อาท-เป้ สองนักแข่งหัวใจเดียวกัน!!! ถ่ายทอดฝีมือด้านการแสดงในละคร “ฝายน้ำใจ”

สองหนุ่มนักแข่งในวงการมอเตอร์สปอร์ตอย่าง อาท เควัน (ธนากฤต พาณิชตระกูล) และ เป้-อธิวัฒน์ จิรชยาสินธรณ์ ที่ชื่นชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ ฝีมือการแข่งรถก็ไม่ธรรมดา เพราะทั้งคู่มี "ถ้วยรางวัล" จากสนามต่างๆ เป็นเครื่องการันตีความสามารถด้วย!!!

ล่าสุดทั้งสองหนุ่มได้รับโอกาสดีจาก คุณเกตุ-เทพจุฬา เจียรนัย แห่งค่ายแคนดิดส์ อินทีเรีย ให้มารับบทเด่นในละครเทิดพระเกียรติเรื่อง "ฝายน้ำใจ" เขียนบทและกำกับการแสดงโดย ครูมิ้ง-เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร ที่กำลังออกอากาศทุกคืนวันเสาร์ เวลา 23.00 น. ทางททบ.5 โดยหนุ่มอาทเล่าถึงคาแร็กเตอร์ที่ตัวเองได้รับว่า

"ในละครเรื่อง ฝายน้ำใจ อาทรับบทเป็น ผู้ใหญ่พิน เป็นลูกชายของพ่อกำนันซึ่งรับบทโดย อาถั่วแระ เชิญยิ้ม ผู้ใหญ่พิน เป็นคนหนุ่มที่มีจิตใจดีชอบพัฒนา รักในธรรมชาติ และเป็นคนที่คอยช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ เป็นบทบาทที่มีความขี้เล่นเวลาอยู่กับพ่อ และมีความตั้งใจมากเมื่อเวลาทำงาน ผู้ใหญ่พินจะเป็นคนที่รักพ่อมาก และสามารถทำให้พ่อเชื่อและเข้าใจในสิ่งที่ตนเองทำ เพื่อส่วนรวมและครอบครัวในสไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่นำมาปรับ และพัฒนาหมู่บ้านของตนเอง อาทรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เล่นละครเทิดพระเกียรติ ต้องขอบพระคุณผู้ใหญ่ทุกท่านที่ให้อาทมีส่วนร่วมในละครเรื่องนี้ และยังได้ทำหน้าที่ นักแสดง ที่ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ เพื่อถวายองค์พ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ ของเราด้วยครับ"

ด้าน หนุ่มเป้ ในฐานะ "นักแสดงหน้าใหม่" ที่มีโอกาสได้เล่นละครเรื่องนี้แบบเต็มๆ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีงานในวงการบันเทิงมาบ้าง ทั้งงานเดินแบบ ถ่ายแบบ และงานละครอย่างเรื่อง "กฎแห่งกรรมคืนพระจันทร์ดับ" ตอน ปักษานาคา ก็เปิดใจถึงการร่วมงานในละครเรื่องนี้ว่า

"ผมรู้สึกเป็นเกียรติและโชคดีมากๆ ที่ได้มาเล่นละครเทิดพระเกียรติเรื่องนี้ ตอนที่พี่เมย์ (เพชรา วงศ์เทวัญ) มาบอกว่า ทางผู้จัดฯ กับผู้กำกับฯ สนใจอยากให้ เป้ มาเล่นเป็น อาจารย์ที่สอนนักศึกษาทำ ฝาย คาแร็กเตอร์ก็จะนิ่งๆ ใจดี แล้วก็ตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ความสามารถให้กับนักศึกษาอย่างดีที่สุด ผมดีใจมาก จริงๆ แล้วให้ผมเล่นเป็นตัวละครตัวไหนก็ได้นะ แค่ได้มีส่วนร่วมกับละครเรื่องนี้ก็เป็นบุญหัวแล้วครับ คือแค่ขึ้นชื่อว่าเป็นละครเทิดพระเกียรติ ผมเชื่อว่าใครๆ ก็อยากเล่น ใครๆ ก็อยากจะทำสิ่งที่ดีๆ ให้กับในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตอนบวงสรวงผมรู้สึกปลาบปลื้มใจมากนึกถึงท่านตลอด แม้ว่าวันนี้ท่านจะอยู่บนสวรรคาลัยแล้ว แต่ท่านก็ยังจะอยู่ในใจผมเสมอ ช่วงที่ท่านสิ้นนั้นผมกำลังถ่ายละครอยู่ที่เชียงใหม่ ตอนนั้นหมดแรงเลยครับ ไม่อยากจะทำอะไรเลย แต่พี่มิ้ง ผู้กำกับฯ ทีมงาน และนักแสดงทุกท่านก็ต่างพร้อมใจกันที่จะทำละครเรื่องนี้ให้สำเร็จลุล่วง ผมก็บอกและสัญญากับตัวเองว่า จะต้องทำหน้าที่ในฐานะนักแสดงให้ดีที่สุด และในฐานะ ประชาชนของพระราชา ด้วยการเป็นคนดี ประพฤติดี และทำความดีอย่างถึงที่สุดครับ"