ด้านไวพจน์ เพชรสุพรรณ ราชาเพลงแหล่ วัย 75 ปี เผยถึงความรู้สึกที่สูญเสียชินกร ไกรลาศ ว่า "ขอแสดงความเสียใจพอทราบข่าวผมถึงกับน้ำตาไหล เราผูกพันกันเหมือนพี่เหมือนน้องกันมานานแล้ว เสียใจมากที่เขาไปไวจัง เมื่อเดือนที่แล้วยังนั่งสังสรรค์ไปเป็นกรรมการตัดสิน รายการชุมทางดาวทอง ที่ช่อง 7 ด้วยกันอยู่เลย ได้คุยถึงเรื่องสุขภาพกันเขาบอกยังไหวยังแข็งแรงดี บางครั้งก็จะเหนื่อยๆ ผมก็อวยพรให้บุญรักษานะน้อง กินอยู่ต้องระวังและได้พูดเป็นภาษาชาวบ้านกับเขาว่า โรคนี้มันไม่ให้เกียรติใครหรอก เขาก็ยังหัวเราะคุยกันสนุกสนาน
ชินกรพอรู้ว่าตัวเองเป็นโรคนี้เขาก็ไม่ท้อนะ ก็เป็นไปตามวิถีชีวิตอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด คนเรามันตายทั้งนั้นจะตายด้วยโรคอะไร ตายช้าตายไวก็ตายหมด เขาก็ปลงแล้วเพราะอายุเขา 71 ปีแล้ว ตอนที่เจอเขาเมื่อเดือนที่แล้วผมก็ไปผ่าหลังมายังเดินไม่ค่อยได้ เขายังมาช่วยบอกให้เกาะบ่าผมก็ได้ ถือเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอชินกร หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลยเพราะเขาป่วยรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ถ้าให้พูดถึงชินกรเรื่องน้ำใจเขาไม่มีขาด เขาไม่ขาดคำว่าเพื่อน ไม่ขาดคำว่าพี่น้อง เขาเป็นคนละเอียดอ่อนไม่ก้าวร้าวไม่อิจฉาริษยาใครทั้งนั้น เขาเป็นคนดีมากๆ และเขาเป็นผู้ใหญ่ที่ศิลปินน้องๆ ควรแก่การนับถือ และเขายังเป็นคนชอบช่วยเหลือคน เป็นผู้ให้คนนึงเลยแหละแต่เขาก็จะให้เท่าที่เขาให้ได้ เรามีโอกาสได้ร่วมงานกันบ่อย ไปร้องขวัญนาคหรือไปร้องเพลงก็ไปด้วยกันบ่อย เขาได้ศิลปินแห่งชาติทีหลังผมปีนึง"
ขณะที่ อ.ชัยชนะ บุญนะโชติ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) ปี พ.ศ.2541 ซึ่งเป็นรุ่นพี่คนสนิทของอ.ชินกร เผยกับผู้สื่อข่าวข่าวสดว่า ตนทราบข่าวการเสียชีวิตของชินกรเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จริงๆ กำลังจะไปที่โรงพยาบาลกันแต่ทางครอบครัวโทรศัพท์มาบอกว่าไม่ทันแล้ว ตอนที่ได้ยินตกใจและร้องไห้ออกมาเลย เนื่องจากตนและชินกรมีความผูกพันกันมาก รู้จักกันมาตั้งแต่ชินกรเข้าวงการเพราะตนเป็นคนนำชินกรเข้ามา เคยมีโอกาสไปแสดงที่จ.พิษณุโลกด้วยกัน แล้วเพื่อนของชินกรชื่อ ทิว สุโขทัย อยู่ในวงของอ.พยงค์ มุกดา วันนั้นชินกรไปหาเพื่อนชื่อทิวและสมัครเข้ามาอยู่ในวง ซึ่งตนก็รับชินกรทันทีเพราะวันนั้นอ.พยงค์ไม่ได้ไป แต่ตนเป็นคนคุมวงไป ถือว่าตนกับชินกรเป็นลูกศิษย์อาจารย์เดียวกัน อยู่ในวงของอ.พยงค์เหมือนกัน ในระยะหนึ่งที่ชินกรตั้งวง ตนกับภรรยาก็ได้ไปอยู่ในวงของชินกรด้วย
"ตอนที่ผมคุมวงของอ.พยงค์ไปแสดงที่จ.พิษณุโลก ชินกรมาหาทิวเพื่อนของเขาที่โรงแรมหอฟ้าและได้เจอกับผมด้วย พอมาอยู่ในวงของอ.พยงค์ด้วยกัน ตอนแรกอ.พยงค์ไม่ค่อยได้อัดเสียง ผมฟังเสียงเขาแล้วก็ชอบ เลยลงทุนกับ ‘คุณฉลอง การะเกด' เพลงแรกที่ชินกรร้องคือ "สั่งน้อง" ผลงานการแต่งของคุณฉลอง จากนั้นผมแต่งเพลง "ทุ่งร้างนางลืม" ให้ชินกรและเป็นชุดแรกที่เขาอัดแผ่นเสียง" ศิลปินแห่งชาติรุ่นพี่กล่าว
อ.ชัยชนะ กล่าวต่อว่า ตนทราบมาตลอดว่าชินกรป่วยเป็นมะเร็งลำไส้มานานแล้ว รักษามาหลายรอบ จนมารอบล่าสุดซึ่งเรียกว่าชินกรเสียชีวิตในหน้าที่ก็ได้ ด้วยความที่ชินกรเป็นคนรักและห่วงงานมาก ทางครอบครัวเล่าให้ฟังว่าเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ชินกรไปทำขวัญนาค พอกลับมาถึงบ้านก็นอนหลับตามปกติ แต่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 14 พ.ค. เกิดอาการฉับพลันขึ้น คนในบ้านเรียกรถโรงพยาบาลมารับ แล้วก็มาเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนกับครอบครัวของชินกรมีการพูดคุยกันตลอด เมื่อวาน(17พ.ค.)ยังให้กำลังใจลูกของเขาอยู่ ไปมาหาสู่เยี่ยมเยือนกันตลอด ไม่ได้ไปแต่โรงพยาบาลแต่ไปเยี่ยมที่บ้านด้วย ครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียปูชนียบุคคลที่ยิ่งใหญ่และสำคัญอีกครั้งหนึ่งของวงการเพลงไทย สูญเสียบุคลากรที่ดีของประเทศ สูญเสียศิลปินกึ่งศตวรรษผู้มากด้วยผลงานและความสามารถ
ผู้สื่อข่าวถามถึงความประทับใจที่มีต่อ ‘ชินกร ไกรลาศ' อ.ชัยชนะกล่าวว่า ชินกรเป็นคนรักงาน รักเพื่อนฝูง ปรนนิบัติตัวดี ไม่สำมะเลเทเมา มีความมัธยัสถ์ เคยมีโอกาสไปเที่ยวบ้านของเขาที่จ.สุโขทัย ได้รับการต้อนรับจากครอบครัวอย่างดี ชินกรเป็นน้องชายที่ดีและน่ารักของตนและเพื่อนฝูงในวงการ
"ผมขอให้ดวงวิญญาณของน้องชินกรจงไปสู่ที่สุคติ อยู่ในที่ที่ดีงามสู่สวงสวรรค์ พักผ่อนให้สบายให้เต็มที่เพราะเหน็ดเหนื่อยมานานแล้ว" อ.ชัยชนะกล่าว
https://www.facebook.com/teeneedotcom