ษาหอมหนุ่มรุม ควงตี๋เปล่าแฟน-ยี้วิวาห์

คุณแม่ยังสาว "ษา" วรรณษา ทองวิเศษ กล่าวว่า

"พี่คนนี้ชื่อพี่กบ เป็นทั้งหุ้นส่วนและเป็นทั้งผู้จัดการที่คุณแม่ให้ดูแลษา ไม่ใช่อย่างที่มีข่าวออกมาว่าเป็นแฟนใหม่ อย่างเดือนที่แล้วที่มีภาพออกมาก็เป็นเพื่อนทั้งสองคนเลย มาเดือนนี้ก็เป็นพี่ผู้จัดการอีก ไม่รู้ว่าเดือนหน้าจะเป็นใคร" คุณแม่ยังสาว "ษา" วรรณษา ทองวิเศษ หัวเราะ ก่อนเผยถึงหนุ่มตี๋ที่ควงกันไปร่วมยินดีในงานเปิดตัวงานเพลงชุดใหม่ของ "อ้อน"เกวลิน คอตแลนด์

"พี่คนนี้คุณแม่ตั้งให้เป็นผู้จัดการ ษารู้จักกับเขามาเกือบสิบปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2542 เขามาดูแลเราในรื่องผลประโยชน์ในเรื่องเกี่ยวกับงาน และเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่จะทำสปากับเรา เขาไม่ใช่คนมาดามหัวใจ แต่ต้องบอกเลยว่าตอนนี้ค่อนข้างตัวจะติดกันเพราะว่าเราต้องไปเลือกเฟอร์นิเจอร์ ทำเรื่องช่าง แพลนงาน เราจะเปิดสปาในหุ้นมี 3 หุ้น หุ้นหนึ่งท่านเป็นผู้ใหญ่ อีก 2 หุ้นคือษากับพี่กบ เพราะฉะนั้นคนที่วิ่งก็คือษากับพี่กบ ซึ่งมีภาพออกมาว่าไปซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน มันไม่ใช่เรือนหอหรืออะไรทั้งสิ้น (หัวเราะ)"

เครียดกับข่าวนี้มั้ย

"ษาไม่ซีเรียสค่ะ และไม่กระทบกับคดีของษากับพี่เป้ (สุรัช ทับวัง) เพราะคดีก็จบไปแล้วตอนนี้ทุกอย่างเป็นเรื่องส่วนตัว และตรงนี้ษาทำงานด้วยค่ะ"

ตอนนี้พร้อมเปิดใจรับคนใหม่ๆ หรือยัง? ดาราสาวกล่าวว่า

"จริงๆ แล้วมันเป็นอะไรที่เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว จะมีหรือไม่มี แต่ตอนนี้ษารู้สึกแฮปปี้อยู่กับงานมากกว่า ตอนนี้มีหนุ่มๆ เข้ามาเยอะ ไม่ใช่ว่าเราเป็นคนเสน่ห์แรงหรือแม่ม่ายทรงเครื่องอย่างที่ทุกคนบอก แต่อาจเป็นเพราะเรากล้าพูดและช่วงนี้เราคอนเน็กชั่นกับคนเยอะด้วย เพราะเราต้องเปิดร้าน ด้วยความที่เราเป็นเราและเรากล้าพูดทำให้คนรู้สึกว่าเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นก็อยากพูดคุยด้วย แต่ในทำนองชู้สาวเลยยังไม่มี แต่ถ้าคุยถูกคอก็มีเยอะค่ะ ษาไม่หวั่นไหวเพราะเราทำงานและพุ่งความสนใจไปที่งานอย่างเดียว เราไม่ได้มุ่งไปเรื่องคู่ครองหรือจะหาแฟนใหม่"

คุณแม่ยังสาวกล่าวต่ออีกว่า

"ตอนนี้ษายังไม่ได้คิดที่จะมีคนใหม่เลย ษาคิดเรื่องงานอย่างเดียว แต่อนาคตเราไม่รู้ จริงๆ แล้วคนเรามันก็ไม่ใช่ว่าจะโสดสนิทไปทุกอย่าง บางทีมีการพูดคุยมันก็โอเคแล้ว แต่ถ้าถามว่าเข็ดเรื่องแต่งงานมั้ย คือเราเข็ดในเรื่องแต่งงานหรือการมีคู่ครองที่จะต้องมาร่วมหัวจมท้ายกัน ครั้งต่อไปจะไม่มีการแต่งงานอีกแน่นอน และตอนนี้ก็ยังไม่มีใครอาสาจะมาเป็นพ่อของเซเด ตรงนี้ยืนยันได้ค่ะ"

คิดว่าเรื่องราวของษากับเป้ที่ผ่านมาเป็นบาดแผลหรือเปล่า?

"ตั้งแต่ศาลตัดสิน เราไม่พูดอะไรแล้วค่ะ เราก็เหมือนพับอดีตเก่าๆ เก็บไปแล้วทำอนาคตใหม่ ด้วยความที่เราไม่อยากให้ลูกของเราเจ็บปวดด้วยก็จะไม่พูดตรงนี้ กลัวมีผลกระทบกับลูกและเราก็ไตร่ตรองตรงนี้มานานพอสมควรว่าเราจะไม่ทะเลาะและไม่พูดอะไรไม่ดีๆ ใส่กันอีก ทุกอย่างจบก็คือจบกันไปเลย ณ วันที่ศาลตัดสินว่าทุกอย่างโอเคหมดแล้ว ตอนนี้อำนาจศาลตัดสินมาว่าให้พ่อมารับได้อาทิตย์ละ 1 วัน แต่อยู่ในการพิจารณาของษา ซึ่งษาได้อำนาจในการปกครองลูกทั้งหมด แล้วในการมารับหรือส่งขออย่าให้เป็นยามวิกาล"

"จริงๆ เราไม่ได้กีดกันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ษาอยากให้ลูกรู้เรื่องและพูดคุยได้ก่อน เวลาที่เขาป่วย หิว และอยากกลับบ้านเขาสามารถบอกได้ ษาไม่กลัวว่าลูกจะจำพฤติกรรมของพ่อ เพราะเขาเป็นพ่อนะคะ ก็ดูแล้วกันว่าเขาควรจะสอนลูกแบบไหน นั่นคือเป็นหน้าที่ของเขาแล้ว เราควรทำใจไว้นิดนึงว่าสิ่งที่ ณ ต่อไปนี้ต้องแบ่งครึ่งทำใจ เขาจะดูแลอย่างไรก็ต้องปล่อยเขาในหน้าที่ของพ่อที่เขาต้องทำ พอลูกอยู่กับเรา เราก็ทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด อย่างเดียวคืออย่าสอนลูกสลับกันไปมา ถ้าสอนก็ควรสอนในแนวเดียวกันค่ะ"