คนบันเทิงร่วมใจอยู่อย่างพอเพียง!

ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมานี้

เป็นปีที่พวกเราชาวไทยทุกคนได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลายหน่วยงานพยายามสรรหาโครงการดี ๆ ขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในส่วนของประชาชนคนธรรมดานั้น นอกจากจะร่วมกันใส่เสื้อเหลืองแล้ว ก็ยังมีการให้คำมั่นว่าจะร่วมกันทำดีถวายพระองค์ท่านด้วย ดังนั้น วันนี้เราลองไปดูกันหน่อยซิว่า เกือบ 2 ปีที่ผ่านมานี้เหล่าศิลปินดาราทั้งหลายเขามีความตั้งใจว่าจะทำอะไร และพวกเขาสามารถทำสำเร็จกันหรือไม่
 
เริ่มกันที่ กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ กล่าวว่า
 
“ปีที่แล้วก็ตั้งใจว่าจะทำงานออกมาให้ดีที่สุด และตั้งใจประหยัด  เพราะเมื่อปีที่แล้วจำได้ว่าได้มีโอกาสไปร่วมงาน ๆ หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงานอะไรสักอย่าง แล้วได้มีโอกาสเห็น หลอดยาสีพระทนต์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ท่านใช้จนแบนมาก เราก็เลยรู้สึกว่าเราต้องประหยัด เพราะในหลวงยังทรงประหยัดเลย ทำให้เวลาไปซื้ออะไร เราจะคิดเสมอว่ามีหรือยัง สิ่งที่มีมันยังใช้ได้อยู่มั้ย เรามีพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างในเรื่องของการประหยัดหรือการพอเพียง จากแต่ก่อนเคยกินกาแฟแก้วละเป็นร้อย ระยะหลัง ๆ มาเราก็เริ่มเห็นว่ามันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น ก็ไม่ค่อยซื้อ ก็สามารถช่วยให้เราประหยัดไปได้เยอะเลยนะ ทำให้เรามีเงินออมเก็บไว้ลงทุนหรือเอาไปทำอะไรที่เกิดประโยชน์ได้มากขึ้น
 
ส่วนปีนี้ก็ตั้งใจเอาไว้ว่า

จะพยายามทำตัวเองให้ดีที่สุด วันไหนที่เหนื่อยหรือหมดแรงก็จะมองไปที่พระองค์ท่าน เพราะพระองค์จะต้องรับผิดชอบชาวไทยทั้งประเทศ มีปัญหามากกว่าเราเยอะ เราก็ดูท่านเป็นแบบอย่าง ทำดีกับคนอื่นและทำดีกับตัวเอง ไม่เบียดเบียนใคร อย่างไรก็ตาม แมร์ว่าคนไทยโชคดีนะที่มี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นพระประมุขของพวกเรา พระองค์ท่านทรงเป็นตัวอย่างที่ดีในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความอดทนหรือเรื่องอะไรก็ตาม บางคนอาจบอกว่าช่วงนี้เหนื่อยเหลือเกิน แมร์ก็อยากให้ลองดูพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง ท่านมีโครงการดี ๆ เพื่อประชาชนหลายพันโครงการ มีปัญหาต้องแก้เยอะแยะมาก ท่านเป็นถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน หลายคนอาจคิดว่าพระองค์ท่านสบาย  แต่จริง ๆ แล้วท่านก็ใช้ชีวิตเรียบง่ายทรงประหยัด เราก็สามารถเอาเรื่องราวเหล่านี้มาเป็นแบบอย่างที่ดีในชีวิตเราได้ค่ะ”

ด้าน นะโม ทองกำเหนิด  เผยว่า
 
“เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา บ้านเมืองเราค่อนข้างมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ผมรู้สึกว่าคนไทยขาดเรื่องของความกตัญญูและความเสียสละไป ช่วงหลัง ๆ เราเห็นแต่ความสุขสบายเพื่อตัวเองอย่างเดียว ดังนั้น ผมก็เลยรู้สึกว่าหันมามองคนรอบข้างมากขึ้น เอาใจเขามาใส่ใจเราให้เยอะขึ้น เพราะผมเชื่อว่าถ้าทุกคนทำแบบนี้ได้ คำว่า “ได้เปรียบเสียเปรียบ” จะหายไปจากสังคมเรา  ก็ทำให้ผมกลายเป็นคนที่เสียสละมากขึ้น  พอมาถึงปีนี้ ผมก็ยังคงอยากจะสานต่อสิ่งเดิม ๆ ที่เคยทำและพยายามเป็นคนดีของสังคมมากขึ้น

เพราะผมเชื่อว่าถ้าคนในสังคมเราสามารถพัฒนาจิตใจไปในทางที่ดี ในหลวงก็จะมีความสุขไปด้วย ต่อให้เราจะบอกว่ารักพระองค์ท่านอย่างไร หรือทำตัวให้ดูดีอย่างไร ในใจมีเรื่องที่ไม่ดี ยังเห็นแก่ตัวหรือยังเมาเหล้าทุกวัน ผมเชื่อว่าพระองค์ท่านก็คงจะไม่สบายใจหรอกครับที่พสกนิกรของพระองค์ยังปฏิบัติตัวไปในทางที่ไม่ดี เพราะสิ่งเหล่านี้มันเหมือนเป็นต้นเหตุที่ทำให้สังคมไม่น่าอยู่ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญในเรื่องของความสุขส่วนรวมมากกว่าความสุขส่วนตัวครับ”

ฟาก นก-อุษณีย์ วัฒฐานะ กล่าวว่า
 
“อย่างปีที่แล้วนกตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำงานเก็บเงินเอาไว้เลี้ยงดูและเอาใจใส่คนในครอบครัวให้มากที่สุด เป็นเพราะนกรู้สึกว่า ถ้าเราสามารถดูแลคนในครอบครัวได้ดีทางกายและทางใจ พวกเขาก็จะไม่มีความคิดที่จะไปเบียดเบียนคนอื่น ๆ ซึ่งนกรู้สึกว่าการที่เราไม่ไปเบียดเบียนใครนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว สำหรับปีนี้นอกจากนกจะตั้งใจทำในสิ่งที่ได้ปฏิบัติมาเมื่อปีที่แล้ว นกยังตั้งใจเอาไว้เลยว่าปีนี้จะมุ่งมั่นประหยัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายหรือพลังงาน เพราะที่ผ่านมาเราได้เห็นพระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่าง ขนาดท่านเป็นถึงพระประมุขของประเทศ ท่านก็ไม่เคยใช้จ่ายอะไรที่สุรุ่ยสุร่าย ล้วนแต่ทำเพื่อประชาชน ตลอดเวลา ทำให้นกรู้สึกว่า ถึงเราจะเป็นเพียงแค่คนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง อาจจะทำอะไรได้ไม่มาก แต่ถ้าเราสามารถทำอะไรที่ช่วยชาติได้เราก็ควรที่จะทำค่ะ”

ปิดท้ายกันที่  อ๊อฟ-ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ เผยว่า
 
“ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา อ๊อฟพยายามประหยัดไฟ ประหยัดน้ำครับ แล้วเวลาได้เงินมาไม่ค่อยจะใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย บางคนอาจจะคิดว่า เราหาเงินมาได้เยอะ ก็สามารถใช้จ่ายได้เยอะ ผมรู้สึกว่า มันไม่จำเป็นและไม่อยากให้คนไทยคิดแบบนั้น ควรจะพยายามห้ามใจตัวเอง ไม่ซื้อของใหม่เพื่อสนองความสุขของเรา อยากจะพอเพียง พยายามเอาของ เก่ามาใช้ อย่างตอนนี้อ๊อฟอยากได้มอเตอร์ไซค์คันใหม่มาก ก็อยากได้รุ่นใหม่ ๆ แต่ก็ไม่ซื้อ กลับไปเอาคันเก่าที่อยู่บ้านต่างจังหวัดมาใช้ เพราะมันยังใช้ได้ดีอยู่ ผมว่าถ้าเราอยากได้อะไร เราก็เอาของเก่ามาใช้มันก็สามารถช่วยสนองความสุขของเราได้อีกแบบนึง แล้วก็พอเพียงด้วย ที่อ๊อฟคิดได้อย่างนี้ เป็นเพราะ อ๊อฟมีคุณแม่จะให้คำแนะนำเตือนสติอยู่ตลอด ว่าของเราก็มีอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ และแม่ก็จะย้ำอยู่เสมอว่า ให้เรามองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแบบอย่างครับ