ฟอร์ด เข้าพบ ตร.มักกะสัน ยันไม่ละเมิดลิขสิทธิ์อาร์เอส

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 มิ.ย. ที่ สน.มักกะสัน นายสบชัย ไกรยูรเสน หรือฟอร์ด นักร้องหนุ่ม พร้อม นายพีระพงษ์ โกสัยสุก ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ไพรัส ไสยเลิศ พงส.ผนก.สน.มักกะสัน ภายหลังได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนกรณีที่บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายพศวัต กัลยาณสันต์ ผู้จัดการส่วนตัวและผู้จัดงาน คอนเสิร์ต ฟอร์ด แอนด์ เฟรน ที่มีการจัดแสดงขึ้นที่เอ็มเธียร์เตอร์ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์

ฟอร์ด กล่าวว่า ในวันนี้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนหลังมีหนังสือเชิญตัวให้มาเป็นพยานในการฟ้องผู้จัด คอนเสิร์ต ฟอร์ด แอนด์ เฟรน เมื่อปี 2555 ที่เอ็มเธียเตอร์ ซึ่งผู้จัดงานครั้งนั้นก็คือคุณพศวัต กัลยาณสันต์ ผู้จัดการส่วนตัวของผม รวมทั้ง ตัวผมเองด้วย ซึ่งการจัดครั้งนั้นเป็นเพียงคอนเสิร์ตเล็กๆ แค่ 800 ที่นั่งเท่านั้น และมีการซื้อลิขสิทธิ์จากที่ต่างๆ อย่างถูกต้องทั้งคอนเสิร์ต นอกจากนี้ ได้มีการติดต่อไปทางอาร์เอสเพื่อที่จะขอซื้อลิขสิทธิ์เช่นกัน แต่ไม่ได้ซื้อมาเล่นเนื่องจากว่าราคาข้องข้างสูงมาก จึงตัดสินใจไม่นำเพลงที่เป็นลิขสิทธิ์ของอาร์เอส ขึ้นไปร้อง

หลังจากนั้น ได้มีหนังสือเรียกให้ผมเป็นพยานในการให้ปากคำโดยทางอาร์เอส ระบุว่าคอนเสิร์ตครั้งนั้นมีการละเมิดเพลงของอาร์เอสจจำนวน 1 เพลงชื่อเพลงน้ำในตา ซึ่งเป็นเพลงในอัลบั้มของพี่อิทธิ พรางกูล และทางเราได้ดูข้อเท็จจริงในคลิปคอนเสิร์ตครั้งนั้นพบว่าไม่ใช่เพลงน้ำในตา แต่เป็นเพลงชื่อว่าน้ำตา ที่เกิดมาจาก 2 เพลง คือ เพลง "เปลืองน้ำตา" ของนายมนัสวิน นันทเสน หรือติ๊ก ชีโร่ และ เพลง "น้ำในตา" นายอิทธิพล เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา หรือเวสป้า อาร์สยาม เป็นผู้แต่ง นำมารวมกันก่อนแต่งเป็นเพลงใหม่ คือ "น้ำตา" ซึ่งก็มีการจดลิขสิทธิ์ใหม่เหมือนกันแต่ว่าลิขสิทธิ์ใหม่จดนั้นไม่ได้รวมดนตรีกรรม หรือการนำมาเล่นสด และผมคิดว่าในเบื้องต้นทางเราไม่ได้มีการละเมิด ทั้งนี้ได้นำหลักฐานอย่างไม่เป็นทางการมามอบให้กับพนักงานสอบสวน

ฟอร์ด กล่าวต่อว่า ในคอนเสิร์ตครั้งนั้นเนื้อร้องของเพลง "น้ำตา" ที่มีโฟร์ท นฤมล จิวังกูร เป็นผู้ร้องคู่กับ อู๋ ธรรพ์ธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา โดยมีเนื้อเพลงในช่วงที่โฟร์ทขับร้องตรงกับเนื้อเพลงของเพลง "น้ำในตา" แต่ว่าจริงๆ แล้วเพลงที่ร้องได้กลายเป็นเพลงใหม่เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว เพราะฉนั้นในทางลิขสิทธิ์โดยเบื้องต้นเราไม่น่าจะละเมิด ในส่วนของการมาเป็นพยานในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงมิถุนายน ปี55 มีหนังสือให้ทางผู้จัดการส่วนตัวไปเสียค่าปรับจำนวน 200,000 บาทในกรณีที่ละเมิดนำเพลงไปร้องครึ่งเพลง แต่ตกลงกันไม่ได้จนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาได้มีการรื้อคดีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง

หลังจากนั้นทางเราได้มีการเข้าไปตรวจสอบกับทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา พบว่าเพลง "น้ำในตา" มีการจดในส่วนของห้ามมีการบันทึกเสียงและ ห้ามดนตรีกรรม หรือนำไปแสดงสด แต่เพลง"น้ำตา" จดเพียงในส่วนของสิ่งบันทึกเสียง หรือห้ามนำไปทำซ้ำ แต่ไม่ได้มีการจดในส่วนของดนตรีกรรม ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าที่จะละเมิด และผมขอยืนยันว่าทางเราไม่มีเจตนาที่จะละเมิดนำเพลงไปร้องโดยพลการแต่อย่างใด

ด้านนายพีระพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท อาร์เอส จำกัด ได้เรียกค่าเสียหายในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ จำนวน 2 แสนบาท ซึ่งต้องรอพนักงานสอบสวนทำการสรุปสำนวนอีกครั้งว่า ละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ ยังไม่สามารถปิดคดีได้ ด้วยหลักฐานและเอกสารยังไม่ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ จนกว่าจะมีคำสั่งจากศาลต้องรอกรมทรัพย์สินทางปัญญานำเอกสารมายืนยันว่าคุณฟอร์ดและผู้จัดละเมิดลิขสิทธ์ ซึ่งประมาณอาทิตย์หน้าตนจะเดินทางไปกรมทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อนำเอกสารไปชี้แจ้งอีกครั้ง