ศรราม น้ำเพชร เผยว่า "หลังจากที่ตนสึกออกมาเมื่อต้นปี ตนตั้งใจที่จะหาช่องทางไปแสดงคอนเสิร์ตและนำลิเกไปแสดงที่ต่างประเทศ จึงเริ่มหาสถานที่ ก็ได้เจอกับสถานที่หนึ่ง ที่แอลเอ สหรัฐอเมริกา ดูแล้วค่อนข้างใหญ่และดูแล้วว่าเป็นไปได้ที่เราจะสามารถมาเล่นที่นี่ ก็เลยติดต่อไปกับพี่คนหนึ่ง ชื่อกิต เราไปเจอเบอร์ติดต่อของเขาจากโปสเตอร์โปรโมตคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังวงหนึ่งที่ทำการแสดงที่อเมริกาเหมือนกัน ก็เลยเลือกที่จะติดต่อกับเขา พอติดต่อได้ก็มีการคุยงานดิวงานกัน ทางเราก็อธิบายว่าเราอยากไปแสดงคอนเสิร์ตอย่างนี้ๆ เขาก็โอเค และบอกว่าค่าเช่าฮอลล์ประมาณ 20,000 เหรียญยูเอส
“ศรราม น้ำเพชร” โอดความฝันลิเกโกอินเตอร์พังทลายแล้ว
ศรราม เล่าต่อว่า "มีอีกเรื่องหนึ่ง ครั้งนี้ตั้งใจจะไปประเทศเยอรมันไปแสดงคอนเสิร์ต คนที่ติดต่อด้วยชื่อดีเจน้อย ก็แนะนำมาว่ามาจัดที่นี่ไหมที่สนามม้าแห่งหนึ่ง แต่เป็นสนามกลางแจ้ง ซึ่งเขาบอกว่าตรงนี้เป็นจุดศูนย์กลางของ 8 จังหวัด จะมีสนามหญ้าคนไทยจะชอบมาที่นี่ในช่วงวันหยุดซัมเมอร์ เราให้เขาติดต่อหาสถานที่จัดงานให้อยู่แล้ว ครั้งนี้เขาพรีเซ้นต์ที่สนามม้าเราก็สนใจ สถานที่เป็นอย่างนี้ๆ คนต้องเยอะมากเลย ยังไงก็คุ้ม เราก็สนใจ เราไปร้องเพลงก็อยากให้คนรู้จักเรามากขึ้น พอถึงเดือนกรกฎาคน ตามที่นัดหมาย วันที่ 21 กรกฎาคม เราได้ไปร้องเพลงอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเยอรมันซึ่งเป็นร้านเพื่อนดีเจน้อย ก็ยังได้เจอกันอยู่เลย
เลยกลายเป็นว่าตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม ไม่สามารถติดต่อกับเขาได้เลย แล้วงานวันที่ 23 กรกฎาคม เขาเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด พอเป็นอย่างนี้เราเองก็เริ่มทำใจแล้วว่าไม่มีแน่ๆ เพราะว่าพอหลังจากนั้นเราก็ไปตามที่สถานที่ดีเจน้อยแจ้งเราไว้ ปรากฎว่าเป็นฮอลล์เล็กๆ ที่ใช้จัดงานและให้เพื่อนไปถามเจ้าของสถานที่ว่ารู้จักดีเจน้อยหรือไม่ ไม่รู้จักและไม่ได้ติดต่อไว้ด้วย ถามว่าเงินที่ดีเจน้อยเรียกเก็บได้จ่ายไปมั้ย จ่ายไปหมดแล้ว ทั้งหมดที่จ่ายไปมูลค่าแปดแสนกว่าบาท ถ้ารวมสองงานก็เยอะมาก ไหนจะค่าทำวีซ่า ค่าเดินทาง ตั๋วเครื่องบินอีกหลายแสน"
ถามว่าถ้าได้เล่นคอนเสิร์ตตามที่ตั้งใจ จะได้กำไรหรือไม่ "คือถ้ามีงานแสดง ถึงแม้ว่าจะขาดทุนมันยังโอเค กว่าเราไม่ได้แสดงอะไรเลย"
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการคุยกับทนายหรือได้ดำเนินคดีอย่างไรหรือไม่ ลิเกชื่อดัง กล่าวว่า "เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาได้เดินทางไปคุยกับทนายที่เยอรมัน แต่ทนายบอกว่าเรื่องนี้จะยากตรงที่ว่าเราไม่มีเอกสารหรือสัญญาจ้างใด้เลย ส่วนเรื่องหลักฐานในการคุยกันผ่านไลน์ แบบนั้นเรามี หลักฐานการโอนเงินเรามี ซึ่งตอนนี้เราเองก็ต้องตรวจสอบว่าถ้าดำเนินการทำอะไรลงไปแล้ว จะมีฟีดแบคกลับมากับเราอย่างไร เพราะเรากลัวว่าถ้ามีผลกับเรา เราจะโดนแบล็คลิสอาจจะทำให้เราเดินทางเข้าประเทศเขาลำบากหรือเปล่า ซึ่งมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเราก็เสียกำลังใจ เคยมีเหมือนกันที่ความตั้งใจที่จะนำลิเกไปแสดงต่างประเทศลดลง แต่สุดท้ายก็ยังตั้งมั่นที่จะไปอยู่ดีนั่นแหละ ถึงแม้ว่าเราจะเสียเงินที่เราตั้งใจหามาด้วยความเหนื่อย แต่เราไม่ตายหรอก แต่ว่าเราอยากเอาความฝันของเราให้เป็นจริงเสียที"
https://www.facebook.com/teeneedotcom