เป็นที่น่าสังเกตว่า การที่บ.ไร่ส้มที่ถูกแจ้งความครั้งนี้ ผลจะออกแนวไหน ต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาและขบวนการยุติธรรม
อย่างน้อยหากชื่อ “พิธีกรชื่อดัง”เข้ามาติดห่างแหในเรื่องดังกล่าว น่าจะหลายเป็นสนิมเกาะใจ”ไม่น้อย เพราะด้วยชื่อเสียงและผลงานที่เคยสะสมออกมางานหน้าจอแก้ว เรื่องนี้ยังไม่ชี้ชัดใครผิด ละใครถูก อยู่ที่ข้อมูล และหลักฐานที่จะนำมาอ้างอิงเท่านั้น หากไม่ผิดต้องอาจโดนสวนกลับ ทางกฎหมายได้เช่นกัน เพราะแต่ละฝ่ายต้องมีสิทธิเหมือนกัน แม้ว่าตอนี้”ไร่ส้ม”ยังเก็บตัวเงียบไม่มีกระแสโต้ตอบออกมา เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนระหว่าง “ผู้ถูกกล่าวและผู้เสียหาย”
ปูมหลังเรื่องดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นช่วงที่ “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ “นั่งบริหาร
แต่พอหมดวาระตำแหน่งกรรมการผู้นวยการใหญ่ บมจ.อสมท.ไป เมื่อปี 2549 ช่วงนั้นแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี บ.ไร่ส้ม ของพิธีกรชื่อดัง ต่อจากนั้น “พงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร” รองประธานกรรมการ ซึ่งทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ในเรื่องของการบริหารงานกิจการทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อครหาเรื่องทุจริต การบริหารงานบกพร่อง ที่ทำให้ อสมท และรัฐเสียหาย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม ชอบด้วยกฎหมาย
โดยยุคนั้น พล.ต.อ. ประทิน สันติประภพ เป็นประธานกรรมการสอบสวน
และกรรมการทั้งหมดอีก 10 คน ประกอบด้วย นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ,พล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์, นายกมล ทรงเจริญ,นายสมัคร เชาวภานันท์,นายรัตพงษ์ สอนสุภาพ,นายเจษฎา อนุจารี, นายสาธิต ภู่หอมเจริญ,นายพิเชษฐ เมาลานนท์,นายศุทธิชัย บุนนาค และ พลชัย วินิจฉัยกุล
ซึ่งกรรมการทั้งหมดมีหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงกรณีต่างๆ รวมไปถึงการบริหารงานที่บกพร่องกรณีรายการ “คุยคุ้ยข่าว” และให้สอบสวนเป็นกรณีเร่งด่วน และดำเนินการทั้งทางวินัย ทั้งพนักงานและบุคคลภายนอก
ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปในรายละเอียดที่ชัดเจนทางกฎหมาย ปัจจุบัน “บ.ไร้ส้ม”แค่ถูกกล่าวหาเท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องผ่านขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องสอบสวนและสืบสวนต่อไป เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสอง น่าจะกลายเป็นหนังยาวต้องติดตามต่อไป
https://www.facebook.com/teeneedotcom