จอยปะทะวิกฤต ทำให้เห็นโอกาส

เป็นดาราลูกหม้อช่อง 3 อยู่นานกว่า 13 ปี

ล่าสุดนางเอกสาว "จอย"ศิริลักษณ์ ผ่องโชค ก็ตัดสินใจบินด้วยปีกของตัวเอง โดยไม่ต่อสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดวิก 3 อีกต่อไป จากการไม่ต่อสัญญาในครั้งนี้นี่เอง ทำให้ตกเป็นข่าวครึกโคม ว่าอาจเป็นเพราะผลพวงจากข่าวลือที่ว่าขัดแย้งกับผู้จัดลูกหม้อวิก 3 วันนี้หนู "จอย" เลยเปิดห้องส่วนตัวพร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงข่าวคราวต่างๆ รวมถึงมุมความคิดที่เป็นตัวตน

เข้าวงการมากี่ปีแล้ว?

จอย - "ถ้ารวมตั้งแต่เด็ก ปีนี้ก็เข้าปีที่ 23 แล้วค่ะ"

ทำไมถึงตัดสินใจไม่ต่อสัญญาช่อง 3?

จอย - "จุดที่จอยตัดสินใจไม่ต่อสัญญา เพราะมีหลายกระแส มีทั้งคนปล่อยข่าวว่าจอยไม่มีใครเอาแล้ว แต่อีกด้านหนึ่งมีคนปล่อยข่าวว่ามีหลายที่แย่งตัวจอยกันน่าดู ดูเรามีราคาเหลือเกิน ซึ่งถ้าจอยไปหวั่นไหวกับข่าว 2 ด้าน ทั้งที่ว่าเรามีราคามาก กับเราดูไม่มีราคาเลย เราก็จะไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงว่าเราอยากทำอะไร เมื่อมานั่งคิดจอยเห็นจุดที่เราสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ และในอนาคตถ้าเกิดมีปัญหาที่มีชื่อจอยโดนดึงเข้าไปเกี่ยวเหมือนครั้งที่ผ่านมา จอยก็ไม่อยากที่จะต้องมากังวลความรู้สึกคนรอบข้างอีก ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องมาเดือดร้อน เลยคิดว่าเราอิสระดีกว่า เพราะถ้ามีปัญหาอะไรที่มีชื่อเราเข้าไปเกี่ยว มันก็ตัวเราคนเดียว จะไม่มีผู้ใหญ่คนไหนต้องสะเทือนหรือได้รับผลกระทบจากข่าว ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนี้จอยไม่ได้ใช้อารมณ์ ไม่ได้คิดอะไรยุ่งเหยิง เราเดินไปขอกับผู้ใหญ่เลยว่าขอยกเลิกสัญญา"

กลัวคนมองว่าปีกกล้าขาแข็งมั้ย?

จอย - "มันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน เมื่อมีข่าวมันมีสูตรสำเร็จในการมองที่ง่ายๆ แต่ถ้าใครที่สนใจเรื่องของจอยจริงๆ ให้เวลามองรายละเอียดนิดหนึ่ง อย่าเพิ่งด่วนสรุป กับข่าวที่นำเสนอ จอยเข้าใจ เพราะเมื่อมีมูล เขาก็ต้องนำเสนอ แต่คนที่ให้ข่าวหรือคนที่เอาเรื่องไม่จริงไปพูดนี่ซิ เขาเบี่ยงเบนประเด็นให้เราดูไม่ดี เพื่อปกปิดเรื่องอื่นหรือเปล่า แต่เราก็ไม่อยากไปอะไรกับปัญหาตรงนั้นแล้ว พูดอะไรมากไปก็จะดูไม่ดี

ที่ผ่านมาจอยยังดูติดลบอยู่ ก็ไม่รู้ว่าเราจะปกป้องคนอื่นทำไม

 เรามัวแต่ระวังว่าเราพูดไปจะไปกระทบคนนั้นกระเทือนคนนี้ เราคิดว่าเราทำดีแล้ว แต่สิ่งที่เราได้กลับมาคือเราโดนเต็มๆ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแพะ ที่ผ่านมาจอยมีแต่ความไว้วางใจ ความเชื่อใจที่มีให้กับคนรอบด้าน ใครที่ยิ้มให้จอย จอยไม่เคยไปนั่งระแวงเขา ที่พูดมาทั้งหมดจอยแค่อยากจะให้เห็นว่าจอยแคร์ทุกคน จนลืมที่จะปกป้องตัวเอง"

อายุใกล้ 30 ในเดือนธ.ค.นี้แล้ว ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีมั้ย?

จอย - "ใช่ค่ะ ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ดี รู้สึกสบายใจ และคิดว่าตัวเองคิดถูก ถึงอนาคตในวันข้างหน้าจะเจอะเจออะไรไม่รู้ แต่เราไม่ต้องมาแบกความรู้สึกของคนอื่นที่เราแคร์ เมื่อจอยได้กลับมาอยู่กับตัวเอง ทบทวน ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เรายังอยากทำอีกเยอะ ตอนนี้ก็กำลังเลือกว่าเราอยากทำอะไรที่ทำแล้วสบายใจ สิ่งที่อยากทำในตอนนี้คือรายการทีวี และยังมีงานอีกหลายอย่างที่จอยอยากทำ

ตอนนี้รู้สึกมีไฟไปหมด ยอมรับว่าสมองช่วงนี้ว่างเปล่า ว่างเพราะเมื่อเราไม่ทุกข์ เรามีกำลังใจดี

และผู้จัดละครก็ไม่ได้หวั่นไหวไปซะหมด ยังคงมีผู้จัดยื่นบทละครมาให้ (จอยออกตัวว่าไม่ได้ขี้คุยนะ) เหล่านี้ทำให้เรารู้สึกสบายใจ และขอบคุณสำหรับผู้ใหญ่ที่ยังให้ความไว้วางใจ ให้ความเป็นกลางกับจอยและหยิบยื่นบทละครมาให้ แม้แต่ผู้จัดของช่อง 3 เองก็มี ได้ขนาดนี้จอยว่าไม่ต้องคิดอะไรเยอะแล้ว จะให้จอยหวั่นไหวกับอะไรอีก จอยรู้สึกขอบคุณตั้งแต่วันที่จอยมีปัญหา พี่ๆ ในวงการที่แทบจะไม่ได้คุยกันเลยโทรกันมาไถ่ถาม และบอกว่าอย่าคิดมากนะ อย่าคิดว่าไม่มีใครนะ (จอยเริ่มน้ำตาร่วงด้วยความซาบซึ้ง) คำพูดเหล่านั้นทำให้รู้สึกดีมาก ครั้งนี้ถือว่าเป็นวิกฤตที่ทำให้เราได้เห็นโอกาส ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับเรา เราได้เรียนรู้คนที่จริงใจกับเรา"

กับช่อง 3 ยังคงร่วมงานกันได้หรือเปล่า

จอย - "กับทางช่อง 3 จอยไม่ได้มีปัญหากับใครเลย จนวันนี้จอยยังยืนยัน รวมทั้งเรื่องที่เกิดขึ้น จอยไม่ได้มีปัญหากับใครและพร้อมที่จะทำงานอยู่แล้ว จอยแยกแยะมาได้ตลอด และในวันที่เข้าไปคุยว่าเราไม่มีพันธะสัญญาต่อกันแล้ว ทางพี่สมรักษ์(ณรงค์วิชัย)ก็พูดกับจอยดีว่า เราเหมือนเดิมนะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พร้อมทำงานด้วย ถ้าจอยสบายใจที่จะคืนสัญญาก็เอา แล้วพี่ก็จะดูอะไรที่เหมาะสมให้ พี่สมรักษ์พูดกับจอยอย่างนี้ จอยเองก็ได้ขอบคุณพี่สมรักษ์ที่เข้าใจ และอย่าคิดเป็นอื่น ขอให้เข้าใจเจตนาจอยด้วย สิ่งที่จอยเลือกน่าจะเป็นทางออกที่ดี ณ เวลานั้น ในวันนี้จอยยินดีที่จะมีโอกาสได้ร่วมงานกับทุกผู้จัดอยู่แล้ว ถ้ายังไว้วางใจจอยอยู่"

กับปัญหาที่ผ่านมา ใช้อะไรเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว?

จอย - "ที่ผ่านมาธรรมะช่วยจอยเยอะจริงๆ ล่าสุดจอยก็ได้ทำหนังสือธรรมะ จอยถูกปลูกฝังเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ช่วงที่มีปัญหาจอยได้เข้าวัด ได้สนทนาธรรมกับพระ พระท่านก็จะแนะนำเรื่องทางสายกลาง การไม่ยึดติด และให้เราสวดมนต์ การสวดมนต์ทำให้เรามีสมาธิ"

บางคนมองว่าจอยตกจากที่สูง?

จอย - "เข้าใจบางคนที่มองอย่างนั้น แต่อย่ามองคนสำเร็จรูปเกินไป ซึ่งชีวิตจอยไม่ใช่แบบนั้น จอยไม่ได้โตมาแบบดังชั่วข้ามวัน จอยเองเป็นคนที่ติดดินอยู่แล้ว เลยไม่ได้กลัวว่าจะตกจากที่สูง และถ้าจอยกลัวว่าต่อไปจะไม่ได้เป็นนางเอก กลัวว่าจะมีคนหัวเราะเยาะ ป่านนี้จอยก็คงเลิกเล่นละครไปแล้ว เพราะเรื่องที่ติดต่อมาก็ยังเป็นบทนางเอก แต่จอยไม่ได้ต้องการทำแค่สะใจหรือเอาชนะคำพูดของใคร ในเมื่อมีจุดเปลี่ยนในชีวิตให้เรียนรู้ว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอะไร จอยไม่รีบร้อน แต่จะขอเลือกที่เราทำแล้วแฮปปี้"

แล้วเมื่อไหร่ล่ะจะได้เห็นงานแสดงของจอยอีก?

จอย - "ยังไม่รู้เหมือนกันเพราะยังเป็นช่วงที่คุยกัน ยังไงจอยรักการแสดง ถ้าผู้จัดยังให้ความไว้วางใจยังไงจอยก็ต้องเล่นละครอยู่ดี เพราะจอยเองก็อยากเล่นและไม่ยึดติดกับหน้าตาว่าฉันจะต้องเป็นแต่นางเอก เพราะจอยไม่ได้สนใจว่าจอยจะอยู่ไปแค่ไหน แต่จอยสนใจว่าถ้าจอยไม่อยู่วงการนี้แล้ว คนจำเราแบบไหนมากกว่า จอยอยากให้เขาเห็นงานดีๆ ที่จอยตั้งใจทำให้ดูมากกว่า"

จนถึงวันนี้ได้คุยกับ "อาตู่-นพพล" คนที่ให้โอกาสจอยในวันแรกๆ แล้วหรือยัง?

จอย - "ตอนนี้มี 2 ท่านที่จอยคิดถึงที่สุด แคร์ที่สุดและอยากคุยด้วยคือ อาตู่ กับ น้านิด ผึ้งน้อย มากเพราะว่าจอยแคร์ แต่จอยจะยังไม่คุยกับทั้ง 2 ท่านในวันที่จอยมีเรื่องเดือดร้อน ถ้าบังเอิญทั้ง 2 ท่านได้อ่านข้อความนี้ อย่าได้คิดว่าจอยไม่เข้าหาผู้ใหญ่ หรือดื้อไปแล้ว ปีกกล้าขาแข็งแล้ว แต่เป็นพระจอยไม่อยากเอาเรื่องเดือดร้อนไปรบกวน ตอนที่มีปัญหาจอยเคยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาหลายรอบแล้ว แต่ก็ต้องวางลง แล้วบอกตัวเองว่ายังดีกว่า แต่เมื่อไหร่ที่จอยคิดว่าตัวเองเริ่มเข้าที่แล้ว หนูก็อยากที่จะไปไหว้ครูของหนู"

ผ่านเรื่องดี-ร้ายมาเยอะ อยากจะขอบคุณใครบ้าง?

จอย - "กับเส้นทางบันเทิงนี้ จอยขอขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส ขอบคุณแฟนละคร เขาเป็นเซ็นเตอร์ที่ทำให้พ่อแม่จอยสบาย ซึ่งก่อนหน้านี้เขากังวลว่าเมื่อลูกออกสู่สังคมจะมีคนยี้หรือคนยิ้มให้ จากที่คนรอบนอกทักทายยิ้มให้ บอกว่าเป็นกำลังใจให้นะ อย่าคิดมาก พอพ่อแม่เห็นอย่างนั้นเขาสบายใจที่ลูกยังมีกำลังใจที่ดี จอยขอขอบคุณแฟนละครซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องเฟกใส่เรา เราไม่ได้มีผลประโยชน์ต่อกัน"

"จอยรู้สึกว่าแฟนละครแหละที่ทำให้ชีวิตจอยไม่ได้วิกฤตเลย" นางเอกสาวกล่าวทิ้งท้าย

จอย"ชื่นใจ-มี"แม็ค"เคียงข้างปกป้อง

"ปีนี้เข้าปีที่ 4 แล้วที่คบกัน ก็เป็นกำลังใจให้กันตลอด เรียนรู้กันมากขึ้นค่ะ" สาว "จอย"ศิริลักษณ์ ผ่องโชค แง้มพรายเรื่องความรักที่คบหากับหนุ่ม "แม็ค"สฐิพัศ วัฒนราษฎร์

ตลอด 4 ปีที่คบหา ดูเหมือน "แม็ค" จะยอมเป็นช้างเท้าหลัง ให้เกียรติ "จอย" เป็นช้างเท้าหน้า จอยฟังแล้วอมยิ้มกับข้อคิดเห็น

"หายากนะ ที่ผู้ชายที่ทำงานดูแลตัวเองมาตลอด แต่เขามายอมจอยซึ่งถือว่าให้เกียรติกัน ถ้าจอยถาม เขาก็จะแนะนำ แล้วจอยก็ตัดสินใจเอง แต่ถ้าเป็นงานเบื้องหลังที่เป็นตัวเขา ก็ปล่อยเขาตัดสินใจเอง แต่ถ้าเป็นเรื่องของบริษัท พี่แม็คเขาก็แสดงความบริสุทธิ์ใจในฐานะคนทำงาน การตัดสินใจเป็นของหุ้นส่วน ซึ่งมีจอยหุ้นกับคุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ที่รู้จักกันค่ะ"

"ส่วนมากที่มีภาพจะเห็นเขาเดินตามจอย นั่นเป็นภาพด้านเดียว

ไม่มีใครเห็นเวลาที่พี่แม็คทำงาน ซึ่งจอยรู้สึกดีที่เขาแยกแยะได้ว่าช่วงเวลาไหนเขาควรอยู่บทบาทไหน และมักจะยอมให้เราตลอด แต่ถ้าเป็นบางอย่างที่เขาคิดว่าเขาชำนาญกว่า เขาก็จะยืนยันแล้วปล่อยให้จอยไปนั่งคิดเอง"

ต่อข้อถามถึงความประทับใจในตัวแฟนหนุ่ม จอยเปิดใจว่า

"ประทับใจตอนที่มีข่าวช่วงที่จอยไปโชว์ตัว แล้วเจ้าภาพเข้าใจผิดต่อยหน้าพี่แม็ค ตอนที่มีเรื่องพี่แม็คพยายามพาจอยออกไปจากตรงนั้นก่อน เพราะที่ตรงนั้นไม่ใช่ของเรา ซึ่งหลังจากที่มีข่าวทางเจ้าภาพก็ออกมาขอโทษว่าเขาผิดเอง แต่กว่าข่าวจะจบคนที่เสียชื่อไปแล้วก็คือเขา คนที่ไม่รู้รายละเอียดเขาอ่อนไหวไปกับข่าวที่ถูกปล่อย มองว่าจอยมีแฟนไม่ดี ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เรารู้สึกชื่นชมที่เขาไม่ได้แมนผิดเวลา ไม่ได้โดนต่อยมาแล้วต่อยกลับ แต่พยายามที่จะปกป้องเราให้ปลอดภัย"

ล่าสุดกับข่าวที่ "จอย" ขัดแย้งกับผู้จัด ก็ถูกมองว่าต้นตอมาจากหวานใจ ทำให้คนมองว่าจอยตกเพราะแม็ค เรื่องนี้จอยแจงว่า

"เวลาที่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับจอย พี่แม็คพร้อมที่จะอยู่เคียงข้าง ซึ่งเขาเองก็รู้สึกอึดอัดที่เขาเป็นแฟนเราแต่ออกมาปกป้องเราได้ไม่เต็มที่ อย่าว่าแต่พี่แม็คเลย ตัวจอยเองก็พูดอะไรได้ไม่เต็มที่ และเพราะจอยเป็นแบบนี้เขาถึงต้องเงียบ ยอมที่จะโดนว่าโดนติง จอยบอกกับพี่แม็คว่าเรื่องนี้พอแล้ว จอยชื่นชมเขาแล้ว อย่างน้อยเราเข้าใจกัน ส่วนที่เป็นนิสัยที่ดีและเสียเรารู้กันอยู่แล้ว"

ถามถึงอนาคตว่ามีการวางแผนเรื่องข่าวดีหรือยัง จอยกล่าวว่า

 "อนาคตเรื่อยๆ ยังบอกอะไรไม่ได้ เพราะคนเราเปลี่ยนแปลงกันได้ จอยยังไม่สามารถการันตีได้ แต่วันนี้พอใจ สบายใจ รู้ว่าคนข้างเราเขาคิดอะไรกับเรา วัดได้จากสถานการณ์ทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ การแก้ไขปัญหาใกล้กับสิ่งที่เราคิด คุยกันรู้เรื่อง ทุกวันเป็นกำลังใจให้กันค่ะ"

ต่างเข้าใจและรู้ใจกันอย่างนี้ อีกไม่นานคงมีข่าวดีแน่

โลดแล่นอยู่มายามากว่า 20 ปี ผ่านงานแสดงมาแล้วนับไม่ถ้วน ทำให้ดาราสาว "จอย"ศิริลักษณ์ ผ่องโชค มีผลงานที่รักหลายเรื่อง

"ถ้าหมายถึงเรื่องที่จอยรัก มีหลายเรื่องได้มั้ยค่ะ" นางเอกสาวย้อนถาม พอตอบว่าได้ซิ ทีนี้น้องหนูเลยร่ายยาว "เรื่อง "โสมส่องแสง" เป็นละครเรื่องแรกของจอย เรียกว่าเป็นเรื่องที่ยกให้เป็นครูเลย เพราะทุกอย่างต้องเรียนรู้ใหม่หมด"

"เรื่องต่อมา "ขมิ้นกับปูน" ตอนที่บรอดคาซท์ฯติดต่อมา จอยรู้อยู่แล้วว่ามี 3 ศรีพี่น้อง

เลยถามพี่หน่อง-อรุโณชาว่าตัวปัทมา มีใครเล่นหรือยังไง พี่เขาตอบว่ายัง จอยเลยเสนอตัว ที่อยากเล่นบทปัทมาเพราะตอนที่ช่อง 7 ทำเรื่องนี้จอยเคยเล่นบทปัทมาตอนเด็ก พอจอยจะได้กลับมาเล่น เลยอยากเล่นเป็นตัวละครตัวเดิม และพอได้เล่นจอยทุ่มเต็มที่ เล่นแล้วรู้สึกเหนื่อยมาก"

"และอีก 2 เรื่องในดวงใจ คือ "เสน่ห์นางงิ้ว" ที่ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้รำงิ้ว

 พอเราทำได้ยิ่งรู้สึกภูมิใจ และมีแฟนละครที่มีเชื้อสายจีนยอมรับเรา อีกเรื่องคือ "ราชินีหมอลำ" มีโอกาสได้เรียนรู้การร้องหมอลำจากราชินีหมอลำตัวจริงคือ คุณบานเย็น รากแก่น พอละครออกฉายมีเสียงตอบรับที่ดีมากค่ะ"