ซึ่งมันเป็นเรื่องเซนซิทีฟมาก เชื่อว่าไม่มีใครตั้งใจให้มันเกิดขึ้นมา เป็นเรื่องของความรู้สึก ที่ห้ามกันไม่ได้ แต่พอมันเกิดขึ้นมาแล้ว ทุกฝ่ายแมนพอ และค่อนข้างโต มีเหตุผลมาก ต้องเข้าใจกันอย่างแน่นอน
ซึ่งหนุ่ม "อาเล็ก" ก็บอกถึง "อเล็กซ์" อีกว่า "เรามีความจริงใจอยู่แล้ว เมื่อเราตัดสินใจแล้ว และคิดว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ที่เราควรบอก ให้เกียรติเขา ในฐานะเพื่อนที่เราแคร์เขามาก"
หากย้อนไปก่อนหน้านี้ที่ "อเล็กซ์" เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องความรัก และสถานะกับ "เต้ย จรินทร์พร" ความเป็นห่วง ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันแบบนี้!!
"ผมกับ เต้ย เรายังคุยและปรึกษาเรื่องงานกันทุกวัน เรามีความสัมพันธ์แบบเพื่อน ดังนั้นเลยยังปรึกษากันทุกรายละเอียด
ส่วนเรื่องส่วนตัวก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ เต้ย ฮอตมาก ผมก็ได้ดูข่าวเขากับหนุ่มคนอื่นนะ เพราะมันเต็มไอจีเลย และก็มีแซวเขาบ้าง"
"ผมว่า เต้ย รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ และเขาก็แข็งแรงพอที่จะไม่ให้ข่าวเล็กน้อยพวกนี้มากระทบได้ ผมรู้จักเขามาหลายปีและรู้ว่าเขาคิดยังไง ผมเลยเชื่อว่าการตัดสินใจเขาต้องเป็นการตัดสินใจที่ดี ถ้าเกิดเรามานั่งตัดสินคนผ่านข่าว มันคงมีแง่ลบเยอะ แต่ระหว่างเราสองคนมีแต่แง่บวกอย่างเดียว คือผมห่วงคนข้างนอกที่ไม่รู้จักเขาจริง ๆ อาจมองเขาในทางที่ไม่ดี ยิ่งตอนนี้งานเขาเยอะมากและเขาก็ไม่สามารถไปบอกทุกคนได้ว่าตัวตนเขาคิดอย่างนี้ บางคนอาจตัดสินเขาจากข่าว ผมห่วงตรงนี้ แต่ถ้าเป็นตัวเขาผมไม่ห่วงเลย เพราะผมรู้ว่าเขามีทุกวันนี้ได้เพราะเขาแข็งแรงในวิธีคิดอยู่แล้ว
ส่วนที่คนมองว่าเพราะเรายังคุยอยู่เลยไม่ค่อยมีคนกล้าจีบเต้ย อันนี้ไม่รู้นะ ต้องขอโทษ เต้ย ด้วย แต่มันคงไม่ขนาดนั้น มันเป็นสิทธิเขามากกว่า
เรื่องคนใหม่ที่จะเข้ามา เราก็คุยกัน อย่าง เต้ย มีคนมาจีบและถ้าผมรู้จักเขา ผมก็จะบอก ถ้าคนนี้ไม่ดี ผมก็จะบอกว่าไม่ได้ ก็บอกไปตรง ๆ แต่ถ้ามีคนดีเข้ามา เราก็ต้องบอกเขาว่าคนนี้ดี โอเค เหมือนเราเป็นเพื่อนกันไปแล้วถึงคุยแบบนี้กันได้ แต่ผมไม่ถึงขั้นสกรีนให้เขาขนาดนั้น แต่ในความเป็นเพื่อน ใครไม่ดีเราก็ไม่อยากให้มาเจอเพื่อนเรา เท่าที่ดูมาและคนที่มีข่าวกับ เต้ย ทั้งหมด ก็ยังไม่มีใครดีเท่าผมเลย บอกขำๆผมไม่ได้กั๊กนะ ผมพูดและเชื่อแบบนั้นจริงๆ"
เรื่องความรักครั้งใหม่ "อเล็กซ์" บอกว่า "ผมว่ามันอยู่ที่วิธีการคิดเรื่องความรักของแต่ละคนมากกว่า ผมเองก่อนมีเต้ย ผมก็มีแค่คนเดียว ทั้งชีวิตเราก็เคยมีแฟนแค่สองคน อายุ 27 แล้วเราก็คิดว่ามันเป็นเรื่องจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ มันก็เลยต้องคิดเล็กคิดน้อยมากกว่าก่อนที่จะคุยกับใครสักคน มันไม่ใช่เหมือนตอนเด็กๆที่คุยไปเรื่อย มันก็เลยมีข้อจำกัดเยอะมีความคิดมากขึ้น โตมากขึ้น ถ้าวันนึงต่างฝ่ายต่างมีคนเข้ามามันต้องมีวันนั้นอยู่แล้ว ก็รอให้มันมาถึงก่อนแล้วกัน ก็ยินดีมันก็ต้องเป็นไปตามธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว"
https://www.facebook.com/teeneedotcom