หนังคนละม้วน! ผัว สาวมาด แฉกลับ มีทอมเข้ามาพัวพัน อยู่เบื้องหลังดราม่าทุกอย่าง?!

ดราม่าไม่เลิก สำหรับคู่สามีภรรยา "กรุง สุขสันต์" กับ "สาวมาด เมกะแดนซ์" หลังเคยมีข่าวอดีตนักร้องชื่อดัง เจ้าของเสียงร้องเพลงโดนใจมหาชนอย่าง สาวลาดพร้าว ดาวมหาลัย ออกจากบ้านไปอยู่ห้องเช่า กับพี่สาว เพราะสุดทนที่สามีปันใจไปมีผู้หญิงอื่น ก่อนออกมาเคลียร์ว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีอะไรในก่อไผ่ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะความน้อยใจ ที่ฝ่ายชายออกจากบ้านไปทำหนังเรื่อง "อีปึกอัศจรรย์วันแห่งศรัทธา" เป็นเวลาหลายวัน ก่อนปรับความเข้าใจ ปรองดองกันได้ และฝ่ายชายไปรับนักร้องสาวกลับบ้านมาใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกันเหมือนเดิม

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 60 เรื่องราวภายในครอบครัวของ สาวมาด เมกกะแดนซ์ และ กรุง สุขสันต์ กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่ากว่าเก่าร้ายเท่าตัว เมื่อฝ่ายนักร้องคนดังในอดีต ออกมาปล่อยโฮสาวไส้ฝ่ายสามีแบบไม่เหลือชิ้นดีว่า แท้จริงแล้วเธอถูกสามีทิ้งไปมีผู้หญิงอื่น ใช้ชีวิตต่างคนต่างอยู่มานานแล้ว เพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรสหลังจากป่วยเดินไม่ได้ รักษาตัวรอดจากเงื้อมมือมัจจุราช มาใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น แต่ขอให้แก้ข่าวเพื่อให้หนังที่ลงทุนสร้างมีผู้ชม จะได้มีเงินมาไถ่บ้านที่นำไปจำนองไว้คืน รู้สึกผิดหวังที่ต้องโหกคนทั้งประเทศ แต่ที่ทำไปเพราะอยากมีที่ซุกหัวนอน ที่ออกมาพูดครั้งนี้ เพราะอยากโกหก และขอโทษคนทั้งประเทศ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าว ได้สอบถามไปทาง กรุง สุขสันต์ สามีของสาวมาด เจ้าตัวเปิดใจว่า ตนออกจากบ้านที่ จ.สระบุรี มาได้ประมาณ 2-3 วัน มาอาศัยกับพรรคพวก ที่ นวนคร จ.ปทุมธานี เพื่อตระเวนออดิชั่น หางงานทำเป็นนักร้องในร้านอาหาร เพราะสภาพการเงินในครอบครัวไม่ดีจริงๆ แต่ไม่คาดคิดว่า จะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น ในฐานะหัวหน้าครอบครัว รู้สึกท้อแท้ พร้อมกับเผยด้วยน้ำเสียงค่อนข้างมีอารมณ์ว่า เรื่องนี้มีทอมอยู่เบื้องหลัง คอยยุแยงตะแคงรั่ว ครอบครัวตนให้เกิดความแตกแยก เพราะต้องการให้สาวมาดขายบ้าน และไปใช่ชีวิตอยู่ จ.ร้อยเอ็ด ด้วยกัน หลังจากเห็นข่าว ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ฝ่ายภรรยาไม่รับสาย

"มีทอมมาพัวพันสาวมาดมาเกือบปีแล้ว ตอนแรกบอกว่าเป็นญาติ พี่ น้อง กัน ตอนที่เข้ามา เป็นช่วงที่แม่บ้านคนเก่าออกไป เพราะไม่มีเงินจ้าง มาดก็ด่าเขา สงสารก็เลยให้ออก ผมไม่เคยทิ้งเมียนะ ทำงานหาเงินให้ครอบครัวตลอด ผมจะไปขู่ให้เขาโกหกทำไม ช่วงที่เขาออกจากบ้านไป 3-4 วัน แล้วบอกว่าไปอยู่บ้านเช่าเป็นเดือน ผมว่าผมก็เป็นฝ่ายที่ออกมาช่วย ให้เรื่องทุกอย่างมันดีขึ้น ตอนนี้ผมรู้ว่าสภาพคล่องในครอบครัวไม่ดี เพราะทำหนังขาดทุน ผมก็ออกจากบ้านมากับกีต้าร์ตัวเดียว เพื่อมาหางานทำ ที่ซุกหัวนอนยังไม่มีเป็นหลักแหล่งเลย ทำหนังขาดทุน ลงทุนไปเกือบ 10 ล้านบาท ได้กลับมาไม่กี่แสน รู้สึกว่านักข่าวไม่ยุติธรรม ไม่ถามผมเลยว่าเรื่องอีกมุมหนึ่งเป็นอย่างไร ถามฝ่ายเดียว ทำให้คนอตกแยกกันเพื่ออะไร แล้วยังไปหาว่าพ่อแม่ผมกีดกันไม่ให้เจอลูก ท่านไม่เคยกีดกัน ท่านเลี้ยงลูกให้ก็ดีแล้ว พ่อแม่ผมเคยพาลูกมาหาที่บ้านก็ด่าเขาว่า เป็นครอบครัวหน้าเงิน ผมก็ไม่เคยอะไร เรื่องนี้มีคนอยู่เบื้องหลัง เพราะต้องการให้มาดขายบ้านหลังที่อยู่ปัจจุบัน ให้กับชาวญี่ปุ่น ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นชี่อผม ผมบอกว่าไม่ให้ขาย มีบ้านอยู่ดีอยู่แล้ว

เงินไม่มีผมยังหามาดูแลกันได้ เรื่องบ้านน่ะ บ้านหลังแรกที่ อ.หินกอง ขายได้ประมาณ 3 ล้าน 6 แสนบาท เอาไปโปะบ้านอีกหลังในสระบุรี ประมาณ 2 ล้าน 8 แสนบาท และก็เอาไปใช้หนี้ต่างๆ เพราะหลังจากมาดป่วยรักษาตัวกลับมาได้ มีเงินเหลือแค่ 7 พันบาท และก็ไปซื้อบ้านในเมืองสระบุรี คือบ้านหลังปัจจุบัน

ที่ซื้อเพราะมีเนื้อที่กว้างกว่าหลังเก่า มีสนามหญ้า สระน้ำ บรรยากาศดี เหมาะที่จะให้มาดได้ฟื้นฟูร่างกาย เพราะเขาเดินด้วยตนเองไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น บ้านหลังนี้ราคาประมาณ 2 ล้าน 2 แสนบาท จ่ายสด ยอมรับว่า เอาไปจำนองจริงๆ ในราคา 6 แสนบาท ก็ยังส่งอยู่ทุกเดือน ไม่ได้ปล่อยให้หลุด คนที่เราเอาไปจำนองก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะยึด ให้อยู่ปกติเลย ไม่มีเงินต้นก็ให้ส่งดอก มีแต่เพียงคนที่อยู่เบื้องหลังคอยยุให้มาดขายแล้วไปอยู่ร้อยเอ็ดกับเขา 

ผมเป็นสามีอะไรที่ดูไม่เข้าท่าก็ต้องทัดทาน จะมาพาเมียผมไปใช้ชีวิตที่อื่นได้ยังไง เอาไปแล้วไม่ดูแลทิ้งขว้าง จะเกิดอะไรตามมาอีก ผมก็เป็นห่วง ยอมรับว่าสภาพการเงินในครอบครัวไม่ดี แต่ในฐานะหัวหน้าครอบครัว ผมไม่ปล่อยให้อดตายแน่นอน ทำงานหาเงินเลี้ยงได้" สามีสาวมาดกล่าว

ที่มา siamdara