ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญว่า นายกฯกล่าวขอบคุณยูเอ็นเอชซีอาร์ ในนามรัฐบาลและประชาชนชาวไทย ที่ร่วมมือกับไทยมาตั้งแต่สมัยสงครามอินโดจีนจนถึงปัจจุบันในการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัย รวมถึงการทำงานร่วมกับภาครัฐ และเอ็นจีโอต่างๆ เพื่อให้ความคุ้มครองกลุ่มผู้หนีภัย โดยไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับยูเอ็นเอชซีอาร์ ในการส่งผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมากลับ ตามหลักความสมัครใจ ในการนี้ นายกฯ ยังกล่าวยินดีที่ยูเอ็นเอชซีอาร์ แต่งตั้ง น.ส.ไปรยา ลุนด์เบิร์ก หรือ ปู ไปรยา นักแสดงชาวไทย เป็นทูตสันถวไมตรียูเอ็นเอชซีอาร์ คนแรกของประเทศไทยและคนแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการทำงานร่วมกับผู้มีชื่อเสียงชาวไทยคนอื่น เช่น พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี เพื่อส่งเสริมแนวคิดระหว่างความเชื่อและการอยู่ร่วมกันโดยสันติในสังคมพหุวัฒนธรรม และความเชื่อมโยงระหว่างหลักพระพุทธศาสนากับหลักมนุษยธรรม
"ทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยว่าการแก้ปัญหาไม่ใช่เพียงประเทศหนึ่งประเทศใด แต่ทุกประเทศควรร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยนายกฯย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญกับการจัดการและป้องกันปัญหาที่ต้นเหตุในประเทศต้นทาง ในขณะที่ประเทศแรกรับควรให้การดูแลตามหลักมนุษยธรรม และประเทศปลายทางควรเพิ่มความช่วยเหลือ ทั้งในแง่ของการรับไปตั้งถิ่นฐาน และการให้ความช่วยเหลืออื่นๆ แก่ประเทศต้นทาง และประเทศแรกรับ
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณยูเอ็นเอชซีอาร์ ที่ร่วมมือกับไทยให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยชาวกัมพูชา ลาว เวียดนาม และเมียนมาจำนวนมาก โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ได้ส่งกลุ่มนำร่องกลับเมียนมาแล้ว 71 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยได้ติดตามดูแลสภาพความเป็นอยู่ของบุคคลเหล่านี้อย่างใกล้ชิด" พล.ท.วีรชนกล่าว
พล.ท.วีรชนกล่าวต่อว่า นายกฯยังย้ำว่า ไทยให้การดูแลบุคคลเหล่านี้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านการศึกษา สาธารณสุข ความจำเป็นพื้นฐาน รวมทั้งให้พื้นที่พักพิงชั่วคราว โดยหวังว่ายูเอ็นเอชซีอาร์ จะประสานกับรัฐบาลไทยอย่างใกล้ชิด และยังคงให้การสนับสนุนด้านการขนส่ง รวมถึงคงความช่วยเหลือแก่กลุ่มที่ยังเหลืออยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ ต่อไป ด้านข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ แสดงความขอบคุณและชื่นชมรัฐบาลไทยที่ให้การดูแลกลุ่มบุคคลเหล่านี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับเด็ก
https://www.facebook.com/teeneedotcom