คู่อริแฉ เต๋า ไม่ใช่ลูกผู้ชาย!!

หนุ่มเชียงใหม่แถลงโต้ "เต๋า"สมชาย ให้ข่าวเท็จพูดกลับไปกลับมา

แฉกลับอีกไม่ใช่ลูกผู้ชายตัวจริง อ้างพระเอกกระชากเพื่อนพี่สาวลงจากรถ จับหน้าอก ก่อนกดหัวลงกับพื้นแล้วเหยียบซ้ำ ยันไม่ได้ชูนิ้วกลางหรือด่าควาย เพราะพอรู้เป็นเต๋าก็ไม่อยากมีเรื่องด้วยแล้ว ก่อนหน้านี้พยายามขอยอมความ แต่อีกฝ่ายพระเอกไม่ยอม ชาวช็อปเปอร์แห่ให้กำลังใจ "นัท"มีเรีย อดีตภรรยาเผยยังเป็นห่วงเต๋า แต่ให้ความเห็นอะไรไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

จากกรณีนายเฉลิมชัย แสงสุวรรณ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/3 ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมน.ส.บุษรา อินต๊ะปัญญา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/55 หมู่ 5 ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ แจ้งความดำเนินคดีกับ "เต๋า"สมชาย เข็มกลัด

ศิลปินนักร้องนักแสดงชื่อดัง พร้อมพวก โดยอ้างว่า ถูกรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.20 น.วันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อน "เต๋า" จะแจ้งความกลับข้อหาพยายามฆ่า ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 พ.ย.ที่สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ต.วิสูตร วงศ์ใหญ่ สวส.สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ เรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุมาสอบปากคำเพิ่มอีก 2 ราย เนื่องจากนายเฉลิมชัยและเต๋าให้การไม่ตรงกัน โดยพ.ต.ต.วิสูตร กล่าวว่า

ผลการสอบปากคำพยานเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก แต่ไม่ขอระบุว่าให้การเป็นประโยชน์กับฝ่ายใดมากกว่ากัน ในส่วนของอาวุธปืนของนายเฉลิมชัยนั้นขณะนี้ส่งไปตรวจสอบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายพ.ร.บ.อาวุธปืนหรือไม่ หากเข้าข่ายก็ต้องดำเนินคดีนายเฉลิมชัยอีก 1 ข้อหา

"คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจมาก เพราะมีดาราตกเป็นทั้งผู้ต้องหาและผู้เสียหายในคราวเดียว ทั้งนี้ขอให้ความมั่นใจว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น" พ.ต.ต.วิสูตร กล่าว

เวลา 14.00 น. ที่ชั้น 2 บุลลี่โบว์ล อ.เมืองเชียงใหม่

นายเฉลิมชัย คู่กรณีเต๋า พร้อมนายศักดิ์ชัย พันธ์รอด ทนายความ และนางฐิติพร รัศมี อายุ 55 ปี มารดานายเฉลิมชัย เปิดแถลงข่าวตอบโต้พระเอกเต๋า โดยมีสมาชิกชมรมคนขับขี่ช็อปเปอร์ในจ.เชียงใหม่ประมาณ 50 คน จาก 10 กว่าชมรม เดินทางมาให้กำลังใจนายเฉลิมชัยอย่างเนืองแน่น

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า

ที่ต้องออกมาแถลงข่าว เพราะอยากชี้แจงว่า เต๋าให้สัมภาษณ์ไม่ตรงกับความจริงที่เกิดขึ้น จะเห็นได้จากการให้สัมภาษณ์ทีวีช่องหนึ่งว่า ตอนเกิดเหตุนั่งอยู่บนรถเก๋งโตโยต้าวิชสีแดง แต่พอให้สัมภาษณ์อีกทีกลับบอกว่านั่งอยู่บนรถช็อปเปอร์ซึ่งไม่ตรงกัน นอกจากนี้เต๋ายังเป็นคนลากตนลงมาจากรถแล้วพากันรุมซ้อม แต่ที่ตนรับไม่ได้ คือกระชากเสื้อเพื่อนของพี่สาวผมซึ่งเป็นผู้หญิงออกจากรถ แล้วเต๋ายังจับหน้าอกผู้หญิงอีกด้วย ก่อนจะกดหัวลงพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบ และในวันนี้ตนนำเสื้อยืดสีดำของเพื่อนพี่สาวมาเป็นหลักฐานด้วย ขนาดผู้หญิงยังทำได้แบบนี้ ลูกผู้ชายหรือเปล่า และตนยืนยันว่าตอนเกิดเหตุไม่ได้ต่อสู้หรือสวนคืนอะไรเลย

"ตอนอยู่ในรถ ผมเห็นเป็นพี่เต๋าผมไม่อยากจะมีเรื่องกับเขาอยู่แล้ว

อีกอย่างพี่เต๋าก็รู้จักเพื่อนรุ่นพี่ผมในกลุ่มไบค์เกอร์ซึ่งขับขี่รถช็อปเปอร์ด้วยกัน ยิ่งไม่มีทางที่ผมจะไปหาเรื่องทำร้ายเขาก่อนแน่นอน และอยากฝากผ่านไปทางพี่เต๋าว่า ผมติดตามผลงานของเขามาตลอด ผมปลื้มที่เขาเป็นคนไบค์เกอร์ด้วยกัน ผมเคยเทิดทูนเต๋า-สมชาย เพราะเห็นชอบทำบุญ เคยเห็นเขาไปทำบุญให้บ้านเด็กยากจนที่เชียงใหม่ ตอนนั้นปลื้มมาก และคิดในใจเสมอว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง พอเจอเหตุการณ์แบบนี้พยายามจะคุยกับเขาขอให้เขายุติเรื่อง

ครั้งแรกเจอกันที่บนโรงพักผมนั้นก็ยอมและขอยอมความ

ไม่มีใครหรอกครับที่อยากจะมีเรื่องกับดาราดังเพื่ออยากจะเป็นข่าว ผมเจอเขาบนโรงพักทั้งยกมือไหว้ขอโทษและขอร้อง ทั้งที่ผมเจ็บ ขอร้องให้เขายุติเรื่องนี้ แต่เขาไม่ยอม เขาจะเรียกให้ทนายเขามาคุยและให้คุยในชั้นศาลอย่างเดียว" นายเฉลิมชัย กล่าว และว่า ไม่มีน้องๆ เพื่อนๆ ของตนไปดักทำร้ายเต๋าที่บ้านพัก ทุกคนจะไม่กระทำอะไรเกินเลยเด็ดขาด อีกทั้งตนไม่ได้ไปโทรศัพท์ข่มขู่เขา ตนไม่มีเบอร์จะไปข่มขู่ได้อย่างไร

นายเฉลิมชัย กล่าวถึงการบาดเจ็บว่า

แพทย์ระบุว่า บริเวณศีรษะมีอาการบวม เยื่อในตาแตก หูเลือดไหลเพราะถูกกระแทกอย่างแรง แต่ไม่กระทบต่อแก้วหู ส่วนสมองถูกกระทบกระเทือนก็ต้องรอดูอาการไปก่อน บริเวณอื่นๆ ก็เพียงรอยถลอกที่แขนเท่านั้น เพราะถูกเต๋าเตะตนและกระทืบซ้ำขณะตนนอนอยู่กับพื้นประมาณครึ่งชั่วโมง อีกทั้งไม่ได้ด่า "ไอ้ควาย" และชูนิ้วกลางตามข้อกล่าวหาของพระเอกเต๋าแต่อย่างใด

ด้านนายศักดิ์ชัย กล่าวว่า

ในส่วนของคดีนั้น ผู้เสียหายเคยขอให้เต๋ายอมความแล้ว แต่เต๋าไม่ยอม ยืนยันเพียงว่าให้ไปสู้กันในชั้นศาล เมื่อเรื่องถึงขั้นนี้ก็ต้องเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานและยืนยันจะแจ้งความดำเนินคดีกับเต๋าเพิ่มเติมอีกหลายข้อหาอย่างแน่นอน โดยตอนนี้จะขอตรวจสอบวิดีโอวงจรปิดที่ติดตั้งในจุดเกิดเหตุก่อน แต่ยังไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่ ส่วนอาการบาดเจ็บของนายเฉลิมชัยนั้น อยู่ระหว่างรอผลเอกซเรย์ที่แน่นอนอีกครั้ง

นายปฏิวัติ ใส่ใจ อายุ 30 ปี ประชาสัมพันธ์กลุ่มโซเดวิลหนึ่งในชมรมขับช็อปเปอร์ที่มาร่วมให้กำลังใจนายเฉลิมชัย กล่าวว่า

 นายเฉลิมชัยเป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมโซเดวิลในจ.เชียงใหม่ เชื่อว่าคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์และเป็นสมาชิกชมรมที่เป็นไบค์เกอร์จริงๆ อย่างเฉลิมชัยนั้น ไม่น่าจะเป็นฝ่ายไปหาเรื่องคนขับช็อปเปอร์ด้วยกัน เพราะคนที่เป็นสมาชิกชมรมไบค์เกอร์โดยวิสัยแล้วเรามีกฎในการขับขี่ปลูกฝังกันมาว่าให้เคารพกฎจราจรและมีน้ำใจในการขับขี่ รวมทั้งทำงานเพื่อสังคม เช่นการไปออกงานต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ ถึงหน้าตาดุแต่ไม่หาเรื่องและทำร้ายใครบนท้องถนน

"น้องคนนี้พวกผมรู้จักดีว่าเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ส่วนคุณเต๋านั้นอยู่เชียงใหม่มานาน พวกผมก็รู้จักเขาดี นิสัยของเขาเป็นอย่างไรไม่ขอพูดถึง แต่เชื่อได้ว่าคนที่ขับช็อปเปอร์อย่างเฉลิมชัยจะไม่ไปหาเรื่องพวกที่ขับช็อปเปอร์ด้วยกันแน่ พวกผมออกมารวมตัวกันในวันนี้เพียงเพื่อจะเป็นกำลังใจให้น้องเขาขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีด้วยความเป็นธรรม แต่จะไม่ใช้ความรุนแรงในการบอยคอตนักบิดอย่างเต๋า สมชาย" นายปฏิวัติ กล่าว

วันเดียวกัน "นัท" มีเรีย เบนเนเดดตี้ อดีตภรรยาเต๋า เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า

ได้รับรู้ข่าวแล้ว รู้สึกเป็นห่วงในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน แต่ไม่อยู่ในสถานะที่จะพูดอะไรได้ เพราะว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะเรื่องเกิดขึ้นที่เชียงใหม่ ให้ความเห็นอะไรไม่ได้ ในฐานะคนรู้จักกันก็ยังติดตามข่าวและยังเป็นห่วงอยู่

ขณะที่พระเอกรุ่นใหญ่ "หนิง" นิรุตติ์ ศิริจรรยา ผู้ที่เต๋า-สมชาย นับถือเป็นพี่ชายในวงการ กล่าวว่า

รู้ข่าวก็รีบติดต่อไปหาเต๋า แต่ติดต่อไม่ได้ ตนก็อยากจะทราบความจริงว่าอะไรเกิดขึ้น ที่ผ่านมารู้ว่าเต๋าเป็นคนใจร้อนมาก จะคอยเตือนอยู่เสมอว่า อย่าใช้ตัวเปลือง เต๋าเป็นทั้งนักแสดงและนักร้อง ต้องทำหน้าที่ทั้ง 2 อย่าง เป็นนักแสดงยังไม่เท่าไหร่ เพราะโอกาสที่จะขึ้นเวทีโชว์ตัวไม่ได้มากมาย แต่การเป็นนักร้องจะต้องมีการออกคอนเสิร์ต การแสดงบนเวทีก็อาจจะมีบ้าง คนดูที่ทั้งชอบและไม่ชอบเรา หรือบางคนก็อาจจะหมั่นไส้ เพราะเหมือนกับว่า เขาพาแฟนไปดูคอนเสิร์ตแล้วแฟนเขาไปกรี๊ดศิลปินมากเกินไป ตัวผู้ชายจะรู้สึกหมั่นไส้ อาจกระทบกระทั่งกันได้

"หนิง" นิรุตติ์ กล่าวต่อว่า บางครั้งตนขึ้นไปเชียงใหม่ก็ยังดึงเต๋าขึ้นไปอยู่ที่อ.เชียงดาวด้วย

เพื่อให้เขาห่างๆ จากเพื่อนที่เชียงใหม่ เหมือนให้ห่างสังเวียนบ้าง เพราะถ้าอยู่ในเชียงใหม่เพื่อนเขาเยอะ โอกาสที่จะไปมีเรื่องกับใครก็เยอะขึ้น แต่อยู่กับตนจะไปทำอะไรก็ได้ แหกปากร้องตะโกน กินเหล้าหัวราน้ำ ก็ไม่มีใครว่าเพราะว่าอยู่ในที่ของเรา

หลายครั้งที่ผมเตือน เขามักจะเถียงว่าฝ่ายนั้นมันยกนิ้วกลางให้ก่อน

หรือเข้ามาหาเรื่องก่อน ก็จะบอกเขาว่าบางครั้งเราไม่จำเป็นจะต้องใส่ใจไปทุกเรื่อง ความเป็นลูกผู้ชายบางครั้งมันจะทำให้แต่เกิดปัญหา บางเรื่องถ้ายอมๆ ได้ แยกกันไปทุกอย่างก็จบลง ผมอยากจะให้เขาเป็นทั้งลูกผู้ชายและสุภาพบุรุษไปในตัว บางครั้งเสียหน้าแต่ได้เป็นสุภาพบุรุษก็ควรทำ เขาเองก็ยังเคยแย้งว่า ตอนที่ผมอายุเท่าเขาผมก็แรง ผมก็เลยบอกว่า เมื่อก่อนกับตอนนี้มันต่างกัน เขาไม่เอาเปรียบคู่ต่อสู้ ไม่ลอบกัด และบางครั้งเราก็ไม่พยายามที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องที่ไม่จำเป็น แต่เต๋าจะเข้าไปมีส่วนร่วมทุกเรื่อง มันทำให้เปลืองตัว" นิรุตติ์ กล่าว

พระเอกรุ่นใหญ่ กล่าวอีกด้วยว่า

เต๋าโตแล้ว การตัดสินใจน่าจะดีกว่านี้ ตนเป็นห่วงจึงอยากจะเตือน เพราะกลัวว่าวันหนึ่งถ้าเขาไปเจอคนจริง อย่างที่เต๋าเป็น แล้วชักปืนออกมายิงเลย หรือไม่ก็เจอนักเลงที่ไม่ทำซึ่งหน้าแต่ลอบกัด แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ตนไม่อยากจะให้เขาเป็นอะไรไป อยากจะให้คิดถึงคนที่ยังรักบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่