ขอย้อนกลับไปปีนี้ คุณมองว่าชีวิตคุณเป็นยังไง? "จะบอกว่าแย่ก็ไม่เชิง คือสิ่งที่เราคิดไว้ว่าจะกลายเป็นลบ ก็พลิกมากลายเป็นบวก มันไม่ใช่พลิกวิกฤตเป็นโอกาส แต่ตอนแรกเรามองว่ามันลบแน่นอน แต่อยู่ดีๆ ไม่ได้ลบอย่างที่เราคิด ไม่ได้พังอย่างที่เราคิด ตั้งแต่เรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องตบ ฉายาเขาก็ตั้งกันเอง คำนั้นไม่ได้มาจากเรา มันเกิดจากทั้งฝั่งเราและฝั่งเขาเอาคลิปไปลง มันไม่โอเคกันทั้งสองฝั่ง มันกลายเป็นเรื่องเป็นราวว่าทะเลาะกันเรื่องผู้ชาย จริงๆ ตัดเรื่องผู้ชายทิ้งไปเลย เรื่องผู้ชายมันจบไปแล้ว แต่เผอิญฝั่งโน้นไม่พอใจที่หลานเราก้าวร้าว เขาเอามาโยงกัน แพทไม่เอาอยู่แล้ว"
เขาทำหน้ามาซะหล่อเลยนะ? "ขอให้หล่อยิ่งๆ ขึ้นไป แฮปปี้นิวเยียร์กันไปเลย ฝั่งนั้นเขาไม่พอใจตรงหลานเรา ด้วยความที่รู้สึกว่าไม่ใช่ หลานเราอายุเท่าไหร่ เราเลยรู้สึกว่าพอมีปัญหา ก็โยงกันไปโยงมา แต่ไม่ได้จบด้วยการเคลียร์ ต้องมานั่งแถลงข่าว"
เหตุการณ์ในครั้งนั้น กระแสสังคมน่าจะด่าคุณ แต่กลับกลายเป็นเห็นใจเยอะมาก จากอินสตาแกรมไม่กี่แสน? "ขึ้นมาล้านกว่ามั้งคะ แค่เหตุการณ์นี้ เราไม่ได้อยากจะบอกว่าสิ่งที่เราทำควรไปทำตามนะ มันไม่โอเคนะ คือไม่ใช่คุณไปทำอะไรเพื่อหวังแบบนี้ เดี๋ยวจะเข้าใจว่าต้องทำแบบนี้แล้วมียอดฟอลโลว์เยอะๆ เราไม่อยากทำให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่อยากให้เกิดอะไรแบบนี้บังเอิญเป็นเรื่องที่พอสืบลึกเข้าไปถึงรู้ว่าโอเค เข้าใจ"
ไปไหนมาไหน เอาลูกไปด้วย? "แพทติดลูกค่ะ แพทไม่ได้มีพี่เลี้ยง มีน้องมาช่วยขับรถ แล้วก็ให้เขาดูแลเรซไปด้วย เขารักเรซมาก ที่บ้านมีน้องสาวที่คอยดูแลที่บ้าน แต่ที่บ้านแพทก็มีแม่แพทที่ป่วย พี่สาวที่ป่วย แพทก็ไม่อยากทิ้ง เดี๋ยวเอาภาระให้เขาอีก พี่เลี้ยงต้องดูพี่สาวที่ป่วย ส่วนน้องก็ดูแลแม่ อยู่ดีๆ แพทฝากไว้ มันก็ไม่ใช่"
ทำไมไม่จ้างพี่เลี้ยง? "กลัวค่ะ เห็นคลิปที่เขาตีลูก หรือความอดทนไม่เท่าเรา เลยรู้สึกเราเลี้ยงเองดีกว่า"
คุณแม่ไม่สบาย รวมถึงก่อนหน้านี้คุณกับคุณพ่อมีปัญหาฟ้องร้อง? "เรื่องมันจะมาแบบงงๆ แพทอยู่เฉยๆ ไม่ได้วิ่งไปหาเรื่อง แต่เรื่องมันเข้ามา คือเรามีการพูดคุยกันระยะหนึ่ง มีการส่งเสียให้ค่าใช้จ่ายป๋า แต่ช่วงหนึ่งเรามีปัญหากันในเรื่องครอบครัวใหม่คุณป๋า ทำให้แพทตัดสินใจว่าครอบครัวใหม่ต้องไม่ยุ่งกับเราสิ ไม่มายุ่งกับแม่เราสิ อยู่ดีๆ ก็เกิดเหตุการณ์เราคุยกันด้วยดี แต่เผอิญวันต่อมา การเรียกของศาลเกิดขึ้น มีข่าวเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้เป็นคนให้ แต่เป็นฝั่งเขาเป็นคนให้ เราก็เกิดอะไรขึ้น ทำไมเราคุยกันไม่ได้ มันเกิดขึ้นได้ยังไง สุดท้ายเขาอยากให้เรากลับไปดูแลเขา แต่เขาเลือกให้เราไปคุยที่ศาล มากกว่าที่จะมาคุยที่บ้าน เราก็โอเค ไปคุยที่ศาลก็ได้ไม่เป็นไร พอเรื่องเป็นแบบนี้ เราไม่ได้ไม่ดูแลเขา แต่ถ้าป๋าคุมตรงนี้ไม่ได้ มันก็จะเกิดเรื่องแบบนี้ไง พอไปคุยที่ศาล พ่อก็อยากได้เรื่องค่าเลี้ยงดู เราก็โอเค เราก็ให้"
แตกหักกันไปเลยจนวันที่คุณต้องกลับไปดูแล? "คือพอเราจบที่ศาล พ่อก็เลือกติดต่อเราทุกสิ้นเดือนเฉยๆ คือไม่มีอะไรหรอก แพทก็ไม่ได้มีอะไร เขาก็คือพ่อ มันแค่เป็นส่วนเล็กๆ ที่รู้สึกว่าบางทีเราคุยกันได้ เราไม่ได้ไม่รักเขา แต่เราอยากให้เขาเคลียร์ปัญหากับตรงนั้นหน่อย ก็ตัดปัญหากันไปเรียบร้อย เราก็ทำหน้าที่ลูกเต็มที่ จนวันเขาป่วยเราก็กลับไปดูแล แต่เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ แล้วท่านก็ไปเลย อันนี้เป็นปีที่แล้วค่ะ"
พอมาปีนี้ คุณก็เจอเรื่องหนักหนาในชีวิตแต่งฟ้าแลบ แต่งเพราะท้อง เกิดเรื่องระหองระแหงก่อนคุณเบนซ์เรซซิ่งจะเข้าเรือนจำ? "จริงๆแพทกับพี่เบนซ์ ก็มีหลายกระแส เรารู้จักก่อนหน้าแต่งงานกัน 7 ปี แต่ 7 ปีห่างเหินมาก เมื่อ 7 ปีเรารู้จักกัน เคยเจอหน้า แล้วก็หายไปเลย ต่างคนต่างใช้ชีวิต โลกก็เหวี่ยงให้เรามาเจอกัน เหวี่ยงมาครั้งนี้กลับกลายเป็นว่าเราท้องด้วย ทำให้เราจำเป็นต้องแต่งงานกับเขา"
คุณใช้คำว่าจำเป็น? "ใช่ค่ะ ถ้าไม่ท้องก็ไม่แต่ง ชัดเจนตั้งแต่แรกอยู่ด้วย ต้องบอกว่าด้วยระยะเวลาเราก็ไม่ได้อยากแต่งงานคือประเด็นหลักๆ แพทตั้งใจแต่งหรือมีน้องปีนี้ แล้วค่อยมีลูกอีกที แต่เขามาเร็ว มันเลยท้องตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็ต้องแต่ง"
เขาบอกว่าตัวคุณเองกับคุณเบนซ์ พอมาอยู่ด้วยกัน ใช้เวลาคนละส่วน คนนึงเช้า คนนึงกลางคืน? "(ระหว่างนั้นเรซซิ่งร้องไห้ แพทบอกว่าพูดถึงพ่อไม่ได้เลยจะร้องตลอด) เราอาจไม่ได้ใช้ชีวิตกันเต็มที่หรือศึกษาลงลึกมาก พอเราท้องแล้วแต่งงงานกัน ก็ได้มาเรียนรู้กัน ตอนนั้นปัญหาค่อนข้างเยอะ เพราะแพทใช้ชีวิตกลางวัน พี่เบนซ์ใช้ชีวิตกลางคืน กลางวันเขานอน เราทำงาน 7 โมงเช้า เราตื่น เข้ารายการ สามสี่ทุ่มถึงเที่ยงคืนเรานอน เขาตื่น 6 โมงเย็น ที่เป็นอย่างนี้เพราะหนึ่งกิจการของเขา ไม่ได้ฟิกซ์เขาในการใช้ชีวิต สิ่งที่เขาชอบคือการขี่มอเตอร์ไซค์ แล้วเขาไม่ขี่กลางวัน เขาขี่มอเตอร์ไซค์กลางคืน ฉะนั้นเขาก็ใช้ชีวิตกลางคืน"
แต่คุณก็ผ่านกันมาได้? "มันก็จะเป็นแบบนี้แหละ ก็จากที่บ่นก็จะไม่บ่นแล้ว ฉันก็ใช้ชีวิตของฉัน ยูก็ใช้ชีวิตของยูไป"
ปีนี้มีการจับ "ไซซะนะ" ราชายาเสพติด มีการขยายผลถึงบอย นาคคำ แล้วมีการขยายผลถึงเบนซ์เรซซิ่งและมีการขยายมาถึงคุณ ว่ามีส่วนร่วมฟอกเงิน? "ต้องบอกว่าเรื่องราวเกี่ยวกับแพทแทบจะไม่มีเรื่องเลย พี่เบนซ์กับไซซะนะ เขาไม่รู้จักกัน ไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว อันนี้พูดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกัน"
เขารู้จักอ้อมๆ กันมั้ย? "ส่วนลึกตรงนี้ พี่เบนซ์เขาไม่รู้เรื่อง ตอนที่มีข่าวกับไซซะนะ เขาก็เฉยๆ เพราะเขาไม่รู้ว่ามาเกี่ยวอะไรกันกับตรงนี้ จำได้ว่าตอนนั้นอีก 10 วันแพทจะคลอดอยู่แล้ว ก็เกิดเรื่องราวมากมายก่ายกอง แพทไม่รู้ต้องรับมือกับมันยังไง ตอนแรกที่เจอปัญหาก็คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับแพท เพราะพูดตรงๆ ว่าแพทเพิ่งมาอยู่ในช่วงชีวิตเขาได้ไม่นาน อยู่ดีๆ ก็มาพัวพันถึงแพท ทำไมมีชื่อเราเข้าไปในเรื่องการฟอกเงิน แต่ตอนนี้ยกฟ้องไปแล้ว ในส่วนตรงนี้ก็ต้องย้อนไปว่าเกิดอะไรขึ้น มันเกิดจากการที่พี่เบนซ์มีการโอนเงินให้แพท เหมือนเงินเรายังพิสูจน์ไม่ได้ อย่างนั้นก็รับผิดไปแล้ว"
เขาโอนให้คุณเท่าไหร่? "รวมแล้วที่โดนอายัดไป 1.5 ล้าน ใน 1.5 ล้านมีการโอนทั้งหมด 19 ครั้ง"
แต่คุณทำงานได้เยอะกว่านี้อีกนะ? "ใช่ค่ะ เขาถึงได้ยกฟ้องเราไปไงคะ เรามีหลักฐานครบ แต่ถามว่าพอถึงจุดหนึ่ง ตอนนี้แพทก็ยังไม่ได้เงินล้านห้าคืน เพราะเขาโยกเงินส่วนนั้นไปอยู่ในส่วนพี่เบนซ์ไปเลย มันเป็นเงินส่วนหนึ่งที่พี่เบนซ์โอนให้แพท และมีเงินส่วนหนึ่งที่แพทหาได้ และแพทฝากสามีโอนเข้า เป็นหน้าที่ แต่เขายกก้อนรวมให้พี่เบนซ์เลย ซึ่งแพทเป็นคนเอาเงินก้อนนี้ไปให้ปส. อายัดไว้ เพื่อให้เขาตรวจสอบ ว่ามีพิษจริงหรือเปล่า ซึ่งตอนนี้ไมได้มีการตรวจสอบ เขาเลยยังไม่ได้คืน"
ดูยาวนานเหลือเกิน? "7 เดือนแล้วค่ะ จนลูก 10 เดือน"
ได้เจอมั้ย? "ล่าสุดค่ะ คือคนอื่นอาจไม่ตื่นเต้นแต่เราตื่นเต้น เขาเจอลูกครั้งสุดท้ายไม่แน่ใจ ลูกน่าจะ 5 เดือนกว่า เขาไม่อยากเจอลูก เขาทำใจไม่ได้ เขาอุ้มไม่ได้ มันเป็นลูกกรงและกระจกอีก พอคุยก็คุยผ่านโทรศัพท์ แพทเยี่ยมเขาได้แค่อาทิตย์ละวัน วันละชม. ได้แค่นี้ หลังจากนี้อีก 6 วันเขาจะอยู่ยังไง ต้องคิดถึงลูกตลอดเวลา แต่ช่วงวันพ่อที่ผ่านมา ก็เป็นวันที่บีบหัวเราใจเราเหมือนกัน จริงๆ เรซซิ่งไม่รู้เรื่อง แต่เรารู้สึกว่ามันถึงเวลาที่เขาต้องเข้มแข็ง แพทไม่รู้ว่าแพทจะทำตรงนี้ได้อีกนานแค่ไหน ที่จะต้องมาเยี่ยมคุณทุกอาทิตย์ และต้องวิ่งกลับไปทำงานและดูลูก คุณจะได้เจอลูกกับฉันอีกมั้ย ตอบไม่ได้ มันเป็นเรื่องอนาคต ฉะนั้นวันพ่อถ้าคุณไม่แข็งแรงพอที่จะเป็นพ่อเขา คุณก็ไม่ต้องเป็นดีกว่ามั้ย"
คุณคิดออกมาอย่างนี้เลย แค่อยากให้เขาเข้มแข็งและกล้าเผชิญหน้ากับลูก อย่ากลัวที่ต้องเสียใจ? "ใช่ค่ะ เราไม่รู้อะไรเลย เด็กเขาโตขึ้นทุกวัน อีก 2 วันเขา 10 เดือนแล้ว อีกแค่ 2 เดือนเขาขวบแล้ว แพทพาเขาไปวันพฤหัสบดี เลยวันพ่อไปสองสามวัน แพทก็ตัดสินใจ เป็นอะไรที่ต้องไฟต์นิดหนึ่ง เพราะแม่พี่เบนซ์เขาก็สงสาร ลูกแพทก็อุ้มไปแล้ว เขาบอกว่าเดี๋ยวให้น้องปาล์มอุ้มไว้ไม่ต้องเอาเข้าหรอก ก็บอกว่าพามาแล้วก็อุ้มเขาเข้าไปเลยแม่ รับได้ไม่ได้ก็ต้องรับให้ได้ มันไม่มีอะไรที่รับไม่ได้ เป็นครั้งแรกที่แพทพาลูกเข้าไปข้างใน เราก็ตื่นเต้น ก็มีคนอื่นเยอะแยะไปหมด ทำเหมือนคนอื่น ก็พาเขาเข้าไป ตลอดระยะเวลา 7 เดือนเราไม่เคยพาลูกเข้าไปเลย แพทรู้สึกมันไม่ใช่ แล้วคุณจะเป็นพ่อเขายังไง แพทก็พาเขาไป แล้วเขาก็ทำได้ เขาเข้มแข็ง ไม่ฟูมฟาย เขาก็แฮปปี้ที่ได้เห็นลูก เขาดีใจมาก เขาเล่นกับลูก ยิ้ม พอแพทคุยกับเขา เขาบอกลูกเราหล่อมาก เราก็แฮปปี้ เขาร้องไห้ค่ะ แต่แพทไม่ร้องไห้ ก็คิดอยู่แล้วว่าเขาร้องไห้ แต่อยากให้เขาเข้มแข็ง เขาชอบพูดว่าไปเจอข้างนอกดีกว่า แต่เราไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น แล้วจะรอถึงเมื่อไหร่ แพทไม่รู้ว่าจะต้องรอถึงเมื่อไหร่"
เขาบอกให้พาไปอีกมั้ย? "แพทมีโอกาสเจอเขาอาทิตย์ละวันก็ต้องดูฟีดแบ็กอีกทีหนึ่งค่ะ ไม่ได้มีโอกาสบ่อยๆ มันเหมือนต้องอยู่กันไปวันต่อวัน แพทรู้ว่าเขาลุ้นว่าอาทิตย์นี้เขาจะได้เจอแม่ พี่ เมียเขามั้ย วันไหนแพทไม่ได้ไป เขาก็จะถามว่าเราติดอะไร"
https://www.facebook.com/teeneedotcom