ตั้งแต่เด็กมารีญาจะสูงที่สุดในห้อง เวลาถ่ายรูปคุณครูก็จะไล่ให้ไปอยู่ข้างหลังตลอด พอโตมาเริ่มรู้สึกว่าความสูงเป็นอุปสรรค เพราะตนจะเดินห่อตัวตลอด และเพื่อนๆ ก็จะไม่สูงเท่าตน ตนก็จะรู้สึกแปลกกว่าคนอื่น และอายหุ่นตัวเอง ตนก็เลยรู้สึกว่าเป็นปมด้อย แต่พอโตขึ้นมา เราก็ยิ่งเห็นว่าจริงๆ แล้วเราไม่ควรทำตัวให้เหมือนกับคนอื่น เราเป็นตัวของตัวเองแล้ว เราก็ควรมั่นใจในตัวเอง ควรที่จะชอบทุกอย่างที่เป็นตัวเรา พอเราเริ่มทำงานเป็นนางแบบ เราเลยรู้ว่าเราก็มีข้อดีของเรา ก็เลยมั่นใจมากขึ้น ส่วนตัวมารีญานั้นเป็นคนชอบเล่นกีฬา เป็นคนแอคทีฟ ชอบการเคลื่อนไหว ซึ่งจะมีทั้งว่ายน้ำ เล่นเทนนิส รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ
ย้อนกลับไปตอนเด็กๆ ก็จะมีคนมาทาบทามบ่อยว่าให้ไปประกวดนางงาม แต่ตนก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ แค่รับฟังเพียงเท่านั้น แต่ถ้าเราได้ยินบ่อยๆ มากขึ้น ก็เหมือนผลักดันเราให้มีความพยายาม
ก่อนที่จะมาประกวดนางงามนั้น มารีญาเป็นทั้งนางแบบ และนักร้อง จนก้าวเข้าสู่่วงการนางงามนั้น ตนรู้สึกว่า ตนอยากทำอะไรเพื่อสังคม เพราะที่นี่คือบ้านเรา เราต้องการให้สิ่งแวดล้อมที่บ้านเราดีด้วย ตนก็เลยรู้สึกว่าตนสามารถช่วยได้ เลยคิดว่าต้องมีกระบอกเสียง และการประกวดนางงามน่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง พอประสบความสำเร็จบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2017 ครอบครัวและพี่ชายดีใจมาก เขาสนับสนุนทุกอย่างที่เราทำมาตลอด
หลังจบจากเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 พอลงมาจากเวทีก็เจอเพื่อนๆ นางงาม และทุกคนก็เข้ามากอด วันนั้นเราไม่ได้คุยอะไรกันมาก เพราะเรารู้กัน ส่วนการก้าวข้ามความเสียใจในตอนนั้น สิ่งแรก คือเวลา ต้องทบทวนหลายๆ อย่าง แต่พอใช้เวลาได้คิด ได้การเติมพลังจากครอบครัว เราก็รู้ว่ามันมีอะไรใหญ่กว่านั้นรออยู่ ถึงวันนั้นสิ่งที่เราคาดหวังจะไม่ใช่ ก็ไม่เป็นไร เราต้องมุ่งมั่นไปอีกทางหนึ่ง
พอกลับมาที่ประเทศไทย ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก รู้สึกซาบซึ้งมาก ถึงแม้เราจะทำไม่ได้อย่างที่เขาคาดหวังไว้ ยังมีคนมาให้กำลังใจขนาดนี้ รู้สึกว่านี่แหละคือรักจริงของคนไทย
https://www.facebook.com/teeneedotcom