โดย "ตู่" กล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อในหลวงว่า "ตั้งแต่เด็กมาแล้วผมจะดูข่าวในพระราชสำนัก เมื่อก่อนก็ดูไปอย่างนั้นแหละ แม่ก็บอกว่าดูเถอะจะได้ประโยชน์จากตรงนี้ ผมก็ดูไปว่าพระองค์ท่านเสด็จไปทั่วทุกภาคทุกมุมของประเทศไทยเลย คำถามที่มีอยู่ในใจตอนนั้นก็คือว่าทำไมพระองค์ท่านต้องไปด้วย นั่นคือความรู้สึกของเด็กคนหนึ่ง แต่พอโตขึ้นได้เรียนรู้มากขึ้นถึงได้เห็นว่าทุกที่ที่พระองค์เสด็จไปนั้นแสดงว่าพื้นที่ตรงนั้นมีปัญหา พระองค์ไปเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเพื่อให้ประชาชนในภูมิภาคนั้นมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีอาชีพที่ดีขึ้น และสามารถช่วยตัวเองได้ พระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่สอนทุกเรื่อง มองว่าทุกเรื่องมีความสำคัญ หลังจากนั้นก็ติดตามข่าวในพระราชสำนักเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 13 ตุลาคม ในวันที่พระองค์ท่านไม่อยู่กับพวกเราแล้วจึงมีความหมายกับตัวผมมากเพราะได้ติดตามงานของพระองค์ท่านอย่างแท้จริง และมีความรู้สึกว่าจะหาพระราชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว"
เคยมีโอกาสได้ถวายงานหรือเข้าเฝ้าพระองค์ท่านบ้างไหม นักแสดงรุ่นใหญ่กล่าวว่า "เคยมีโอกาสหนเดียว ตอนนั้นเป็นพิธีกรงานคอนเสิร์ตของหม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธ์ ซึ่งเป็นพระสหายของพระองค์ ท่านทรงประพันธ์คำร้องในเพลงพระราชนิพนธ์ ในหลวงทรงประพันธ์ดนตรี ครั้งนั้นเป็นคอนเสิร์ตใหญ่มาก จัดขึ้นที่ศูนย์วัฒนธรรม ผมเป็นพิธีกรหลัก วันนั้นในหลวงกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ และราชวงศ์ทุกพระองค์เสด็จมา ทุกคนก็จะแซวผมว่าเป็นคนเริ่มต้นนะ เป็นคนเปิดงาน ทำให้ดีนะ ถ้ามีข้อผิดพลาดคนอื่นแย่หมดเลยนะ ก็จะแซวกันอย่างนี้ ทำให้ผมตื่นกลัวมาก ตั้งใจมาก แล้วก็ท่องๆๆ คำที่จะต้องกล่าวเปิดงาน ผมก็ตั้งสติด้วยความรู้สึกทั้งมวลว่าพระองค์ท่านคงไม่ว่าหรอกถ้าจะมีผิดบ้าง จากนั้นก็ออกไปทำงานชิ้นนั้น พอเลิกคอนเสิร์ตทุกคนจะต้องไปตั้งแถวส่งเสด็จ ข้างหน้าผมมีคนมารอส่งเสด็จเยอะมากประมาณ 3-4 แถวแน่นๆ เลย ในหลวงกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็เสด็จลงมาแล้วก็เสด็จผ่านไป ตอนนั้นผมได้ยลพระศิริโฉมใกล้ชิดมาก ดีใจมาก คิดอยู่ในใจว่าแค่นั้นก็เป็นบุญมากแล้ว
https://www.facebook.com/teeneedotcom