อะไรดลใจ? ไฮโซ-ไฮซ้อ... จิกเท้าระเบิดเข้าวงการบันเทิงกันให้พรึ่บ!!

ในอดีตโอกาสในการย่างเท้าเข้าสู่วงการบันเทิงและยืนหยัดด้วยลำแข้งให้อยู่ทนอยู่นานนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากซะเหลือเกินจะให้มานั่งไขว่ห้างชิลด์ๆจิบกาแฟกลางกรุงแบบชีวิตสโลว์ไลฟ์นั้นฝันไปเถอะดาราส่วนใหญ่ฐานะทางบ้านยากจนต้องยอมลำบากปากกัดตีนถีบเซย์ฮัลโหลกับอุปสรรคสารพัดสารเพ และต้องอาศัยฝีมือทางการแสดงตัวเองล้วนๆ กว่าจะได้โด่งดังเปรี้ยงปร้างจนถึงทุกวันนี้ ดราม่ายิ่งไปกว่านั้นดารามักถูกมองว่าเป็น "พวกเต้นกินรำกิน" คนไทยสมัยก่อนจึงไม่ได้ยอมรับหรือสนับสนุน ซ้ำยังเบ้ปากรัวๆใส่พวกนักแสดงเต้นกินรำกินพวกนี้อีกต่างหาก

ต่างจากในยุคสมัยนี้ที่ ดารา-นักร้อง-นักแสดง มีแฟนคลับติดตามตลอด บ้างก็ช่วยโปรโมทงานให้ บ้างก็ซื้อของกินของใช้ไปเอาใจ อีกทั้งรายได้ก็ไม่ได้มีแค่จากค่าตัวนักแสดงเท่านั้น พวกดารายังรับทรัพย์อื้อซ่าจากงานอีเว้นท์ ถ่ายโฆษณา ถ่ายแบบ หรืองานจ้างอื่นๆที่ค่าตัวสูงลิ่ว ใครที่ได้มาโลดแล่นในวงการบันเทิงกลับประสบความสำเร็จแทบทุกราย

สังเกตว่าทุกวันนี้ เราดูละคร ดูหนัง โฆษณา ก็จะเห็นหน้าตาเด็กรุ่นใหม่ๆใสกิ๊งผุดโผล่ขึ้นมาราวกับดอกเห็ด แต่ละคนไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเพียงอย่างเดียว โปรไฟล์ยังเริดอลังการ ชาติตระกูลดี นามสกุลดัง บ้านรวย มีธุรกิจเป็นพันๆล้าน การศึกษาสูงจบเมืองนอกเมืองนาอีกต่างหาก หรือที่เรียกกันง่ายๆชาวบ้านอย่างเราๆเข้าใจว่า "ไฮโซ" นี่แหละ ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในวงการ อาทิ พีช พชร จิราธิวัฒน์, จินนี่ เขริกา โชติวิจิตร (จินนี่ kamikaze) ,อมตา จิตตะเสนีย์(แพรี่พาย) ,นาตาลี เจียรวนนท์, มัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย , ดัง พันกร เละรายล่าสุดที่กำลังตกเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในโลกโซเชี่ยลเกี่ยวกับฐานะที่แท้จริง คงหนีไม่พ้น ไฮโซสาวม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา หรือที่หลายคนรู้จักจากฉายานางงามร้อยเวที เจ้าของธุรกิจและแบรนด์ความสวยความงามต่างๆมากมาย

เหตุผลง่ายๆที่หลายคนคิดได้ก็คือคนจนยังขาดโอกาส ขาดแรงผลักดันจากคนข้างหลัง พวกหน้าตาหล่อสวยแต่จน ก็อยากจะเข้าวงการ เเต่ก็ต้องอาศัยเวทีการประกวด ที่ยังต้องใช้เงินทุนมากพอ มานั่งรอใช้ความสามารถที่มีก็ไม่ทันกิน แถมโอกาสพบปะผู้คนหรือมีเส้นสายสนิทชิดเชื้ออยู่เบื้องหลังมาก่อนในวงการชักพาก็ยาก เลยไม่มีใครเห็นความสามารถที่แท้จริงซักที แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับว่า ถ้าทุกคนหน้าตาดี มีความสามารถกันหมด ทุกคนเป็นดาราได้ แต่คนที่มีทุนหนัก ทุนผลักดันสูง เครือข่ายดีกว่า เส้นสายดีกว่า มีฐานะดีเป็นที่รู้จักในสังคมย่อมมีโอกาสมากกว่าเป็นธรรมดา มีเงินซะอย่างทำอะไรก็ได้... จะเอาไปร่ำเรียนการแสดง เรียนร้องเพลงเปิดโอกาสให้ได้รู้จักคนในวงการ อีกทั้งมีเงินก็ซื้อความสวยความหล่อ เนรมิตผิวสวยหน้าใสประกายออร่าขึ้นมาได้ดั่งใจ พ่อแม่ก็สนับสนุนชักจูงหอบกระเตงลูกตัวเองไปฝากกับผู้จัดละคร ซึ่งแทบจะไม่ต้องอ้อนวอนขอเข้าวงการอะไรมากมาย เพียงบอกว่าเป็นไฮโซทำธุรกิจใหญ่โตนู่นนี่ก็ลอยลำเช้ามาได้สบายๆ

ส่วนผลตอบแทนที่แท้จริงของคนที่อยากเป็นดารา คือ "ชื่อเสียง" เดี๋ยวนี้วงการมายากลายเป็นวงการที่มีอนาคตสดใส จะดารา นักร้อง นักแสดง ซุปตาร์-เซเลบ อะไรก็ได้ จาก คนรวยก็จะกลายเป็นคนดัง และเป็นจุดสนใจในทันที อย่างน้อยๆก็ช่วยสร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเองและวงศ์ตระกูล ได้แสดงฐานะทางสังคม รวมถึงยังหวังผลช่วยสนับสนุนต่อยอดทางธุรกิจครอบครัว การเจรจาพูดคุยทำอะไรๆต่อไปมันก็ง่ายดายขึ้นเป็นกอง มากกว่านั้นก็เป็นเรื่องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการที่ วินวินกันทั้งคู่ ทั้งตัวไฮโซเอง และทางผู้ใหญ่ต้นสังกัดไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องค่าตัว ค่าโปรโมท ค่าลงทุนลงแรงปรุงแต่งปรับลุคและบุคลิกภาพกันเท่าไหร่ บางทีช่างแต่งหน้าช่างทำผมแต่งตัวหรือว่าชุดก็ยังเตรียมกันมาเอง ต้นสังกัดแทบไม่ต้องลงทุนเลยด้วยซ้ำ เรียกว่าพร้อมสรรพเลยก็ว่าได้