"ถือเป็นการสูญเสียที่รวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัวเพราะคุณพ่อไม่ได้ป่วยเข้า ร.พ.บ่อย อาจจะมีไปตรวจร่างกายบ้างเป็นความดันก็กำลังทานยาอยู่ วันที่คุณพ่อล้มก็เป็นวันที่ผมไปถ่ายละครเรื่องแรงตะวันพอดี ตั้งใจว่าถ่ายเสร็จตอนค่ำจะเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อ แต่พอตอนบ่ายคุณหมอโทร.มาบอกว่ามีให้เลือกอยู่ 2 ทางคือถ้าไม่ผ่าตัดก็คือปล่อยให้เสียชีวิตตามธรรมชาติกับผ่าตัดแต่จะยื้อชีวิตได้อีก 5-6 วัน ใครเจอคำพูดแบบนี้ไปก็อึ้งแน่นอน ตอนแรกคิดว่าแค่ล้มอย่างมากก็เป็นอัมพฤกษ์ซึ่งก็เตรียมวิธีการรักษากันไว้แล้ว"
"ยอมรับว่าตกใจมากทีเดียวเพราะคิดว่าทุกอย่างน่าจะเป็นเหมือนในละครที่จะมีเวลาได้สั่งเสีย แต่ชีวิตจริงไม่ใช่แบบนั้นเลย ไม่คิดว่าพอคุณพ่อหลับไปในช่วงเช้าของวันนั้นจะเป็นการหลับครั้งสุดท้ายที่ไม่ได้ตื่นขึ้นมาคุยกับผมอีกเลย สำหรับสภาพจิตใจตอนนี้โอเคแล้วเพราะเป็นคนที่เข้าใจวัฏจักรธรรมชาติว่ามีเกิดแก่เจ็บตาย เพียงแค่ว่ามันปุบปับกะทันหันเท่านั้นเอง ส่วนอัฐิของคุณพ่อก็นำไปลอยอังคารที่สัตหีบครับ" พระเอกหนุ่มกล่าว
ถามต่อถึงกระแสละคร "เจ้าเวหา" ตอน ฝั่งน้ำจรดฝั่งฟ้า อั้มกล่าวว่า "ถ้าถามถึงในกลุ่มคนที่ดูก็จะชื่นชอบที่ละครเรื่องนี้ไม่ได้นำเสนอในแง่ตบตีทั่วไป แต่จะเสนอในแง่มุมที่เห็นถึงความรักชาติ โดยเฉพาะแฟนคลับทหารจะเยอะมาก เวลาไปถ่ายที่ฐานทัพเรือก็จะแอบถามคนแถวนั้นว่าได้ดูบ้างมั้ย เขาก็บอกว่าดูค่ะ เหมือนเห็นสามีตัวเองเล่นละครเลย เพราะเขารู้สึกว่าอาชีพของทหารไม่ค่อยได้ถูกถ่ายทอดเป็นละครเท่าไหร่"
มีข่าวว่าละครอาจถูกตัดงบเพราะเรตติ้งไม่ดีเท่าที่หวังไว้ พระเอกหนุ่มกล่าวว่า "จริงๆ เรื่องของเรตติ้งก็มีการฟาดฟันกันเยอะมาก ฉะนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าละครสไตล์ไหนที่คนดูจะชอบ ถ้าไม่ใช่ละครที่ตบตีซะทีเดียวผมว่าก็ต้องใช้เวลานิดนึงแค่ผมก็ตั้งมั่นและตั้งใจว่าอยากทำให้เป็นสิ่งที่สะท้อนออกมาดีๆ ในสังคม ส่วนเรื่องการตัดงบตอนนี้ก็ยังไม่มีแต่กำลังเตรียมตัวถ่ายทำเรื่องที่ 2 และ 3 อยู่ เรียกว่ายุทโธปกรณ์มากขึ้นกว่าเรื่องแรกด้วยครับ"
"ถามว่าท้อใจมั้ยกับกระแสเรื่องเรตติ้ง ไม่หรอกครับเพราะผมอยู่กับทางละครมามาก ละครแต่ละเรื่องก็มีคนชอบไม่เหมือนกัน" อั้มกล่าว
ชมคลิปด้านล่าง
WWW
WW
V
https://www.facebook.com/teeneedotcom