ทนาย “แพท ณปภา” วอนให้ความเป็นธรรม หลักฐานไม่ถึงก็ควรปล่อย

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. ขอออกหมายจับ แพท-ณปภา ตันตระกูล ดาราสาว ในคดีฟอกเงินร่วมกับ นายอัครกิตติ์ หรือ เบนซ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ ‘เบนซ์ เรซซิ่ง' สามี แต่ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ดาราสาวไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนี จึงไม่ออกหมายจับให้ และให้เจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกดาราสาว ‘แพท ณปภา' อีกครั้ง โดยนัดเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ในวันจันทร์ที่ 15 พ.ค. เวลา 09.00 น. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 12 พ.ค. ผู้สื่อข่าวข่าวสดโทรศัพท์ไปสอบถาม นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความส่วนตัวของ แพท-ณปภา ถึงความคืบหน้าหลังจากได้ส่งเอกสารยื่นไปที่ บช.ปส. ทั้งนี้ นายอาคม กล่าวว่า ตอนนี้ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรคืบหน้า สิ่งที่ทำได้ในเวลานี้คือให้แพทเตรียมหลักประกันไว้ ถ้าหากในวันจันทร์ที่ 15 พ.ค. ทางเจ้าหน้าที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาก็จำเป็นต้องประกันตัวออกมา ส่วนเอกสารที่ตนได้ส่งไปที่ บช.ปส. ยังไม่มีการตอบรับอะไร คาดว่าน่าจะไปคุยทีเดียวในวันที่ 15 พ.ค.

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจในการเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ นายอาคม กล่าวว่า สำหรับใครที่ตามข่าวมาข้อเท็จจริงมันได้ยุติไปแล้วเพราะจากสเตทเม้นต์(statement) ซึ่งทางเจ้าพนักงานตำรวจก็มีและเห็นว่ามีการโอนเงินจากบัญชีของอัครกิตติ์ มาที่บัญชีของณปภา จริง แล้วก็มีการโอนเงินจากบัญชีของณปภา ไปที่บัญชีของอัครกิตติ์ ก็จริงเช่นกัน ปัญหามันอยู่แค่ว่าตัวณปภา รู้หรือไม่ว่าเงินตรงนี้มันเกี่ยวมาจากการกระทำความผิด รวมถึงเจตนาที่ณปภา รับเงินไว้มีเจตนาที่จะปกปิดซ่อนเร้นอำพรางไหม ซึ่งตนคิดว่าตัวเสตทเม้นต์ที่โชว์การรับโอนเงินมาทางณปภา ก็ใช้เงินอย่างเป็นปกติตามที่เคยใช้มา ไม่ได้มีการโอนเข้าโอนออกหรือมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย

ต่อข้อถามว่าเท่าที่คุยกัน ‘แพท-ณปภา' มีความเครียดไหม ทนายความคนเดิมกล่าวว่า

 ปัญหาของแพทคือตัวเขามีความสับสนมากกว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจเรียกและอยากได้พยานหลักฐานตรงไหนแพทก็ดำเนินการให้หมดทุกอย่าง จนกระทั่ง พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส. ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าสิ้นสงสัยในตัวของแพท ทุกคนก็สบายใจแล้ว เพียงแต่ว่าพอมีกรณีออกหมายเรียกมาอีกแพทเลยสับสนเป็นธรรมดา ปัญหาของเรื่องมันอยู่ตรงประเด็นที่ว่า โดยหลักทางกฎหมายกรณีถ้ามันยังเป็นที่สงสัยกฎหมายบอกว่าต้องยกประโยชน์แก่ความสงสัยนั้น เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการสืบสวนคดีนี้ตั้งแต่ปี 2555 ตามนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ และ นายอัครกิตติ์ หรือเบนซ์ วรโรจน์เจริญเดช มา 5 ปี ใช้เวลา 5 ปีกับอีก 84 วันรวมกับของเบนซ์ ซึ่งก็ได้มาแค่นี้จริงๆ

 

"ผมไม่ได้โต้แย้งในการทำงานของเจ้าพนักงาน เพียงแต่อยากร้องขอความเป็นธรรมว่า ในเมื่อพยานหลักฐานมันไม่ถึงก็น่าจะให้แพทไปเลี้ยงลูกดีกว่า เอาไปทั้งพ่อทั้งแม่แบบนี้แล้วลูกเขาจะอยู่อย่างไร แต่ถ้าหลักฐานชัดเจนใช่แล้วมั่นใจถูกต้องแล้วดำเนินคดีเข้าไปสู่ในกระบวนการยุติธรรม ผมจะไม่มีปัญหาอะไรเลย" ทนายความของแพทกล่าว

 

ผู้สื่อข่าวสอบถามในเรื่องของหลักประกันที่เตรียมไว้ นายอาคม กล่าวว่า

หลักประกันต้องเตรียมไว้ตลอดเวลาเพราะถ้ามีการแจ้งข้อกล่าวหาก็ต้องรีบประกันตัวก่อน ไม่อย่างนั้นเตรียมตัวไม่ทันแล้วจะยุ่ง กรณีของแพท ตนประมาณการเท่ากับเบนซ์เพราะเป็นข้อหาเดียวกัน ซึ่งของเบนซ์ศาลท่านเรียกหลักประกัน 5 แสนบาท จริงๆ ตนบอกให้แพทเตรียมหลักประกันเกินไว้ก่อนด้วยซ้ำ เผื่อไว้ก่อนทุกอย่างคือเตรียมไว้เกินดีกว่าขาดครับ