“แหวนแหวน” ล้วงตับ “แอน จักรพงษ์” ทำไง 3 ปี รวย 8 พันล้าน ติดอันดับ 2 ของโลก??
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย “แหวนแหวน” ล้วงตับ “แอน จักรพงษ์” ทำไง 3 ปี รวย 8 พันล้าน ติดอันดับ 2 ของโลก??
ร้อนแรงที่สุดตอนนี้ออกทีวีแข่งกับ "ตูน บอดี้สแลม" คงจะไม่มีใครนอกจาก "แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์" ผู้บริหารบริษัท เจเคเอ็น โกบอล มีเดีย จำกัด(มหาชน) ที่เดินสายไปออกรายการแทบจะทุกสถานี เผยเรื่องราวชีวิตจากตุ๊ดหัวโปกกลายเป็นสตรีข้ามเพศที่รวยเป็นอันดับ 2 ของโลก ที่พึ่งจะนำบริษัทเจเคเอ็น เข้าตลาดหลักทรัพย์ไปได้แค่ครึ่งเดือน แต่หุ้นก็ดีดทะลักไปที่ตัวเลข 8 พันล้าน เรียกว่ารวยระเบิดภายในพริบตา
ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้รับเชิญไปออกรายการ "ว้าวแหวนแหวน" ทางช่องอมรินทร์ถึง 2 ตอน เปิดเผยถึงเส้นทางของสตรีข้ามเพศกว่าจะรวยเป็นอันดับ 2 ของโลกต้องฝ่าฟันอะไรมาบ้าง ผ่าอนาจักรเจเคเอ็นแค่ 3 ปี รวย 8 พันล้าน ทำไปได้ไง!! โดย แอน จักรพงษ์ ได้เปิดเผยว่า...
"อย่าบอกว่ารวยหลายพันล้านเลยค่ะ เดี๋ยวน้องๆ ที่เก็บในสต็อกก็มาขอเงินสิ(หัวเราะ) ตอนนี้ยังโสดตลอดเวลา เราเป็นสตรีข้ามเพศที่ไม่ปกปิด สตรีข้ามเพศก็ต้องเป็นสตรีข้ามเพศ ต่อให้ประเทศไทยใช้นางสาวจักรพงษ์ ได้แล้ว เราก็จะบอกทุกคนว่าเราเป็นสตรีข้ามเพศ และจะใช้ชื่อจักรพงษ์ มันต้องจริงใจต้องบอกกัน จะบอกว่าเป็นผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์ทำไม เราต้องภูมิใจในตัวเราเพราะ JKN ก็มาจากจักรพงษ์เน็ตเวิร์ค"
"แอนเกิดมาในร้านวีดีโอไม่ใช่ไฮโซไฮซ้อ เราเรียนรู้จากวัตถุดิบในร้านดูหนังฝรั่ง จีน อินเดีย ตอนนั้นยังไม่มีกาหลี ชอบภาษาอังกฤษชอบฝรั่งหล่อจังเลย ก็เลยไปเรียนต่างประเทศ พอกลับมาก็เริ่มต้นธุรกิจด้วยการเอาลิขสิทธิ์ต่างประเทศมาขายอายุ 20 มีเงิน 10 ล้านบาท เราเอาของบีซีซีมาก็มีหลายตัวแล้วก็เอาซูเปอร์สตาร์มาพากษ์ จนอายุ 25 ปี จากวีดีโอมันกลายเป็นวีซีดี ดีวีดี โลกนี้มันเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก มันทำให้เราคิดว่าเราจะดำเนินธุรกิจต่อไปยังไง และเราก็มาคิดได้ว่า สิ่งที่เราขายไม่ใช่ม้วนวีดีโอแต่คือสิ่งที่อยู่ในวีดีโอคือคอนเทนต์เจ้าค่ะ"
"จากนั้นเราก็ดิลกับต่างประเทศและก็เริ่มไปขายคอนเทนต์ให้แมงป่อง ซึเทย่า ขายให้วงการเดียวกันก่อน จากหลัก 10 ล้านก็หลาย 10 ล้านก็จนหลัก 100 ล้าน จนถึงจุดที่ไปขายให้แกรมมี่ อายุยังไม่ถึง 30 คุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม(ผู้บริหารแกรมมี่) เรียกให้ไปหา และก็ชวนมาเปิดบริษัทกับผมไหม เราก็ไม่ค่อยเล่นตัว ได้เลยค่ะ อยากจะเซ็นสัญญาตอนนี้เลยค่ะ นั่นแหละก็เลยเป็นที่มาขอจีเอ็มเอ็มแซดออกช่องทีวีดาวเทียมเยอะแยะไปหมดเลย ก็ขายคอนเทนต์ไปเรื่อยๆ"
"จนกระทั่งเกิดมีช่องดิจิตอล 20 ช่องในประเทศไทย ตอนนั้นอยู่ฮ่องกงยังคุยกับน้องสาวเลยว่า คอยดูสิจะรวยซะให้เข็ดจะรวยหลายพันล้านให้ดู ใครจะไปคิดว่าทีวีจะมี 20 กว่าช่อง มันคือจุดเปลี่ยนชีวิต ก็ไปลาแกรมมี่ไปเปิดเจเคเอ็นย้ายไปอยู่ศาลายาแล้วก็ฟอร์มทีมขึ้นมา ตอนนี้ทุนจดทะเบียนไป 300 ล้าน เข้าตลาดหลักทรัพย์วันแรกก็ไป 5000 ล้านเลย มันคือความเชี่ยวชาญมานานพอโอกาสมาก็จุดพุลแตกเลย"
"เราเป็นผู้จุดกระแสกลุ่มละครเอเชียเกาหลี แต่พอมันมีจุดพีคเริ่มอยู่ตัว วันนี้เราก็เริ่มขยายไปจุดอื่นบ้าง ก็เลยกลายมาเป็นภารตะพันล้าน เรื่องนี้เราคิดมานานแล้ว ละครอินเดียมันเหมือนละครไทย มีจริตเหมือนคนไทย เราขายคอนเทนต์ขายอารมณ์ ศรีดารามขึ้นเป็นอันดับ 1 ของประเทศ , หนุมาน และล่าสุดก็นาคินก็เรตติ้งอันดับ 1 ทุกวันนี้เรามีทีมทำงานทีมโปรดักชั่นพากษ์เสียงเป็น 100 คน ถึงขั้นต้องเปิดเซเว่นอีลีเว่นใต้ตึกให้พนักงานเลย"
"จับอะไรปังหมดเพราะเราไม่เคยมองข้ามทั้งที่เราข้ามเพศ ความรู้ก็จะเข้าใจว่าเทรนด์อะไรมันจะมา ต่อไปจะเกิดอะไร ต่อจากนั้นต้องต่อจากตรงนี้ การที่เราเดินทางรอบโลกตลอดเวลา ทำให้เราเห็นก่อนคนอื่นเสมอ ต้องเรียนรู้ตลอดเวลาและกลัวที่สุดคือรู้ไม่พอ หลักการตลาดที่เราใช้ก็คือ เซเบริตี้มาเก็ตติ้ง หรือ ซูเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง มันคือทอล์คออฟเดอะทาวน์ ทำอะไรให้เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ กระแสจะมา เรตติ้งจะมา คนที่มาทำงานก็ต้องมีคุณภาพด้วยนะ งานเราต้องมีคุณภาพ ถ้าร้องไม่ได้ พากษ์เสียงไม่ได้ก็ไปพากษ์มาใหม่ ไปถามทาทา ยัง สิ กว่าจะได้ทำงานกับเราก็ต้องฝึกฝนหนักเหมือนกัน"
https://www.facebook.com/teeneedotcom