นักร้องหนุ่มเผยว่า "เป็นโครงการของพระอาจารย์ไพศาล เรื่องการเผชิญความตายอย่างสงบ ให้เตรียมตัวตายก่อนที่จะตาย จัดงานเมื่อวันที่ 10-11มิ.ย. ที่ผ่านมา ในงานก็จะมีพยายาลที่เยียวยาจิตใจผู้ป่วยระยะสุดท้าย หรือสัปเหร่อ พระ ส่วนใหญ่ก็เป็นที่เกี่ยวข้องกับคนใกล้ตาย หรือ คนที่ตายแล้ว ก็จะมาพูดคุยกันถึงเรื่องเผชิญความตายอย่างไรไม่ให้ทุกข์ร้อน"
"คลิปที่ถูกแพร่ออกมาเป็นคลิปโปรโมท แต่ที่เป็นกระแส ผมเพิ่งมารู้ที่หลังว่ามีบางเว็บเอาไปพาดหัวแรงๆ ล่อให้คนเข้าไปคลิกอ่าน อย่างเช่น อุ๋ย สั่งเสียก่อนตาย จนทำให้คนถามเข้ามาเยอะ ซึ่งคลิปที่ออกมาเป็นความคิดของผมเองครับ เขาถามว่าถ้าออกแบบได้ หลังความตาย หรืองานศพคุณ คุณจะทำอย่างไร ผมก็มีความคิดนี้นานแล้วครับ ว่าศพก็เหมือนขยะ มันไม่มีประโยชน์ แต่ขยะยังสามารถนำกลับไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ หนึ่งอวัยวะที่พอใช้ได้ก็ไปบริจาค ส่วนร่างกายตอนแรกก็คิดว่าจะบริจาคให้นักศึกษาแพทย์ใช้เป็นอาจารย์ใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้คนไปบริจาคเยอะแล้ว เชื่อว่าไม่ขาดแคลน
การศึกษานี้ได้ทั้ง 2 แบบ คือทางโลกกับนักศึกษาแพทย์ แต่ทางธรรม เขาก็สอนให้เราพิจารณาศพนี่แหละครับ สมัยก่อนเขาให้ดูตามป่าช้า ศพก็จะเน่า บวม อืด เน่า จนเหลือแต่กระดูก เขาก็ให้เราไปพิจารณาหลักความจริง แต่ยุคนี้ไม่มีให้ดู ผมก็เลยคิดว่า ถ้าเกิดเป็นไปได้ก็อยากจะทำ แต่พอหลังจากมีคลิปนี้ออกไปแล้ว ผมก็มาย้อนคิด สมัยก่อนผมไม่ได้คิดแบบนี้ ผมจะตั้งกล้องไว้ ใครจะเอาไปใช้ก็สามารถเอาไปใช้ได้ตลอด เฉพาะคนที่อยากดูสดๆ ค่อยไปยืนดู"
พิธีกรถามว่าเป็นคนแปลก บางคนก็ไปบริจาคร่างกาย นักร้องหนุ่มเผยว่า "ใช่ครับ แต่ส่วนที่บอกว่ามีโลงแก้วครอบไว้ ไม่ใช่เป็นวิเศษหรือหรูหรา แต่การไปยืนพิจารณาศพให้ไปยืนเหนือลม เพราะถ้าไปยืนใต้ลมกลิ่นจะตีเข้าแล้วจะเวียนหัวไม่มีสมาธิในการพิจราณา แต่ผมคิดว่าโลงแก้วครอบไว้ก็ช่วยกันกลิ่นแค่นั้นเอง ไม่ได้วิเศษอะไร แต่ก็คงหาสถานที่ทำได้ยาก เพราะยังไม่มีใครทำแบบนี้ ซึ่งถ้าทำไม่ได้ก็ให้เผากับเชิงตะกอน เพื่อให้คนพิจราณาตอนไหม้ไปก็ได้ แต่กรุงเทพทำไม่ได้ มันมีติดข้อกฎหมายเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งผมเข้าใจครับ ถ้าไม่อย่างนั้นคนก็จะเผาขยะไปเรื่อย อย่างที่ผมบอกศพก็เหมือนขยะ ผมเข้าใจได้ว่าถ้าจะเผาศพต้องผ่านเตาเผา ให้ถูกต้อง แต่ในต่างจังหวัดยังมีทำกันอยู่"
https://www.facebook.com/teeneedotcom