ล่าสุด 19 เม.ย. กานต์ วิภากร ได้ขอตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ โรงพยาบาลปิยะเวท โดยมี "วิรังรอง แสงสายพิม" น้องสาวของกานต์เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ อีกทั้ง "นพ.บุรินทร์ นุชนิยม" ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ "นพ.บริพัตร วงศ์ประชุม" ศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้าง ก็ได้เข้าแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย
นพ.บริพัตรฯ: "คนไข้ถูกส่งต่อมาจากรพ.ข้างนอกเมื่อวันที่ 17 เม.ย. มีอาการเจ็บที่ใบหน้าด้านขวา กระดูกข้อต่อกรามล่างด้านซ้ายหัก โดยรวมอยู่ในขั้นปลอดภัยดี รอกระดูกติด อนุญาตให้กลับได้พรุ่งนี้ ผู้ป่วยพูดได้แล้วแต่ในลักษณะที่ไม่ต้องอ้าปากมาก ทานอาหารได้แต่เป็นอาหารอ่อน ในทางแพทย์เชื่อว่าผู้ป่วยน่าจะกลับมาได้ แต่ต้องใช้เวลา ส่วนเรื่องสมองตรวจดูแล้วไม่กระทบอะไร"
เก๋ : "วันนั้นไปกับกวางและก็บี ไปทานไอศกรีมแถวบ้านกวาง หลังจากดูหนังเสร็จที่เซ็นทรัล แต่บังเอิญเจอกับเสก ซึ่งตนก็เห็นและไม่คิดว่าจะเข้ามาทำร้ายเพราะเสกเดินเข้ามากอดลูก แต่หลังจากนั้นก็เริ่มทำร้ายร่างกายบีทันที โดยเริ่มจากตบจนฝ่ายบีล้มลง ช่วงเวลาที่เกิดเหตุประมาณ 4-5 นาที ก่อนจะหนีขึ้นรถ โดยตนโดนเสกปิดประตูหนีบแขนจนช้ำ และถูกฝ่ายนักร้องหนุ่มด่าไล่หลัง บอกว่าถ้าแม่มึงไม่ได้เลี้ยงลูกกูมามึงโดนหนักแน่พูดอยู่ 3-4 ครั้ง"
กานต์: "ยืนยันว่าบีไม่เคยด่าแม่พี่เสก เป็นลักษณะโต้ตอบระหว่างแฟนคลับมากกว่า เชื่อว่าเสกเข้าใจผิดว่าบีเป็นเจ้าของเพจแอนตี้เสกซึ่งไม่ใช่ โดยในส่วนของคดีทางเก๋ได้ไปแจ้งความแล้ว ทางตำรวจดูผลกระทบจากอาการว่าจะตั้งข้อหาอะไร ทำร้ายร่างกายและจิตใจและข่มขู่น่าจะประมาณนั้น"
ส่วนที่ว่าฝ่ายเสกอ้างว่าทำร้ายร่างกายบีเหมือนตำรวจจับโจร ตรงนี้อย่ามาอ้าง เพราะเสกไม่ใช่ตำรวจ รับว่ากลัวเพราะฝ่ายนั้นขู่ไว้ว่าถ้าเจออีกก็จะทำร้ายร่างกายอีก นอกจากนี้ เจ้าตัวยังยืนยันอีกว่าพฤติกรรมแบบนี้ถือว่าฝ่ายชายทำผิดข้อตกลงของการหย่า ส่วนเรื่องที่ทอมบีมีคดีความตนไม่ขอยุ่ง แต่โดยส่วนตัวบีดีกับเรา ตนจึงต้องออกมาปกป้องและช่วยเหลือ
ด้านความรู้สึกน้องกวาง ก็คงรู้สึกไม่ดี เพราะเห็นเหตุการณ์ เชื่อว่าลูกตัดสินใจหรือคิดได้ว่าอะไรเป็นยังไง แย้มอาจจะพาน้องกวางศึกษาจิตแพทย์ หลังจากนี้คงไม่ห้ามให้พ่อลูกเจอกัน แต่จะไม่ให้ไปนอนค้าง "อยากให้เสกทำตามที่กฎหมายได้สั่งไว้ ไม่อยากให้ใช้พฤติกรรมศาลเตี้ยแบบนี้"
https://www.facebook.com/teeneedotcom