เจตนาแรกที่โพสไปแบบนั้น ?
"ผมโพสลงในเฟชบุ๊คส่วนตัวของผม ซึ่งก้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ว่ามันจะเป็นข่าวใหญ่โต ที่ทุกสื่อให้ความสนใจขนาดนั้น แต่วาสพอภาพมันออกม่ ถามว่าดูแรงไหม ก็ยอมรับ หลายๆ คนก็บอกว่ามันดูแรงนะแต่ว่าในมุมมองผมมันเป็นการแสดงเจตนารมย์อย่างหนึ่งว่าขอบเขตของมันคืออะไร แต่ถามว่าเรื่องการเซฟตี้ของรายการ เขามีอยู่แล้วอย่างที่ผมเคยชี้แจงไปแล้วว่าเซฟตี้มีระบบป้องกันดีทุกอย่างมันเป็นลิขสิทธิ์ของรายการแต่ว่า แค่อาจจะเป็นเรื่องของทีมงานหรือว่าโปรดิวเซอร์ที่ไม่มีการเคลียร์กติกา หรือความชัดเจนในเรื่องของกฏกติกา มารยาททั้งหมด จนทำให้มันเกิดเหตุบานปลายหลายๆ เรื่อง ซึ่งเรื่องยิบย่อยสำหรับผมมันเป็นเรื่องปกติ แต่ผมเป็นลักษณะของที่ว่า ถ้าเกิดส่วนตัวพี่ๆ นักข่าวหลายคนที่เคยเจอกันอยู่แล้วก็จะรู้ว่าผมเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกคนอื่นมากกว่า แคร์ในความที่เขาเอามา แคร์ที่คนนั้นเจอ คนนี้เจอ แล้วก็มา ด้วยความที่เราเป็นผู้นำของทีม พี่ครับผมเจอ หนูเจอ เราก็รู้สึกฟิวส์แบบโมชั่นมันก็แบดลงไปด้วย ก็เลยตัดสินใจว่า ตอนที่ผมดพส ผมไม่ได้ขาดสตินะ ผมยังมีสติ มีการแบ่งบรรทัด แยกหัวข้ออย่างชัดเจน แต่อยากชี้แจงให้มันชัดเจนเป็นส่วนๆ ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง กับภาพรวมที่มันเกิดขึ้น ซึ่งในการถ่ายทำมันแบ่งเป็น 2 ทีม แน่นอนว่าคนเรา ต่างคน ต่างนิสัย ต่างกันเลี้ยงดู ทุกอย่างมันแต่กต่างกันหมดอยู่แล้วล่ะ แต่ว่าใครทนได้ในระดับไหนก็ก็เป็นส่วนของเขา คือใครทนไม่ได้ส่วนไหนก็เป็นส่วนของเขาเหมือนกันดังนั้นการที่ 2 ทีม มีคนมาโพสเหมือนกันว่าไม่เห็นจะเป็นแบบนั้นเลย ซึ่งมันอาจจะเป็นข้อดีที่ว่าเขาเจอทีมงานที่โอเคมีเรสปอนที่ดี แต่ของเราที่เราเจอมันเจอแบบนี้ สถานะการณ์แบบนี้ ผมถึงได้บอกว่าต่างคน ต่างวาระ ต่างสถานะการณ์มันเอามาเทียบ หรืออิงกันไม่ได้ เพราะแต่ละครั้งก็ไม่ได้เหมือนกัน รูปแบบรายการที่ล่าสุดเนี่ย เขามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการใหม่ เปลี่ยนกติกาใหม่ เปลี่ยยนทุกอย่างใหม่ ซึ่งดังนั้นคนที่เคยอาจจะมาดพส หรือว่าเป็นที่ว่ามาร่วมรายการแล้ว แล้วมาบอกว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ทุกคนคิด เนื่องจากว่าตอนก่อนหน้านี้ผมถามใครมาก็บอกว่าดูแลดี ดีมาก ดีจริงๆ แต่ว่ามันมา ด้วยความที่เปลี่ยนรูปแบบรายการใหม่ กติกาใหม่ มันเลยไม่มีความชัดเจน มันเลยทำให้ปัญหามันอาจจะเกิดที่แก๊ปพอดี แล้วแก๊ปเป็นคนที่พูดตรงอยู่แล้ว ในเรื่องของความรู้สึก แต่ก้ไม่ได้ต้องการจะดิสเครดิตทางผู้บริหารเอง หรือสถานี หรืออะไรต่างๆ นาๆ ทั้งสิ้น"
อะไรที่ทำให้เดือดจนทนไม่ได้แล้วต้องมาโพส ?
"อย่างแรกที่มันเดือดเลยคือหนึ่งเรื่องกติการที่เล่น ตีปิงปอง เอาลูกปิงปองอัดใส่หน้า อันนี้ผมรู้สึกว่า หลายๆ คนก็คงรู้สึกว่าลูกปิงปองถ้าเขวี้ยงเฉยๆ มันก็อาจจะมีความเจ็บบ้าง แต่ในการตีอัดมันก็ก็เป็นความารู้สึกหนึ่งที่หลายๆ คนอาจจะบอกว่า ความเจ็บเนี่ยแต่ละคนมาตรฐานไม่เท่ากัน มันทำให้เลยพีค แต่พอกติกามันไม่ชัดเจน ผมถามว่ากติกาอยู่ตรงไหน ก็ไม่มีใครออกมาตอบรับ แม้กระทั่งโปรดิวเซอร์เองที่รู้จักกัน ก็ไม่มีการออกมาพูด ผมว่าอันถ้าออกมาชี้แจงว่า แก๊ปเปอร์กติกาเป็นแบบนี้นะเว้ย แต่ว่าภาพรายการเราเปลี่ยนใหม่ รูปแบบเป็นแบบนี้อาจจะดูโหดหน่อยแต่ทนนิดหนึ่งนะ เดี๋ยวยังไงพี่ขอโทษอีกที เดี๋ยวพี่ดูแลเทคแคร์ให้นะ โน้นนี่นั่น ถ้าแค่นี้ ผมคุยกับทุกคนเลยว่า ถ้าคุยกันแค่นี้ ทุกคนรับได้ เพราะโอเคมันคือเกมส์โชว์ มันคือเรลลิตี้ บวกกับเรลลิจี้ไปด้วย แล้วอย่างที่ผมมาเนี่ย ผมไม่ได้สนใจเรื่องเงินรางวัลหรืออะไรอยู่แล้ว เพราะรู้จักกันเหมือนพี่น้อง เหมือนพี่เชิญ เราเชิญ ทุกคนเชิญ เราก็ยินดีไปร่วมให้ ร่วมให้ปกติเลย ดังนั้นผมคิดว่าการที่รู้จักกัน ไปร่วมงานรายการกันมันก็ไม่น่าจะใช่สิ่งเสียหาย แต่อย่างน้อยก็ต้องมีความรู้สึกในเรื่องของการดุแล หรือว่าความปลอดภัยที่ที่เซฟในเรื่องของความรู้สึก อันนี้ผมพูดในเรื่องความปลอดภัยในด้านความรู้สึกนะ"
ไม่มีการพูดคุยบ หรือเซ็นอะไรกันก่อนถ่าย ?
"คือมันมีการเซ็นเอกสาร ผมยอมรับว่าวันที่ไปเซ็น วันนั้นผมก็ยังบอกเหมือนเดิมว่า มันมีลมเข้า พายุ เหมือนมันมีลมพัดแรงตอนนั้นเป็นช่วงเย็น แล้วคือเอกกระสารมันปลิวกระจัดกระรายมาก ก็พยายามเซ็น แต่สำหรับผมเนี่ยก็ผิดพลาดด้วยส่วนหนึ่งที่ไม่ได้อ่านเอกสารทั้งหมด อย่างชัดเจนและรัดกุม และผมว่ามีทีมงานอีกบางส่วนที่พาผมไปด้วยเนี่ยก็ไม่ได้อ่านอย่างชัดเจน เพราะคิดว่าพี่แก๊ปชวนมามันก็ไม่น่าจะมีอะไร เพราะเราเป็นคนไปชวนเขามา แต่ต่อให้อ่านแล้ว อันนี้มุมมองส่วนตัวของผม ต่อให้ผมอ่านแล้วผมก็เซ็นอยู่ดี เพราะว่าเรารู้จักกัน ยังไงเราก็ต้องเซ็นแล้วเราก็ยินดีที่จะร่วม เพราะมันคือความสนุก มันคือเกมโชว์ที่จะต้องเป็นทาเล้นท์ เป็นการแข่งขัน สนุกสนานอันนี้ผมว่าผมเข้าใจในรูปแบบ"
รูปบาดแผลที่โพสลงไป หลายคนก็มองว่ามันรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ ?
"คือด้วยภาพด้วยสีต่างๆ ถ้าเกิดในเฟชบุ๊คเนี่ยภาพสีอาจจะยังไม่สดมาก แต่ในอินสตาแกรมภาพมันอาจจะดูสด เพราะผมเป็นคนแต่งภาพ หลังๆ มาถ้าเกิดเข้าไปดูจะเห็นว่ามีภาพที่เน้นความเข้ม หรือความคมชัดของภาพ มาระดับหนึ่ง มันอาจทำให้สีสดมากขึ้น แต่ในบางอย่างผมไม่ได้ชี้แจงไงครับว่าในภาพนั้นมันเป็นสีผสมอาหารด้วยนะ หรือมันเป็นรอยฟกช้ำดำเขียว หรือเป็นบาดแผลด้วยนะ เพราะผมรู้สึกว่ายิ่งชี้แจง ยิ่งไปกันใหญ่ ก็แค่อธิบายในสิ่งที่มันเกิดขึ้น แต่ว่าสิ่งที่ผมทำทั้งหมดพอมาสุดท้ายก็คือว่าผู้มที่มีอำนาจในการตัดสินใจทั่งหมด ดปรดิวเซอร์ตอนนั้นอยู่ไหน ทำไมไม่เคลียร์ ทำไมต้องทำให้ทุกคนต้องมาอึดอัด แล้วเราเป็นตัวแทน เป็นผู้นำ พอเราออกตัวแรง ด้วยความที่ผมก็ทำงานในวงการบันเทิงมา แน่นอนว่ามีนก็ต้องมีการจับจ้องของสื่ออยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะการที่เราเป็นแกนนำขนาดนั้น หรือเป็นผู้นำขนาดนั้น จะทำให้ผลฟีดแบคที่เกิดขึ้นมาเป็นลักษณะแบบนี้ แรงขนาดนี้"
https://www.facebook.com/teeneedotcom