โฉมใหม่! ‘เจินเจิน’ ทุ่มงบหลักล้านอัพหน้าใหม่เด็กลง 10 ปี เผยแพลนเตรียมแต่งงานที่อเมริกา!

หายหน้าหายตาไปพักใหญ่ สำหรับ นักร้องดัง เจินเจิน บุญสูงเนิน ที่ล่าสุดมาร่วมงานพิธีเปิด "การซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ" ที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(รัชดา) พร้อมกับหน้าใหม่ที่เจ้าตัวภูมิใจนำเสนอ หลังจากเดินทางไปอัพหน้าที่ประเทศเกาหลี เพื่อความเด็กและปังกว่าเดิม โดยงานนี้ได้ แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ผู้บริหารบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด(มหาชน) เป็นสปอนเซอร์ทุ่มงบให้ถึง 5 ล้านเลยทีเดียว

โดยเธอได้เล่าถึงสาเหตุที่ไปศัลยกรรมความงามเพิ่มในวัย 61 ปีเช่นนี้ว่า เป็นเพราะรู้สึกว่าตนเองอายุเยอะแล้ว และมีปัญหาเรื่องผิวที่ขนาดหมอเห็นยังตกใจเพราะไม่มีไขมันบนใบหน้าทำให้ผิวแห้งและเหี่ยวง่าย

"หมอว่ายากที่สุดในโลกเท่าที่เคยทำมา ทำฉีดไขมันครั้งแรกหายไปหมดเลย ครั้งที่สองก็เหลือแค่นี้และมันจะหายลงไปเรื่อยๆ"

ก่อนจะบอกว่ารู้ว่าคิดถูกแล้วที่ตัดสินใจยอมเจ็บตัวไปทำเพราะรู้สึกมั่นใจขึ้นมาก แต่ก็มีบางส่วนที่ร่างกายเราไม่เหมือนคนอื่น ก็ต้องใช้เวลาในการดูแลรักษานานกว่าปกติ

"จริงๆ หมออยากทุบโหนก ทุบกระโหลก ทุบคาง ตัดกราม ส่วนนี่จะเป็นส่วนที่ทำให้เสียงเราเพี้ยน จะร้องเพลงแล้วจะไม่เหมือนเดิม ก็เลยบอกหมอไม่เอา เอาเหมือนเดิม แต่ให้ดูเด็กเฉยๆ"

"หมอก็บอกว่าไม่ควรทำติดกัน ค่อยเป็นค่อยไป"เธอว่า

ส่วนสิ่งที่ทำเพิ่มมาใหม่นั้นก็เริ่มตั้งแต่ ปลูกผม แก้ตาตก เปลี่ยนจมูกใหม่ ดึงหน้า ฉีดไขมันบนใบหน้า 2 ครั้ง ถ้าถามว่าคิดว่าหน้าเด็กลงไปเท่าไหร่ เธอก็ว่า

"ให้คะแนนตัวเองก็น่าจะประมาณ 50 ก็เกือบ 10 ปีแต่คนอื่นดูเค้าบอกว่าลงมากกว่านั้น"

กับความตั้งใจในการทำศัลยกรรมในครั้งนี้นอกจากจะเพิ่มความงามให้ตนเองแล้วนั้น เจินเจินยังได้บอกว่า อยากจะเป็นไอดอลเป็นกำลังใจให้กับคนที่มีอายุ ที่ส่วนใหญ่เริ่มปล่อยเนื้อปล่อยตัวแล้ว

"เราอยากเป็นจุดตรงนั้นที่จะทำให้เห็นว่าเราทำได้แล้วในอนาคตถ้าเราสามารถทำซิกแพคได้จริงๆมันจะเป็นพลังให้กับคนเยอะแยะมากมายเลยนะ ที่จะลุกขึ้นมาดูแล สุขภาพตัวเอง"

ทั้งยังเผยถึงแพลนการอัพเลเวลความสวยครั้งที่ 2 ว่า จะเริ่มตั้งแต่คางลงไป ทำหน้าอกเพิ่ม รวมถึงการออกกำลังกายสร้างซิกซ์แพค และดูดไขมันส่วนเกิน

นอกจากนี้เมื่อสอบถามถึงเรื่องความรักกับ ประจักษ์ นาสารี เธอก็เผยว่ารู้จักกันมา 20 ปี เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนเป็นพี่ ด้วยการทำงานวงดนตรีด้วยกันเดินสายทั่วอเมริกา ก็ได้ใช้ชีวร่วมกันมาเป็นปีที่ 7 แล้ว

ก่อนจะเล่าว่าตอนแรกมีแพลนจะแต่งงานเดือนมกราคมปีหน้า แต่คงต้องเลื่อนออกไปก่อน แต่ส่วนตัวแล้วตนก็ไม่ได้อยากแต่งงานเท่าไหร่นัก ด้วยเพราะเป็นแบบนี้อาจจะทำให้คนว่าเสียเปล่าๆ แต่ทางสามีก็ได้บอกว่า

"เขามีเหตุผลว่าเขาอายุเยอะแล้วถ้าเขาเป็นอะไรไปไม่มีอะไรเลยที่จะซัพพอร์ตเราได้ แต่ถ้าจดทะเบียนสมรสเราต้องจดที่อเมริกา เงินค่าเกษียณที่คุณพ่อเสียชีวิตเราได้หมดเลยแล้วจะได้ทั้งรักษาดูแลพยาบาลฟรีทั้งหมด"

"เราเห็นว่าก็มีประโยชน์ไม่ใช่ว่าอยากได้นะเพราะเราไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนกัน แต่นั้นก็เป็นเหตุผลที่ฟังแล้วขึ้น"เจินเจินว่า