ไม่บอกก็รู้ว่านี่ลูกใคร ‘น้องรดา’VS’แม่นุ้ย’...

งานนี้คุณแม่นุ้ย บอกเล่าถึงวินาทีสุดประทับใจ ครั้งได้เห็นหน้าลูกสาวตัวจ้อย ว่า ปลาบปลื้ม จนบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ไม่หมด 

"กำหนดคลอดจริงๆเป็นวันที่ 7 ส.ค. แต่ปรากฎว่าวันที่ 1 ส.ค. ระหว่างที่ออกไปทานข้าว เดินดูของกับเพื่อน กลับรู้สึกปวดปัสสาวะระหว่างที่เข้าห้องน้ำ ก็มีอาการน้ำเดิน มีน้ำคร่ำไหลออกมา จากที่สอบถามคุณหมอมานุ้ยก็รู้เลยว่ามาแล้วแน่นอนเลย ก็ตรงมาที่โรงพยาบาลเลย แต่เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว คุณหมอยังมาไม่ถึง ก็ต้องตามกันฉุกเฉิน แต่ทีมแพทย์บอกว่ายังมีเวลาอีก 12 ชั่วโมง เราเลยใจเย็นได้ หลังจากคุณหมอมาถึงก็บล็อกหลังแล้วผ่าคลอด เป็นการคลอดที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็ตื่นเต้นกันมาก

ตอนน้องออกมาเรายอมรับเลยว่าอยู่ในภาวะอึ้ง แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาเอง คืออยากรู้ว่าเค้าปลอดภัยไหม คำแรกที่ถามคุณหมอคือน้องโอเคไหมคะๆ คือเป็นห่วงเค้ามากกว่า แต่พอเค้าร้องได้เสียงดังเราก็โล่งใจ เราเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อเป็นแม่เลยว่าแม่มีบุญคุณอันใหญ่หลวง เราห่วงเขามากกว่าตัวเอง ยังไงก็ได้จะต้องพยายามมีน้ำนมให้เค้าเต็มที่ น้องก็แข็งแรงดีค่ะ มีน้ำหนัก 2,506 กรัม เกินเกณฑ์ที่จะต้องเข้าห้องอบมาแค่ 6 กรัม ตอนนี้คุณแม่ปอนด์ได้เตรียมถอยรถตู้ให้นุ้ยกับลูกเอาไว้ใช้ แม่นุ้ยก็เตรียมดูแลหลังคลอด คุณหมออนุญาตให้กลับวันพรุ่งนี้ แต่นุ้ยอยากจะอยู่เรียนรู้วิธีการเลี้ยงลูกก่อน เลยขอพักอยู่ที่โรงพยาบาลอีกประมาณ 1 สัปดาห์ คือต่อไปเราก็ต้องพยายามฟื้นตัวเองให้เร็วที่สุดค่ะ เพื่อเตรียมดูแลเค้า สำหรับงานคงรับน้อยลงค่ะ อยากเลี้ยงลูกเองค่ะ ถามว่าเข็ดไหมไม่เลยค่ะ เค้าคือสิ่งที่วิเศษสำหรับนุ้ย เจ็บแค่ไหนก็ทนได้