เปิดใจหลังสึก! “เอมมี่ แม็กซิม” ขอบคุณคนด่าทำให้มีงานเยอะขึ้น! (คลิป)

วันที่ 25 ก.ค. ที่สตูดิโอ ชั้น 5 บิ๊กซี ราชดำริ สาวเซ็กซี่ เอมมี่-อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ หรือ เอมมี่ แม็กซิม เปิดใจครั้งแรกในรายการ คุยเช้าโชว์ หลังลาสิกขาบทจากการปลงผมบวชชีพราหมณ์ 15 วัน

 

เอมมี่ เผยว่า "หลังจากไปบวชมา เอมมี่รู้สึกรักตัวเองมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยรักตัวเอง เรารักแค่คุณแม่กับลูกซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องรักอยู่แล้ว เราไม่เคยมองย้อนไปถึงสิ่งที่ทำเพื่อคนอื่นหมายถึงเพื่อนๆมันมากไปมั้ย เราแคร์ความรู้สึกและให้ความสำคัญกับคนอื่นมากไปมั้ย โดยลืมมองไปว่าสุดท้ายเราทุกข์อยู่คนเดียว"

 

"การบวช 15 วัน สอนให้เราลดอัตตา ลดตัวตน ทำตัวเองให้เล็กลง ไม่ยึดติด การลดอัตตาคือไม่คิดว่าฉันคือ เอมมี่ แม็กซิม ฉันไม่ได้เจ๋ง อย่างการปฏิบัติง่ายๆเลย จะมีถุงผ้าไว้ใส่ถุงเท้าที่เสถียรธรรมสถาน ซึ่งเราไม่รู้ว่าเขาไปเหยียบอะไรมาบ้าง แต่เราจะเป็นคนคอยทำความสะอาดถุงนั้น ที่เอมมี่โพสต์รูปว่าเหม็นก็กำหนดรู้ว่าเหม็น กำหนดรู้ว่าสกปรก แต่ดีใจที่ได้ทำ ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ การบวชในครั้งนี้อยากบอกกับทุกคนว่าไม่ต้องไปพิจารณาคนอื่น ให้กลับมาพิจารณาตัวเอง เมื่อเราทำดีไม่มีใครมาทำอะไรเราได้เลย ต่อให้เขามาด่าเอมมี่แค่ไหน ต้องขอบคุณนักเลงคีย์บอร์ดเราสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด่าเยอะๆเลย ยิ่งทำให้เอมมี่มีอีเว้นต์เยอะขึ้น ทำให้เอมมี่มีเงินเลี้ยงลูกและแม่ เอมมี่มีความสุข แค่นี้พอแล้ว"

 

ยังเล่นโซเชียลในขณะบวช
"ตลอดเวลาที่บวช 15 วัน เอมมี่ไม่ได้เล่นนะ แต่เอมมี่มาเล่นในวันที่จะลาสิกขาบทเพื่อให้ผู้มีปัญญาได้ร่วมอนุโมทนาบุญกับเรา แต่ถ้าผู้ไม่มีปัญญาเขาก็จะอคติ เราไม่ทุกข์ บอกเลยด่าได้ ยิ่งด่ายิ่งดัง ยิ่งมีงานเยอะ เพราะเราคิดบวก พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ถามว่ามีคนเข้ามาโจมตีในไอจีของเรามั้ย ไม่มีเลยค่ะ ไม่มีใครเข้ามาด่า มีแต่คนร่วมอนุโมทนาบุญกับเรา และที่สำคัญคนที่เคยมีอคติ หรือเกลียดเราก็เข้ามาอนุโมทนาบุญกับเราด้วย สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าเราบวชแต่เขาเห็นตอนที่เราปฏิบัติ เขาร้องไห้แล้วเข้ามากราบเรา 3 ครั้ง เราประพฤติดีประพฤติชอบ"

 

รู้สึกยังไงที่มีคนมองเราสร้างภาพ
"ไม่มีใครเอาเรื่องศาสนามาเป็นเรื่องสร้างภาพ เอมมี่บอกเสมอว่าใครจะด่าเอมมี่ด่าได้ ตบหัวได้ แต่อย่าเล่นอะไรที่เกี่ยวกับพ่อแม่ลูกและศาสนา เราไม่ยอม และในวันนั้นตอนปลงผมที่เอมมี่ร้องไห้หนักมากคือ ปีนี้อายุ 33 แล้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่แม่บอกว่า แม่รักหนูนะ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตแม่ไม่เคยบอกรักเลย ตอนที่แม่พูดข้างหูว่ารักเรา นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เอมมี่ ร้องไห้หนักมาก ฉะนั้นอย่าเอาเรื่องบุพการีมาว่าเป็นการสร้างกระแสดราม่า กระแสมีเยอะแล้ว ชื่อเสียงมีมากพอแล้ว มันไม่จำเป็นต้องมานั่งผลักดันตัวเองแล้ว ไม่ได้ห้ามให้ด่า เปลี่ยนทัศนคติดีกว่า ให้ลองใช้สติปัญญาในการใช้ชีวิต เอมมี่พูดว่าจะบวช ก่อนหน้านั้น 4 เดือน ก่อนคุณพ่อจะเสียแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ได้มีการเลียนแบบใคร หรือถ้าจะเลียนแบบใครเราก็เลียนแบบในสิ่งที่ดีของเขา เราเคยพูดว่าจะบวชตลอดชีวิตถ้าพ่อหายตอนที่คุณพ่อป่วยเข้าโรงพยาบาล แต่ในเมื่อพ่อไม่หายและจากเราไป เราในฐานะลูกก็ตอบแทนบุญคุณท่าน การที่เราบวชปลงผมและเราตั้งใจจริงๆที่จะทำให้พ่อ เราต้องเริ่มที่ตัวเรา เรามั่นใจว่าประพฤติดีไม่ทำร้ายใครทั้งกาย วาจา ใจ"

 

พอสึกมาแล้ว อยากกลับไปบวชใหม่อีกครั้งมั้ย
"วันสึกแทบไม่อยากสึกเลยค่ะ ร้องไห้ ถามตัวเองว่าจะรีบสึกทำไม แต่งานรออยู่ข้างหลังเพียบเลย เรารับงานไว้นานแล้วก็ต้องไปทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน เอมมี่ไม่ใช่พระอรหันต์ อย่างน้อยเราก็เป็นคนหนึ่งที่ประพฤติดีประพฤติชอบ อย่าตัดสินคนแค่ภาพลักษณ์ภายนอก ทุกอย่างอยู่ที่ใจหมด ตัดสินคนแค่เปลือกนอกไม่ได้ เราทำในพื้นที่ของเราไม่ได้ล้ำเส้นใคร"

 

หลังจากนี้จะลดดีกรีความเซ็กซี่ลงมั้ย
"งานคืองานค่ะ ถ้าเขาให้หลักล้านแล้วต้องการแบบนั้นเราก็ต้องทำให้ได้แบบนั้น เพราะเอมมี่เป็นคนจริงจังกับหน้าที่การงานที่ตัวเองได้รับมอบหมาย และจะไม่ทำให้คนที่ว่าจ้างเราเสียหายเพราะเรา แต่การใช้ชีวิตประจำวันก็ต้องลดความเซ็กซี่ลงอยู่แล้วเพราะเราเป็นแม่ ถ้าคนเรารู้จักแยกแยะทางโลกกับทางธรรม ชีวิตประจำวันกับงาน ชีวิตอยู่ง่าย การที่เอมมี่ไปมีข่าวกับคนอื่น เราไม่ได้เป็นคนสร้างแต่คนอื่นเขาสร้างให้เราเป็น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะตอบโต้แบบไหน"

 

กลัวกระแสตามมามั้ยว่าบวชไปแล้วทำไมไม่ลดความเซ็กซี่ลงบ้าง
"อย่างที่บอกใช้ปัญญาในการตัดสินใจ ใช้สติในการใช้ชีวิต ถ้าคนใช้สติพิจารณาจะรู้ว่าเราทำงานเลี้ยงแม่ เลี้ยงลูก ถ้าคนติดตามในอินสตาแกรมของเอมมี่จะรู้เลยว่าชีวิตเราพื้นๆบ้านๆมาก แต่งตัวชิลมาก กินง่ายอยู่ง่าย ไม่เคยใช้ชีวิตหรูหรา ไม่เคยอวดรวย"

 

ลูกๆเป็นไงบ้าง
"ลูกแฮปปี้มาก เราเข้าใจในตัวลูกมากขึ้น ในวันที่เราบวชมองย้อนไปในวันที่เพิ่งคลอดเขา วัยเด็กเห็นความน่ารักของเขา ก่อนบวชเราไปบังคับวางเส้นทางให้ลูก สุดท้ายมองย้อนมาที่ตัวเองขนาดแม่เราเลี้ยงเรายังกับไข่ในหิน แม่ยังบังคับเราไม่ได้เลย ทำให้เข้าใจในตัวลูกมากขึ้นเพราะใช้สติในการพิจารณาตัวเองมากขึ้น"

ฮาร์เวิร์ด หวัง ว่ายังไงบ้าง
"ตอนบวชเขาก็ยังมีโทรมาขอกำลังใจ ก็เรียกแม่ชีครับ ผมขอกำลังใจได้มั้ยครับ วันนี้ผมเหนื่อยจังเลย ก็บอกเขาว่าสู้ๆนะโยมฮาร์เวิด เราพูดแค่นี้จริงๆ เราบอกเขาว่าบวช 15 วัน ปลงผมนะ รู้นะว่าต้องประพฤติยังไง เขาบอกเข้าใจครับและขออนุโมทนาสาธุครับ ขอบคุณรายการคุยเช้าโชว์ที่ได้มาสนทนาธรรม ใครจะมองเอมมี่ยังไงไม่สนใจ เอมมี่ทำดีที่สุดทุกอย่างในพื้นที่ของตัวเอง"

ที่มา คุยเช้าShow, khaosod