ยลทิวเขาที่อมัลฟี พร้อมตะลุยอิตาลี กับ ไหม วิสา

หลบอากาศร้อนในเมืองไทยและไอระอุของการเมืองบ้านเรา บินลัดฟ้า พร้อมหัวใจอุ่นๆ ไปประเทศอิตาลี เมืองในฝันของใครหลายคน (รวมทั้งตัวเอง...อิอิ) กับคลื่น คูล 93 ฟาเรนไฮต์

ในทริป One Life Volume "The Amalfi Coast...Heart Stopping Road Trip" เห็นชื่อทริปยาวเหยียดเป็นหางว่าว แล้วอย่าเพิ่งอ่อนใจกันไปซะก่อน อ๊ะ...อ๊ะ งานนี้เราไม่ได้ไปเพียงลำพัง ยังมี "ไหม" วิสา สารสาส คูลแอมบาสเดอร์รับหน้าที่ไกด์จำเป็น พร้อมทั้งดีเจประจำคลื่น "ซีเจ" ฉัตรชัย เจริญชุษณะ สุธี ฉัตรรัตนกุล ผู้บริหาร คูล 93 ร่วมท่อง ล่องเรือ นั่งรถเลาะขอบเขา ไปกับเราในครั้งนี้
 

เมื่อเท้าแตะกรุงโรมแผ่นดินของประเทศอิตาลี เงยหน้ามองท้องฟ้าที่ยังมืดครึ้ม เนื่องเพราะเราเดินทางมาถึงตามเวลาท้องถิ่นเป็นเวลา 6 โมงเช้า ขณะที่บ้านเราปาเข้าไปเที่ยงวันกันแล้ว

จากนั้นคณะของเราก็มุ่งหน้าลงใต้ไปเนเปิลส์ เมืองที่ยิ่งใหญ่เป็นลำดับที่สามของอิตาลี ซึ่งสามารถมองเห็นภูเขาไฟวิซูเวียสอยู่เบื้องหน้า ที่ดูพร้อมจะปะทุออกมาได้ตลอดเวลา ทำเอาไกด์จำเป็นของเราขยาดเหมือนกัน "เหมือนภูเขาไฟจะปะทุออกมาได้ตลอดเลยนะพี่" ไหมให้ความเห็น 

เราไล่เรื่อยมาถึง "ปอมเปอี" เมืองโบราณสำคัญแห่งหนึ่งในยุคโรมัน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านโบราณคดี 

"พี่ๆ ดูภาพวาดนางโรมนั่นสิ" ไหมชี้ชวนให้ดูภาพวาดของหญิงนางโรมขณะกำลังปฏิบัติภารกิจกับแขกในท่วงท่าต่างๆ ที่แปะตามฝาผนัง ที่คาดเดากันว่าน่าจะเป็นต้นกำเนิดของแมคโดนัลด์ เพราะหากนักเที่ยวคนไหนต้องการลีลาท่าทางแบบไหน สามารถชี้บอกได้ตามต้องการ เหมือนกับเลือกซื้อแมคโดนัลด์อย่างไรอย่างนั้น

นอกจากตื่นเต้นที่ได้เห็นความงามตามธรรมชาติเบื้องหน้าแล้ว 

การล่องเรือ มุดเข้าไปใน ถ้ำมรกต(Blue Grotto) ก็ทำให้ทุกคนลุ้นระทึก รวมทั้งไกด์จำเป็นของเราด้วย "ช่วงเข้าไปในถ้ำ ตื่นเต้นมากเลย สนุกดี ตอนที่เรือมันโยกเยกเนี่ย สุดยอดเลย ในถ้ำมรกตก็สวยมากๆ" ไหมเล่าให้ฟัง หลังจากดื่มด่ำกับความงามในถ้ำมรกต

และ...แล้วก็มาถึงไฮไลท์ของทริปนี้เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการเดินทางไปตามถนนเลียบชายหาดอมัลฟี เป็นเส้นทางที่งดงาม 

โดยตลอดเส้นทางรถจะเลี้ยวเลาะไปตามไหล่เขา ตามหน้าผา ธรรมชาติได้บรรจงรูปร่างๆต่างๆ ตามจินตนาการ โดยการเดินทางของเราใช้พาหนะทั้งรถโค้ช และรถเบนซ์ สลับกันไป ซึ่งเป็นที่ตื่นเต้น และหวาดเสียวกันถ้วนหน้า
 

"โอ๊ย!!! เสียวมากๆ ตื่นเต้นสุดๆ เสียวด้วยสวยด้วย ตอนเราอยู่บนเขามองลงมาเห็นบ้านคนอิตาลีเรียงรายเต็มไปหมด เขาสร้างบนเนินเขาดูคลาสสิกมากๆ ความรู้สึกตอนนั้นเหนือคำบรรยายจริงๆ แต่ก็คิดในใจว่าถ้าเกิดพลาดรถตกเขาลงมาตายก็ไม่เป็นไร เพราะตายหมู่ อย่างน้อยก็มีเพื่อนตาย" นางเอกคนดังกล่าวอย่างอารมณ์ดี ภายหลังจากที่รอดชีวิตลงมาอยู่บนพื้นดินในกรุงโรม

และอีกหนึ่งสถานที่ที่หากไม่มาเยือนคงเสียใจไปนาน นั่นคือ โคลอสเซียมสนามประลองการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ของชาวโรมันหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ "มาอิตาลีครั้งนี้เป็นครั้งนี้สอง ครั้งก่อนมากรุงโรมอย่างเดียว ครั้งนี้ประทับใจหลายอย่าง โดยเฉพาะอมัลฟี เป็นเมืองที่แปลกมากๆ สวยสมคำร่ำลือจริงๆ เลย คือแต่ละเมืองก็มีบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป สวยสดงดงามกันไปคนละแบบ" ไหม กล่าวเสียงร่าเริง
 

ถามว่าการมาครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่สอง อิตาลีมีอะไรที่ผิดแผกแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างไร เธอบอกว่า แตกต่างบ้างเหมือนกัน

"เปลี่ยนแปลงนะ ครั้งก่อนที่ไหมมา โคลอสเซียม ยังอยู่ในช่วงปรับปรุง แต่คนยังเนืองแน่นเหมือนเดิม และที่มาครั้งก่อน ไหมก็โยนเหรียญที่น้ำพุเทรวีนะ ไหมเลยได้มีโอกาสกลับมาที่นี่อีกไงคะ และครั้งนี้ก็โยนอีก หวังว่าจะได้มาอีกนะ" ไหมกล่าวถึงน้ำพุเทรวี ซึ่งเป็นเคล็ดว่าหากใครไปโยนเหรียญที่น้ำพุแห่งนี้ จะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีก

กู๊ดบาย...กรุงโรมในวันนี้แต่ก็หวังเอาไว้ว่า จะได้กลับไปเยือนอีกครั้งพร้อมใครบางคน...อิอิ