ยังยิ้มสู้!!พิมพ์ เปิดใจเล่านาทีสุดทรมาน หลังรู้ว่าป่วยมะเร็งรังไข่!!


ทำเอาแฟนๆต่างช็อกกันไปเมื่อได้รู้ว่า พิมพ์ พิมพ์มาดา หรือ พิมพ์ ซาซ่า ต้องเผชิญหน้ากับอาการป่วย หลังตรวจพบว่ามีก้อนเนื้อซึ่งมีเซลล์มะเร็งที่รังไข่ และได้เข้าทำการคีโมมาแล้ว 5 ครั้ง เหลือครั้งสุดท้ายในวันที่ 1 มี.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งบรรดาแฟนๆต่างก็ส่งกำลังใจให้กับสาวพิมพ์กันอย่างล้นหลาม

ล่าสุด พิมพ์ ได้เปิดใจกับรายการเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3 ถึงเรื่องนี้ว่า เมื่อประมาณปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เริ่มจากท้องบวมและแข็ง มีอาการปวดท้องหน่วง ๆ ทั้งที่ประจำเดือนหมดไปแล้ว จึงตัดสินใจไปหาคุณหมอ ซึ่งหลังจากคุณหมอตรวจแล้วพบว่าเป็นเนื้องอกในรังไข่ขนาดใหญ่มาก ประมาณ 18 เซนติเมตร จึงผ่าตัดออกไป ตนเองก็คิดว่าทุกอย่างจบแล้ว แต่ด้วยความที่ก้อนเนื้อขนาดใหญ่มากคุณหมอจึงนำไปตรวจอย่างละเอียดจนพบว่ามีเซลล์มะเร็งอยู่

"ตอนนั้นรู้สึกช็อกมากเลยถามคุณหมออย่างละเอียด คุณหมออธิบายว่า เดิมเชื้อเหมือนยังอยู่ในแคปซูลยังไม่กระจายออกมาแต่หลังจากผ่าตัดไปแล้วก็มีโอกาสที่มันจะกระจายได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำคีโมบำบัดจำนวน 6 ครั้ง พอฟังแล้วเราก็กลัว คิดทุกอย่างในทางลบหมดเลยจึงไปขอผลตรวจจากโรงพยาบาลแรกเอาไปให้ที่อื่นดูว่ามีวิธีอื่นที่ไม่ต้องทำคีโมไหม แต่คุณหมอทุกที่บอกตรงกันหมดเลยว่ายังไงก็ต้องทำคีโม ซึ่งในความคิดของเราตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วว่าการทำคีโมมันดูไม่ดีเลย มันทรมาน ผมร่วง เพราะมันจะไปทำลายสิ่งที่ดีในร่างกายด้วย รวมทั้งเคยอ่านเจอว่าคนที่ทำคีโมแล้วเสียชีวิตก็มี แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องเชื่อคุณหมอที่มีความรู้และพร้อมจะช่วยรักษาเรา คุณหมอแนะนำว่าให้อายุมากกว่านี้ไม่ต้องทำก็หากตนอายุมากกว่านี้จะไม่ทำคีโมก็ได้ แต่ที่ให้ทำเพราะเราอายุยังน้อยยังสามารถสู้กับคีโมไหว เป็นการรักษาชีวิตให้อยู่ต่อยาว ๆ แต่หากไม่ทำจะสามารถมีอาการปกติเพียง 5 ปี เท่านั้น หลังจากนี้แล้วจะมีอาการรุนแรงขนาดไหนไม่รู้ "

"เริ่มทำคีโมครั้งแรกประมาณเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในครั้งแรกคุณหมอจะอธิบายว่าหลังจากให้คีโมแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอนนั้นเราก็เริ่มไปตัดผมให้สั้นลงและรับรู้ได้ว่าผมของตัวเองปลิวออกจากหนังศีรษะได้ง่ายดายแทบไม่ต้องใช้แรงดึง ส่วนอาการอื่น ๆ ก็มีบ้าง ทั้งพะอืดพะอม คลื่นไส้ ตัวร้อน วันที่ผมร่วงหมดรู้สึกสติแตกมากจนคุณแม่ขึ้นมาปลอบว่า เป็นสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่เราต้องเจอ ในสมองของเราตอนนั้นก็กังวลว่าจะบอกคนอื่นยังไง เพราะเราเป็นคนที่คนทั่วไปรู้จัก คิดจนหลับไปทั้งน้ำตา"

หลังจากนั้นตนเองก็พยายามหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาอ่านจนกว่าจะเข้าใจ รวมทั้งหยุดงานทุกอย่างเพื่อไปปฏิบัติธรรมและสิ่งที่ได้กลับมาคือรู้สึกถึงคุณค่าในการมีชีวิตมากขึ้น ทำให้ลุกขึ้นมาสู้กับโรคร้ายเพราะความตายมันใกล้ตัวเรามาก และในความโชคร้ายยังมีความโชคดีที่รู้ว่ามีคนห่วงใย ทั้งคุณหมอที่ช่วยรักษาดูแลอย่างดี ซึ่งคุณหมอบอกว่ามีโอกาสหาย 90%

พิมพ์มาดา ได้บอกทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยว่า ที่ออกมาบอกเรื่องของตัวเองเพราะอย่างน้อยคิดว่าอาจเป็นประโยชน์กับคนอื่น ให้กำลังใจคนอื่นได้ก็อยากจะทำ เวลานี้เหลือทำคีโมอีก 1 ครั้งในวันที่ 1 มีนาคมนี้ ซึ่งจะสู้เต็มที่ และตอนนี้ตนเองสบายใจแล้วที่ออกมาบอกเรื่องนี้กับทุกคน ไม่ต้องมาคอยกดดันเหมือนเมื่อก่อนอยากขอให้ทุกคนไปตรวจสุขภาพเป็นประจำเพราะหากเกิดอะไรขึ้นจะได้รักษาทัน พิมพ์ขอบคุณสำหรับกำลังใจ มันมีคุณค่ามากกับคนที่กำลังเผชิญอยู่ตรงนี้ เรามีคุณค่าในการมีชีวิตต่อไป ต้องรักตัวเองให้มากๆ คนที่เผชิญกับตรงนี้ก็สู้ไปด้วยกันค่ะ พิมพ์ไม่เคยคิดว่าจะเข้มแข็งได้แต่วันนี้เข้มแข็ง ก็สู้ไปด้วยกันนะคะ


ยังยิ้มสู้!!พิมพ์ เปิดใจเล่านาทีสุดทรมาน หลังรู้ว่าป่วยมะเร็งรังไข่!!






ยังยิ้มสู้!!พิมพ์ เปิดใจเล่านาทีสุดทรมาน หลังรู้ว่าป่วยมะเร็งรังไข่!!


ยังยิ้มสู้!!พิมพ์ เปิดใจเล่านาทีสุดทรมาน หลังรู้ว่าป่วยมะเร็งรังไข่!!


ยังยิ้มสู้!!พิมพ์ เปิดใจเล่านาทีสุดทรมาน หลังรู้ว่าป่วยมะเร็งรังไข่!!


ยังยิ้มสู้!!พิมพ์ เปิดใจเล่านาทีสุดทรมาน หลังรู้ว่าป่วยมะเร็งรังไข่!!


ยังยิ้มสู้!!พิมพ์ เปิดใจเล่านาทีสุดทรมาน หลังรู้ว่าป่วยมะเร็งรังไข่!!


ยังยิ้มสู้!!พิมพ์ เปิดใจเล่านาทีสุดทรมาน หลังรู้ว่าป่วยมะเร็งรังไข่!!


ยังยิ้มสู้!!พิมพ์ เปิดใจเล่านาทีสุดทรมาน หลังรู้ว่าป่วยมะเร็งรังไข่!!


ยังยิ้มสู้!!พิมพ์ เปิดใจเล่านาทีสุดทรมาน หลังรู้ว่าป่วยมะเร็งรังไข่!!


ขอบคุณที่มา > > เจาะข่าวเด่น เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์