ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นางสาวกัญจน์ลดากร หรือ หนูนา เปิดเผยกับ "เดลินิวส์" ว่า ตนเข้ามาดูแลพี่เอแบบเต็มตัวมาประมาณ 3 ปีแล้ว แต่ว่าตามพี่เอไปงานด้วยก็ประมาณ 7-8 ปี ก็ไม่ทราบว่าสื่อไปเอาข้อมูลของตนอย่างละเอียดจากแหล่งข่าวใกล้ชิดคนไหนเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด เลยไม่ได้ซีเรียสอะไร ใจจริงตนอยากดูพี่เอและลูกเจริญเติบโตอยู่ข้างหลังมากกว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่คิดว่าตัวเองจะมาอยู่ตรงนี้จริงๆ สมัยก่อนที่มาอยู่กับพี่เอเขาก็ไม่ได้โด่งดัง เป็นแค่พระเอกลิเกธรรมดาคนหนึ่ง การที่เรามาเจอกันได้คิดว่าคงเป็นบุพเพสันนิวาส เรื่องบังเอิญมากกว่า เรื่องราวชีวิตของตนกับพี่เอก็เหมือนกับนิยาย พอเริ่มได้มาดูคณะพี่เอ ก็เริ่มรู้จัก ก็เริ่มซึมซับกับพี่เอไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ทำให้อยู่ด้วยกันได้นานขนาดนี้ ตนมีคติในใจคือถ้าคิดจะอยู่กับเป็นครอบครัว เราต้องไม่ทำให้ครอบครัวเปลี่ยนแปลงไป ต่อให้เวลาจะผ่านไปยังไง ถ้าพี่เอไม่เอ่ยว่าเลิกกันนะ ก็อยู่กันต่อไป เพราะตนไม่ชอบการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ แล้วตนก็ไม่ได้ต้องการให้เขาบอกคนอื่นว่าเราเป็นใคร ตนโดนพ่อสอนมาว่าเวลาจะทำอะไรต้องรู้จักอดทน เก็บความรู้สึก เลยทำให้คิดบวกและมองโลกในแง่ดี อาจจะเพราะตนก็ศึกษาเรื่องธรรมะด้วย ทำให้รู้สึกสบายใจ ในสายตาตนพี่เอเป็นคนดี มีความกตัญญูสูงมาก เขาจะทำทุกอย่างให้พ่อแม่พี่น้องครอบครัวของเขา ตรงนี้คือสิ่งที่ประทับใจ แล้วเราก็มองตัวเองว่าเรามาทีหลังพ่อแม่เขาด้วย เขาจะทำอะไรเราก็ยอม ไม่ได้อยากเรียกร้องอะไร ถ้าจะพูดให้ชัดเจนว่าเจอพี่เอยังไง เริ่มมาจากที่เราไปดูลิเกคณะพี่เอประมาณ 2-3 ครั้ง ตอนนั้นอายุประมาณ 20 ปีแล้วแม่ก็เป็นคนชอบดูลิเกอยู่แล้ว พ่อแม่ตนก็รู้จักกับพ่อแม่พี่เอด้วย ก็พาไปรู้จักกัน ตั้งแต่นั้นมาก็ค่อยๆเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ความจริงตนไม่อยากพูดอะไรมาก ไม่อยากให้เอาคำพูดของตนไปทำร้ายใคร
เปิดใจ หนูนา เมีย ไชยา ความรักเหมือนนิยาย ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักเธอ
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย เปิดใจ หนูนา เมีย ไชยา ความรักเหมือนนิยาย ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักเธอ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นางสาวกัญจน์ลดากร หรือ หนูนา เปิดเผยกับ "เดลินิวส์" ว่า ตนเข้ามาดูแลพี่เอแบบเต็มตัวมาประมาณ 3 ปีแล้ว แต่ว่าตามพี่เอไปงานด้วยก็ประมาณ 7-8 ปี ก็ไม่ทราบว่าสื่อไปเอาข้อมูลของตนอย่างละเอียดจากแหล่งข่าวใกล้ชิดคนไหนเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด เลยไม่ได้ซีเรียสอะไร ใจจริงตนอยากดูพี่เอและลูกเจริญเติบโตอยู่ข้างหลังมากกว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่คิดว่าตัวเองจะมาอยู่ตรงนี้จริงๆ สมัยก่อนที่มาอยู่กับพี่เอเขาก็ไม่ได้โด่งดัง เป็นแค่พระเอกลิเกธรรมดาคนหนึ่ง การที่เรามาเจอกันได้คิดว่าคงเป็นบุพเพสันนิวาส เรื่องบังเอิญมากกว่า เรื่องราวชีวิตของตนกับพี่เอก็เหมือนกับนิยาย พอเริ่มได้มาดูคณะพี่เอ ก็เริ่มรู้จัก ก็เริ่มซึมซับกับพี่เอไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ทำให้อยู่ด้วยกันได้นานขนาดนี้ ตนมีคติในใจคือถ้าคิดจะอยู่กับเป็นครอบครัว เราต้องไม่ทำให้ครอบครัวเปลี่ยนแปลงไป ต่อให้เวลาจะผ่านไปยังไง ถ้าพี่เอไม่เอ่ยว่าเลิกกันนะ ก็อยู่กันต่อไป เพราะตนไม่ชอบการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ แล้วตนก็ไม่ได้ต้องการให้เขาบอกคนอื่นว่าเราเป็นใคร ตนโดนพ่อสอนมาว่าเวลาจะทำอะไรต้องรู้จักอดทน เก็บความรู้สึก เลยทำให้คิดบวกและมองโลกในแง่ดี อาจจะเพราะตนก็ศึกษาเรื่องธรรมะด้วย ทำให้รู้สึกสบายใจ ในสายตาตนพี่เอเป็นคนดี มีความกตัญญูสูงมาก เขาจะทำทุกอย่างให้พ่อแม่พี่น้องครอบครัวของเขา ตรงนี้คือสิ่งที่ประทับใจ แล้วเราก็มองตัวเองว่าเรามาทีหลังพ่อแม่เขาด้วย เขาจะทำอะไรเราก็ยอม ไม่ได้อยากเรียกร้องอะไร ถ้าจะพูดให้ชัดเจนว่าเจอพี่เอยังไง เริ่มมาจากที่เราไปดูลิเกคณะพี่เอประมาณ 2-3 ครั้ง ตอนนั้นอายุประมาณ 20 ปีแล้วแม่ก็เป็นคนชอบดูลิเกอยู่แล้ว พ่อแม่ตนก็รู้จักกับพ่อแม่พี่เอด้วย ก็พาไปรู้จักกัน ตั้งแต่นั้นมาก็ค่อยๆเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ความจริงตนไม่อยากพูดอะไรมาก ไม่อยากให้เอาคำพูดของตนไปทำร้ายใคร
หนูนา ภรรยาเอ-ไชยา ยืนยันว่า ลูกทั้ง 2 คน เป็นลูกของตนและเอจริงๆ ตอนนี้น้องๆเรียนอยู่ที่คณะนิเทศศาสตร์ เอกภาพยนตร์ ม.รังสิต เขาก็พักที่หอพักกัน น้องแชมป์ เขาเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง เขาไม่ชอบยุ่งกับใคร เขาโอเคกับจุดที่เขาอยู่ เพราะเขาไม่ชอบให้ใครรู้จักเขาเยอะ ก็เลยขออยู่ของเขาเงียบๆ ส่วนน้องแป้ง ก็ต้องขอบคุณหลายๆคนที่ชมว่าน้องแป้งสวยมาก สำหรับเรื่องข่าวที่ออกมาก็ได้คุยกับพี่เอแล้ว ทุกอย่างก็ไม่มีอะไร เพราะเราก็รู้จักกันดี ตนและเอไม่ได้จดทะเบียนสมรส ซึ่งเป็นเรื่องที่พี่เอเคืองมาก แต่ตนรู้สึกว่าเป็นแค่กระดาษใบเดียว เพราะเขาก็อยากทำให้เป็นกิจลักษณะเหมือนกัน แล้ววันแรกที่มีสื่อไปสัมภาษณ์พี่เอก็รู้ว่าคงมาถามเรื่องนี้ แต่ตอนนั้นยังไม่มั่นใจ เพราะน้องแป้งก็เล่าให้ฟังว่ามีสื่อไปถามเขาว่าเป็นอะไรกับพี่เอ ตอนแรกที่พี่เอบอกว่าน้องแป้งเป็นลูกของพ่อพี่เอ ก็ขอร้องว่าอย่าโกรธเขาเลย เพราะลิเกเป็นอาชีพของทางบ้านพี่เอที่เขาให้เลี้ยงชีพมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว สำหรับวันที่ 8 พ.ค.ที่จะมีการเปิดใจถึงเรื่องนี้ คิดว่าน่าจะมีพี่เอกับน้องๆ ส่วนจะมีตนด้วยหรือไม่ คงต้องคุยกับพี่เอก่อน ท้ายที่สุดก็อยากจะบอกว่าเข้าใจการทำงานของสื่อ แต่ตนยืนยันว่าอยากดูลูกและสามีเจริญเติบโตอยู่ข้างหลังอย่างมีความสุขดีกว่า
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom