม่มีหรอกค่ะ ไม่เหมือนสมัยสาวๆหรอก ตอนนี้เราเป็นผู้หญิงที่เคยแต่งงานแล้ว มีลูกติด 1 คน อายุ 30 อัพ ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอก แต่ก็ไม่ใช่ว่าปิดหัวใจ แหม!มีคนมาจีบน่ะ กระชุ่มกระชวยจะตาย แต่มันไม่มีอ่ะ! บุ๋มคิดเลยนะ ถ้ามันไม่เจอคนดีๆ ไม่เข้าใจตัวตนของบุ๋มจริงๆแล้วล่ะก็ บุ๋มขอ อยู่คนเดียวดีกว่า แฮปปี้ดี”

--ฮู้ย!หนุ่มที่ไหนจะยอมให้เป็น โสดนานล่ะจ๊ะ!