เช่นเดียวกับผม คนรู้จัก กันต์ กันตถาวร ว่าเป็นนักแสดงกว่า 10 ปี แต่ความจริงแล้วผมตั้งใจอยากเป็นพิธีกร และจุดเริ่มต้นของการเป็นนักแสดงผมก็ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นพระเอก แต่เป็นบทเพื่อนของเพื่อนพระเอก จนค่อยๆ ก้าวเป็นพระเอก ดังนั้นหน้ากากที่ผมสวมโดยทุกคนเป็นผู้สวมให้คือหน้ากากพระเอก จนเมื่อเกิดจุดเปลี่ยนที่ผมรู้สึกเศร้าใจ และกลับกลายเป็นเรื่องที่ดีของชีวิตคือ ผมเองเป็นคนหนึ่งที่อยากประสบความสำเร็จให้หน้าที่การงาน เพื่อจะดูแลครอบครัวได้ ผมทำงานตลอด 3 ปีไม่มีวันหยุด ถ่ายละครตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงตี 2 ในหนึ่งอาทิตย์ผมถ่ายละคร 3 เรื่อง และยังมีบริษัทที่ต้องดูแลอีก 5 บริษัท
จนวันหนึ่งผมสามารถซื้อบ้านในฝันที่อยากได้ด้วยอายุที่ยังน้อย พ่อแม่ผมมาแสดงความยินดีพร้อมบอกว่าพรุ่งนี้กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนนะ ผมต้องโทรศัพท์ไปขออนุญาตกองถ่ายทำ โดยมีความรู้สึกว่าทำไมต้องขออนุญาต แต่กองละครปฏิเสธ ซึ่งพ่อแม่บอกไม่เป็นไร วันรุ่งขึ้นผมต้องออกจากบ้านเพื่อไปทำงานประมาณตี 5 ครึ่ง ผมพบกับข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ผมบอกแม่ว่าอยากกินแขวนอยู่ที่ประตูบ้าน ผมน้ำตาไหลพร้อมกับคำถามในใจทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำไมถึงกินข้าวกับพ่อแม่ไม่ได้ เราน่าจะมีความสุข แต่เปล่าเลย ผมเองก็สวมหน้ากากเหมือนกัน หน้ากากที่บอกว่าเป็นคนประสบความสำเร็จ แต่เบื้องลึกกลับละเลยคนใกล้ตัว ผมไม่ได้กินข้าวร่วมกับครอบครัวถึง 3 เดือน จนถึงจุดเปลี่ยนด้วยคำว่า "พอ" เพราะผมอยากเห็นรอยยิ้มของคนที่ผมรัก ผมไม่อยากเป็นคนรวยที่สุด แต่ผมอยากเป็นคนที่มีความสุขที่สุด
ผมจึงตัดสินใจเริ่มทำอาชีพพิธีกร พร้อมปรึกษาเพื่อนและคนในครอบครัว แต่ทุกคนกลับบอกว่าอย่าเลย เพราะกว่าจะเป็นพระเอกได้ทำไมถึงจะทิ้งโอกาส และไปเริ่มต้นสิ่งที่ไม่เคยทำซึ่งจะสำเร็จหรือไม่ก็ไม่รู้ ผมถูกตัดสินจากคนรอบตัว ผมจึงคิดว่าผมจะไม่ยอมให้คนอื่นมาตัดสิน ว่าผมทำอะไรได้หรือทำไม่ได้ ผมจึงเบนเข็มเป็นพิธีกรและทำมาได้ 2 ปีแล้ว จาก 1 รายการก็เพิ่มเป็นอีกหลายรายการ มันเป็นความภูมิใจ แม้ว่าผมยังไม่เก่งพอตามชั่วโมงบิน แต่ผมก็จะไม่หยุดพยายาม ผมเชื่อว่าทุกคนมีหน้ากากที่ตัวเองเลือกใส่ และหน้ากากที่คนอื่นใส่ให้ แต่อย่าให้ใครมาบอกว่าเราทำอะไรได้ หรือไม่ได้ ถอดหน้ากากนั้นทิ้งซะ แล้วชีวิตคุณจะมีความสุข ถ้าคุณอยากให้คนอื่นยอมรับในตัวคุณ คุณต้องยอมรับในตัวคุณเองก่อน ถ้าคุณจะมีความสุขได้ คนรอบตัวต้องมีความสุขด้วยเช่นกัน รายการ The Mask Singer จึงเป็นรายการที่ทำให้เราได้ย้อนกลับมามองตัวเอง ครอบครัว และไม่ตัดสินใครจากสิ่งที่เรียกว่าหน้ากาก ดังนั้น ทุกคนครับ...ถอดหน้ากากครับ"
https://www.facebook.com/teeneedotcom