ยู่ยี่ควงสามีโต้ข่าวเจ้าพ่อค้ายา

“แปลกใจที่ข่าวนี้ออกไปเร็วมาก และการนำข่าวลือที่ไม่ถูกต้องหรือยังไม่แน่ใจมากระจายไปทั่วเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

อย่างที่รู้กันว่าตนไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงอะไรหลายคนรู้จักตนในฐานะสามีของคุณยู่ยี่ แต่ในโลกเทนนิสตนเป็นที่รู้จักอย่างมากเพราะตนเป็นโค้ชเทนนิส ปกติตนเป็นคนไม่ดื่มสุรา ไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมาย และไม่ได้เป็นอาชญากร”

 เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการฟ้องร้องบุคคลที่ทำให้เสียเชื่อเสียงหรือไม่ สามีอดีตนางแบบกล่าวว่า

“ผมเป็นคนธรรมดาทำงานของผมปกติคงไม่ออกไปฟ้องร้องใคร ผมทราบดีว่าคุณยู่ยี่เป็นบุคลสาธารณะเวลาเกิดผอมไปหรือดูเหมือนไม่สบายผู้คนก็จะให้ความสนใจ แต่ผมอยากพูดตรงนี้ให้กระจ่างว่า 4 ปีก่อนเราสูญเสียลูกชายไปคนหนึ่ง ไม่มีใครคิดเลยหรือว่าคุณยู่ยี่อาจจะรู้สึกเศร้าเสียใจกับเรื่องนี้หรือเปล่า และทุกปีในช่วงเวลาที่เราสูญเสียลูกเป็นช่วงเวลายากลำบากมาก ภรรยาผมเอาแต่ร้องไห้ ซึ่งถ้าใครเคยเสียลูกไปคงไม่มีวันลืมช่วงเวลานั้นแน่ๆ” 

ต่อข้อถามที่ข่าวมีผลกระทบอย่างไรบ้างกับชีวิต แฟรงค์กล่าวว่า

“ข่าวมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงเพราะในวงการเทนนิสผมถือเป็นที่รู้จักของคนหมู่มาก เมื่อวานนี้(16ธ.ค.)ผมก็เสียลูกศิษย์ไป 3 คนเพราะผู้ปกครองไม่แน่ใจว่าผมเกี่ยวข้องกับข่าวจริงหรือเปล่า”

 ด้าน “ยู่ยี่-อลิสา” กล่าวเพิ่มเติมว่า

“ยี่ไม่อยากปล่อยให้ข่าวผ่านเลยไปไม่อย่างนั้นมันจะฟุ้งไปเรื่อย ยี่เองรู้สึกสงสารสามี ยี่เห็นเขาทำงานหนักทุกวัน ไม่น่ามาโดนข่าวแบบนี้ให้เขาเสียใจหรือท้อถอยในการทำงาน”

 ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นเพราะความผอมของตัวเองหรือเปล่ายิ่งทำให้คนเชื่อข่าวนี้มากขึ้น? อดีตนางแบบกล่าวว่า

 “ไม่น่าจะเกี่ยว คนอ่านก็ต้องคิดกันเอาเองว่ามีเหตุผลมากพอหรือเปล่า สาเหตุที่ยี่ผอมเพราะโหมเล่นเทนนิสหนักมาก และมีช่วงหนึ่งที่เครียดด้วย ที่สำคัญที่สุดคือยี่จะใช้แรงเยอะในการเลี้ยงลูก เวลาจะกินก็ไม่มี บางทีเหนื่อยจนไม่อยากกินข้าว ยี่ยืนยันว่าไม่ได้มีโรคประจำตัว แข็งแรงดีแต่ต้องกินให้เยอะกว่านี้” เมื่อถามถึงน้ำหนักตัวตอนนี้ “ยู่ยี่” กล่าวว่า “น้ำหนักลงจาก 49 มาอยู่ที่ 46 กิโลซึ่งจะว่าไปก็ไม่ได้ผอมมาก”