"เมื่อฉันจะไป ไม่มีใคร เห็นหัว พอมีรางวัลมายั่ว แล้วดีใจ
เรียกเข้าไปพบ ชื่นชม ยินดี น้องจะให้พี่ ช่วยอะไร
ตัวผม ฝันว่า อยากทำอย่างนี้ เออพี่ว่ามันก็ดี แล้วนี่มันก็ใช่
จัดฉากเสร็จสิ้น บินกลับรัง แล้วฝันตูก็พัง ใช่ไหม
งานใหม่ เข้ามา ไปเอาหน้าต่อ แล้วก็หลอก ให้รอ ต่อไป
จนโปรเจคใหม่ เขาบอกว่า ทศกัณฐ์นั้นหนา จะเที่ยวไทย
อยู่กรุงลงกา ราชธานี เบื่อหน่ายเต็มที นารีเมรัย
อยากกินหนมครก แบบแคะเอง จักกะยานปั่งเล่ง สบายใจ
จะเเข่งโกคราส ขี่ม้าชมทะเล เล่นว่าวก็เฮ ฮาไป
พอเข้าตา ไดโนเสาร์ เต่าล้านปี มาบอกทำอย่างนี้ ใช้ไม่ได้
พระเกียรติยศ แผ่ไพศาล ต้องทรง คชาชาญ สิยิ่งใหญ่
ไอ้ขะหนมครก ไม่ให้แคะเอง บริวารจะประเคน มาเสริฟให้
จารีต แบบแผน ประเพณี ต้องอย่างโน้น ต้องอย่างนี้ จำไว้
ขุดกันเข้ามา ทั้งรุ่นย่ารุ่นปู่ แม่ครู้ แม่ครู ผู้ใหญ่
เบื่อหน่ายเต็มทน คนล้าหลัง โลกมัน แคบจัง รู้ไหม
ไทยจะไปยังไง เดินหน้าถอยหลัง วัฒนธรรมจะพัง รู้ไว้
ตายไปเอาไปด้วย นะคุณปู่คุณย่า หนูจะช่วยพา ไปเผาให้
เอชาฯ"
ซึ่งก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกันอย่างกว้างขวาง โดยส่วนที่ไม่เห็นด้วยมองว่า นักร้องหนุ่มไม่ควรทำเช่นนี้เพราะดูเป็นการไม่มีสัมมาคารวะ และดูเป็นคนก้าวร้าวต่อผู้ใหญ่
ล่าสุด เก่ง ธชย ได้เปิดใจว่า สำหรับที่ตนได้โพสต์ข้อความเหน็บแนมผ่านทางเฟซบุ๊ก ทั้ง "น้ำลาย กับเหงื่อ มันเป็นน้ำเหมือนกัน แต่วิธีการจะให้มันออกมามันต่างกัน!" และเพลงฉ่อยไปนั้น ตนไม่ได้มีเจตนาจะโจมตีใคร แต่ทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบเพราะตอนนั้นรู้สึกกดดันมาก แต่เมื่อมาวิเคราะห์สถานการณ์ก็เข้าใจว่าทุกคนหวังดี และส่วนตัวก็มีโอกาสได้ร่วมงานกับทางกระทรวงวัฒนธรรมอยู่แล้ว และไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิดกัน จึงอยากจะขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป โดยเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีให้คนไทยหันมาปรองดองกัน และนำวัฒนธรรมให้ก้าวไปข้างหน้า สร้างสินค้าทางวัฒนธรรมให้มีมูลค่าดีกว่ามาโต้แย้งกันเอง
"จริงๆ ทางกระทรวงวัฒนธรรมมีการคุยกันทางโทรศัพท์กับทีมงาน แต่เก่งไม่ได้ไปประชุมกับเขา คุยกันช่วงแรกอาจจะรุนแรง เราก็ขอโทษ มันมีความเข้าใจผิดกันเกิดขึ้น เราก็ขอโทษทางกระทรวงวัฒนธรรมไป เพราะเราอาจจะไม่เข้าใจ เราเป็นเด็ก อารมณ์ชั่ววูบ แล้วผมเป็นคนที่คิดอะไรก็พูดเลย ก็จะพยายามยั้งคิด ตอนนั้นเราไม่ได้มีเจตนาอยากจะโจมตี แต่มันเป็นความรู้สึกเราก็กดดัน เราก็อยากจะขอโทษ เพราะอยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี เราก็มีโอกาสทำงานกับกระทรวงวัฒนธรรม อย่างตอนที่เรากลับมาก็มีการจัดงานเลี้ยง ผมว่าตรงนี้หาจุดตรงกลางได้ เพื่อไม่ให้เกิดความทะเลาะเบาะแว้ง"
"ผมว่าแล้วแต่มุมมองในแง่ของวัฒนธรรม ถ้ามีคนมาโต้แย้งเราก็ปรับเปลี่ยนให้อยู่ตรงกลางที่ไม่เกิดการโต้แย้งได้ แต่จุดประสงค์เราก็ตั้งใจดี ซึ่งเก่งก็คงจะทำงานตรงนี้ต่อไป และจะเป็นยักษ์ต่อไป เพราะยักษ์เป็นคาแร็คเตอร์ของเก่งไปแล้ว ยักษ์ในที่นี้ไม่ใช่ทศกัณฐ์ เราก็จับความหมายในแง่มุมของศิลปะความเป็นยักษ์ประยุกต์ใช้ในด้านของความแข็งแรง เข้มแข็ง อดทน ผมเชื่อว่าถ้าเกิดเราสามารถควบคุมยักษ์ในตัวเราเองได้ มันก็น่าจะเกิดประโยชน์กับตัวเอง"
https://www.facebook.com/teeneedotcom