“แตงโม” ลั่นถาม “โตโน่” หมดรักแล้วทำไมไม่ลบรอยสัก ไม่แน่ใจรักนี้จบแล้วจริงหรือ??

“แตงโม” ลั่นถาม “โตโน่” หมดรักแล้วทำไมไม่ลบรอยสัก ไม่แน่ใจรักนี้จบแล้วจริงหรือ??

เจอมรสุมของชีวิตครั้งใหญ่มาแล้ว สำหรับนักแสดงสาวสุดมั่น "แตงโม-ภัทรธิดา"  ที่เกือบจบชีวิตลงเพราะพิษรักจากอดีตสามีอย่างนักร้องหนุ่ม "โตโน่ ภาคิน"  หลังทั้งคู่แยกทางกัน  ล่าสุดก็หันมารับงาน Meet & Greet กับลูกค้าโตโยต้า บัสส์ สาขาเพชรเกษม 88 เป็น ครั้งแรกหลังเกิดเรื่องราวดังกล่าว พร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใส พร้อมออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนอย่างหมดเปลือก


วันนี้แฟนคลับตามมาให้กำลังใจเยอะมาก?

"ขอบคุณมากค่ะ"

 

สวยขึ้น ดูสดชื่นขึ้น?

"จริงเหรอคะ เป็นเพราะแต่งหน้ามากกว่าค่ะ สภาพจิตใจตอนนี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับค่ะ ทุกอย่างอยู่ที่กำลังใจ ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจมากค่ะ เวลามันผ่านไปแล้ว พอเรามีสติอะไรๆ ก็ดีขึ้นค่ะ"

 

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

สภาพจิตใจตอนนี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับคะ  ทุกอย่างก็อยู่กับกำลังใจคนรอบข้าง สำหรับใครหลายๆคนที่กำลังใจก็ขอขอบคุณมากๆคะ ขึ้นอยู่กับเวลาด้วย เวลามันก็ผ่านมา เวลาที่เรามีสติแล้วเนี่ยอะไรๆ อะไรมันก็ดี

 

ตอนนี้ถือว่าทำใจได้รึยัง?

ถามว่าทุกวันนี้ทำใจได้รึยัง ในเรื่องของทำใจ  โม  ว่ามันเลยจุดนั้นมาแล้ว มันเป็นเรื่องของการให้กำลังใจกันมากกว่า มันเป็นความรักที่เราเห็นเค้าทำอะไรแล้วประสบความสำเร็จ เราก็อยากสนับสนุนแบบนั้นมากกว่าคะ

 

ตอนนี้ได้คุยกันไหม?

คุยบ้างๆคะ ก็มีคุยบ้าง (เค้าว่าไงบ้าง?) ก็คุยเรื่องทั่วไปคะ สู้ๆทำงานสู้ๆอะไรอย่างนี้คะ

 

ตอนนี้เรายังคิดถึงอยู่ไหม?

ในฐานะคนเคยรักกันนะคะ ยังไงก็ไม่มีวันตัดกันขาดอยู่ดี

 

 


 “แตงโม” ลั่นถาม “โตโน่” หมดรักแล้วทำไมไม่ลบรอยสัก ไม่แน่ใจรักนี้จบแล้วจริงหรือ??

พอเปลี่ยนสถานะเป็นเพื่อนแล้วคุยกันดีขึ้นไหม?

“ดีคะ ดีกว่าเดิมเยอะเลย ดีกว่าตอนที่เราใกล้ชิดกันมากกว่านี้ เพราะเวลาบางทีใกล้ชิดกันเกินไป พอเวลายังไม่ลงตัวอะไรหลายๆอย่าง พอห่างกัน มันก็จะดีขึ้น คืออย่างที่เค้าบอกนะคะ กลับมาได้แต่ไม่ใช่ฐานะเดิมได้ คือเราสบายใจกันมากเมื่ออยู่ในสถานะแบบนี้ สถานะที่คงที่แบบนี้ แต่ถามว่าในอนาคตจะกลับมาเป็นสถานะเดิมได้ไหม มันคงเป็นสถานะเดิมไม่ได้ แต่อาจเป็นสถานะใหม่ที่มั่นคงกว่าเดิมก็ได้ เราก็ยังไม่รู้”

 

หลังจากที่มาเป็นเพื่อนกัน รับได้รึยัง?

“เราก็ไม่ใช่ว่ารับไม่ได้ ไม่เคยว่ารับไม่ได้”

 

ทางด้านคุณพ่อเป็นยังไงบ้าง?

“คือโตโน่คือคนในครอบครัวเราคนนึงนะคะ เมื่อเวลาไม่ได้อยู่ในสถานะเดิม ไม่จำเป็นว่าจะต้องตัดพ่อ ตัดลูกกัน อย่างนี้นะคะ ทางบ้านเราก็ยังรู้สึกกับเค้าว่าเป็นคนในครอบครัว อาจจะลดลงเหลือเป็นพี่น้องกัน เพื่อนกันอย่างนี้นะคะ หรือว่าจะเป็นสถานะใดก็ตาม ก็อย่างที่ทุกคนเห็นนะคะว่าเราสองคนรักกันมากแค่ไหน เพราะฉะนั้นเนี่ย วันนึงจะเปลี่ยนสถานะไปมันไม่ได้หมายความว่าความรักมันจะหายไปด้วย”

 

มีโอกาสได้เจอกันรึยัง?

“โม ไม่ได้เจอเลยคะ มีแต่คุณพ่อเจอ คุณพ่อเจอบ่อย โมก็แอบสงสัยว่าพ่อรู้ได้ไงว่า โน่ ชอบดอกไม้อะไร”

 

คุณพ่อเป็นกาวใจไหม?

“คุณพ่อโม และ คุณแม่โน่ จะไม่ยุ่งเรื่องการตัดสินใจเลยคะ เค้าก็จะอยู่ในสถานะพ่อลูกของเค้านะคะ มันก็จะไม่เกี่ยวกัน”

 

ณ วันนี้ยังเศร้าอยู่ไหม?

“ไม่แล้วคะ(เสียงหนักแน่น)”

 

แล้วของ โตโน่ ที่บ้านละ?

“ก็บอกเค้าไปแล้วคะว่าวันนี้ๆจะไม่อยู่บ้านนะ ให้เข้ามาเก็บของได้ เค้าก็เข้ามาเอามอเตอร์ไซ แต่ของทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม”

 

แสดงว่าเรายังไม่พร้อมเจอหน้าเค้าเหรอ?

“เค้าเคยบอกว่า ถ้าเค้าจะมาเก็บของแล้วไม่อยากเจอ โม ก็เค้าอาจจะยังไม่พร้อม โม ก็โอเค บอกว่าวันไหนที่ โม ไปถ่ายละครให้เค้าเข้ามาเก็บ”

 

เราโอเคใช่ไหม ถ้าเค้ามาเอาของ?

“โม ไม่เคยไม่โอเคนะคะ (เห็นเค้าบอกว่ากลัวเราทำใจไม่ได้?) เค้าก็บอกเหมือนกันว่าเค้าจะมาเอาของ เค้าก็ไม่อยากเห็น โม อยู่ในบ้านเหมือนกัน ตอนนี้เค้าก็เข้ามาเอามอเตอร์ไซ กับเหมือนแต่งงาน ”

 

ส่วนอีกหนึ่งกระแสเค้าบอกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการจัดวางของเราเอง?

“อันนี้ไม่ขอให้ความสำคัญดีกว่าคะ ไม่ขอให้ราคากับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ที่ไม่มีตัวตนดีกว่า”

 

น้อยใจกับข่าวนี้ไหม?

“ไม่เลยคะ ไม่รู้สึกอะไรเลยคะ คนที่เค้าคิดได้แบบนั้น โม ว่านอกจากไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้ว อยู่เฉยๆดีกว่า (พอมีกระแสนี้แล้วงานเยอะขั้น?) โม ว่าพอเราคืนกันและกันให้กับสังคม เหมือนคืนช้างสู่ป่า คือเราต่างคืนกันและกันให้สังคม มันก็เป็นปกตินะคะที่จะมีคนที่อยากจะรู้เรื่องของเราในมุมส่วนตัวเพราะฉะนั้น ทางเค้าก็งานเยอะ ทางเราก็งานเยอะ ก็ขอบคุณผู้ใหญทุกคนคะ”

 

ตอนนี้ก็ถือว่าจบกันด้วยดีเป็นเพื่อนกันได้?

“ก็ไม่รู้ว่ามันจบรึเปล่านะ แต่ว่าตอนนี้โอเค”

 

มุมมองความรักเราเปลี่ยนไปไหม?

“เปลี่ยนคะเปลี่ยน จากเมื่อก่อนที่เคยคิดว่าเรายึดมั่นกับคำสัญญา ตอนนี้เราก็เพิ่งจะรู้ความหมายของคำว่ารักแบบไม่หวังผลตอบแทนมันเป็นยังไงไม่เคยคิดว่าจะทำได้”

 

ถ้ามีคนใหม่เข้ามา เราพร้อมเปิดใจไหม?

"ไม่เปิดค่ะ ขอปิดค่ะ ปิดตายค่ะ ไม่คิดจะมีแฟนแล้ว ณ ช่วงเวลานี้นะคะ แต่ถ้าในอนาคตอีก 5 ปี อยากให้มาถามใหม่อีกที แต่ตอนนี้โมไม่พร้อมค่ะ ผู้หญิงได้รักใครแล้วอ่ะเนอะ"

 

แต่เราไม่ได้เข็ดกับความรักใช่ไหม?

"เข็ดค่ะ"

 

กับรอยสักที่เคยสักไว้ โตโน่ไม่เอาออก แล้วเราล่ะ?

"โมก็ไม่เคยคิดที่จะเอาออกเหมือนกันค่ะ เราเคยคุยกันเหมือนกันว่าไม่คิดที่จะเอาออก โมเลยไม่รู้ไงว่าจริงๆ แล้ว มันจบกันจริงๆ หรือเปล่า"

 

หรือว่าเราอยากให้เขาเอารอยสักออก?

"ห่ะ! เราไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับการตัดสินใจในร่างกายของเขาหรอก แต่เขาบอกว่าจะไม่เอาออก โมก็ไม่เอาออกเหมือนกัน แต่โมก็บอกไปว่า ฉันสมน้ำหน้าเธอมากเลย เพราะชื่อฉันมันยาวมาก (หัวเราะ)"

 

สุขภาพร่างกายเราตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

"โอเคค่ะ ปกติดี"

 

น้าหงา แต่งกลอนให้กำลังใจเรา?

"ขอบคุณน้าหงามากๆ เลยค่ะ คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าน้าหงาแต่งกลอนให้ แต่โมเห็นแค่ผ่านๆ ท่องไม่ได้ ก็ขอบคุณน้าหงามากๆ เลยค่ะ ที่ให้กำลังใจ และก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจทุกๆ คนที่ให้ค่ะ"


 “แตงโม” ลั่นถาม “โตโน่” หมดรักแล้วทำไมไม่ลบรอยสัก ไม่แน่ใจรักนี้จบแล้วจริงหรือ??


 “แตงโม” ลั่นถาม “โตโน่” หมดรักแล้วทำไมไม่ลบรอยสัก ไม่แน่ใจรักนี้จบแล้วจริงหรือ??


 “แตงโม” ลั่นถาม “โตโน่” หมดรักแล้วทำไมไม่ลบรอยสัก ไม่แน่ใจรักนี้จบแล้วจริงหรือ??


 “แตงโม” ลั่นถาม “โตโน่” หมดรักแล้วทำไมไม่ลบรอยสัก ไม่แน่ใจรักนี้จบแล้วจริงหรือ??


 “แตงโม” ลั่นถาม “โตโน่” หมดรักแล้วทำไมไม่ลบรอยสัก ไม่แน่ใจรักนี้จบแล้วจริงหรือ??


 “แตงโม” ลั่นถาม “โตโน่” หมดรักแล้วทำไมไม่ลบรอยสัก ไม่แน่ใจรักนี้จบแล้วจริงหรือ??

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์