ดารายอดกตัญญู!! “ณัฐ ณัฐรัฐ” ทุ่มเทเวลา ดูแลทั้งพ่อและแม่ที่ป่วยหนัก ฮึดสู้ดูแลเต็มที่!!

โดย ณัฐ เผยว่า "อาการโรคหัวใจของคุณพ่อก็โอเคไม่มีปัญหา แต่ล่าสุดเขาเดินขึ้นบันไดแล้วมีอาการแน่นหน้าอก เลยพาไปตรวจตอนนี้อาจจะต้องทำบอลลูนเพิ่ม เอายามากินก่อนแล้วดูว่าจะดีขึ้นไหม อาจเปลี่ยนพฤติกรรมพยายามให้ออกกำลังกาย ก็ต้องลองดูว่าจะเป็นยังไง ส่วนอันนี้ก็ล่าสุด ปกติแม่ผมแข็งแรงมาก แต่ว่าอยู่ๆ แม่ก็เส้นเลือดในสมองแตก เหมือนช่วงนั้นเป็นช่วงเครียดๆ ปกติแม่ความดันปกติ ผมก็เลยไปศึกษาทีหลัง ถ้าเราเครียดจะมีฮอร์โมนที่จะหลั่งออกมาถ้าอยู่ในร่างกายนานมันจะทำให้ความดันขึ้นก็จะเป็นอย่างนั้นได้ แต่หมอดูแล้วบอกว่าน่าจะ 1 ปีถึงกลับมาเป็นปกติ ตอนนี้ขาขวาแขนขวาจะกระดิกควบคุมไม่ได้ ตอนแรกคิดว่าเป็นพาร์กินสัน พอไปตรวจปรากฏว่าเป็นเส้นเลือดแตก ช่วงนี้ก็เลยให้แม่อยู่บ้านไป พ่อด้วยก็ช่วยๆ กันดูแลไป"

คุณพ่อคุณแม่ป่วยทั้งคู่สภาพจิตใจเราเป็นอย่างไรบ้าง

"ผมรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะไปคิดอะไรที่หดหู่ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแหละ ก็เป็นเรื่องปกติ ถ้าผมเริ่มหดหู่เมื่อไหร่ใครจะเป็นกำลังใจให้ท่าน อาการคุณแม่บางทีก็ต้องกินยาช่วยระงับ แต่ว่าบางทียาก็เริ่มไม่ค่อยมีผล เวลาเดินแม่จะใช้ไม้เท้าช่วยพยุง หมอท่านนึงบอกว่าไม่หายหรอกก็เป็นแบบนี้ แต่ว่ามีหลายคน หรือบางคนก็ 10 ปีเริ่มหาย 3 ปี เริ่มหาย หรือ 1 ปีหายก็มี หมอก็ยังบอกไม่ได้มันเป็นเรื่องของอนาคต เหมือนบางคนอัมพฤตครึ่งนึงก็กลับมาหาย บางคนก็เป็นตลอดชีวิต มันก็แล้วแต่ ต้องรอให้สมองพักฟื้นด้วยตัวมันเอง เราก็ไม่สามารถไปแก้อะไรตรงนั้นได้ ต้องรอให้มันฟื้นฟูและอาจจะต้องกายภาพด้วย"

อาการของคุณแม่สามารถควบคุมได้ไหม

"มันจะหยุดตอนหลับ ทุกวันนี้จะกินยาแบบจิตเวช พอสมองและทุกอย่างมันช้าลงขาจะหยุดกระดิก ส่วนพ่อตอนนี้ดูว่าต้องบายพาสหรือเปล่า เพราะว่ามีเรื่องแน่นหน้าอก ถามว่าระหว่างพ่อกับแม่ใครอาการดีกว่ากัน โดยรวมแม่อาการดีกว่านะ"

ตอนนี้เราก็เลยต้องรับงานน้อยลง

"ผมเพิ่งถอนตัวจากละครเรื่อง ริมฝั่งน้ำ เพราะตอนนั้นยายมาอยู่ด้วย พ่อก็ป่วย แม่ก็ดูแลทุกคนไม่ค่อยไหวแล้ว เลยคิดว่าเรารับเรื่องเดียวก็พอเลยถอนตัวจากเรื่องนั้นไป ซึ่งตอนนี้ยายกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดแล้ว แต่รู้สึกโอเคที่ตอนนั้นถอนตัวไปเพราะเราก็กลัวว่าแม่จะเป็นแบบนี้หละ ช่วงนั้นแม่เหนื่อยแทบจะไม่ได้นอน"

จะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายไหม

"อะไรที่เราทำเอกชนเราก็ไปเอกชน แต่ว่าบางทีเราก็ต้องเข้าโรงพยาบาลรัฐบาลจะถูกกว่า โดยปกติเราก็ไปช่วยงานโรงพยาบาลอยู่แล้ว และผู้ใหญ่ทางช่องก็ช่วยแนะนำฝากกับหมอที่เก่งๆ ทำให้ช่วยได้บ้าง ไม่งั้นก็คงแพงกว่านี้เยอะ

พ่อกับแม่ให้กำลังใจเรายังไงบ้าง

"ผมเชื่อว่าถ้าเราบอกแม่ว่าไม่ต้องคิดมากนะครับ มันจะยิ่งคิดนะ ผมจะทำแบบแฮปปี้ ผมจะคุยแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่งดูทีวีคุยกับพ่อ ขำๆ ไป หรือพาเขาออกไปเที่ยวดีกว่า ส่วนเรื่องที่เราถอนตัวจากละครผมก็คุยกับแม่ว่าพอจะได้ไหม แต่เราก็ถามทางช่องด้วยว่าโอเคหรือเปล่า ซึ่งละครยังไม่ได้เริ่มถ่ายแค่ฟิตติ้งไปแล้ว ทางช่องก็บอกว่าได้ๆ เดี๋ยวส่งคนอื่นไปเล่นแทน เราก็โอเค ณ ตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้น ผมอาจจะรับละครได้อีกเรื่องนึงเดี๋ยวดูก่อนครับ"