"สำหรับคอนเสิร์ตตอนนี้พร้อมมาก เพราะซ้อมต่อเนื่องมานาน ตัวเจมส์ก็ซ้อมจริงๆ เกือบ 2 เดือน ซ้อมร้องซ้อมเต้นตกวันละ 8-10 ชั่วโมง ถ้าวันไหนถ่ายละครกลับมาเขาก็ซ้อมต่อ ยอมรับว่าคาดหวังมาก เพราะโดยส่วนตัวคงไม่มีโอกาสมาทำอะไรแบบนี้ เพราะเจมส์เป็นนักแสดงไม่ได้เป็นนักร้อง แต่เมื่อมีโอกาสและมีผู้สนับสนุนเราก็อยากเสี่ยง เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกหรือเปล่า โชคดีที่เขาชอบทำกิจกรรมแบบนี้ ถ้าพูดถึงนักแสดงที่มาทำโชว์ คงต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าปัจจุบันการเป็นนักแสดงอย่างเดียวมันไม่เพียงพอ ผู้สนับสนุนต้องการให้นักแสดงไปร่วมงานอีเวนท์ ซึ่งการทำอีเวนท์ก็ต้องมีร้องมีเต้น เราเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ เราต้องตอบโจทย์ลูกค้าให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป" ปิ๊ก กล่าว
ผู้จัดการคนดังยังกล่าวถึงกระแสวิจารณ์ในรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ว่า "เรื่องกระแสวิจารณ์ผมได้เห็นและได้ยินมาบ้าง อยากบอกว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ เราก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกคน เพราะคนที่พูดถึงส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ติดตามผลงานของเจมส์และเอาใจช่วยอยู่แล้ว การไปออกรายการไม่ได้เป็นการฆ่าเจมส์ คือรายการเขาอยากให้ใช้เสียงจริงๆ แต่การที่จะร้องสดไม่ใช่เรื่องง่ายและยิ่งเป็นตอนเช้า ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าเป็นช่วงที่เสียงไม่ค่อยมี ซึ่งเราไม่ได้กดดันเรื่องนี้นะ เจมส์ไม่นอยด์กับเรื่องนี้เลย เขายังบอกกับผมว่าจะกลับไปพัฒนาตัวเอง ส่วนเบลล่า ก็เป็นคนน่ารักมีน้ำใจ เขาบอกเราตลอดว่าเรื่องร้องเรื่องเต้นไม่ใช่ทางของเขา ที่เราให้เขามาร่วมโชว์เพราะเจมส์และเบลล่าเป็นคู่ขวัญกันมาตั้งแต่ละครเรื่อง "พุฒิภัทร" และตอนนี้เขากำลังถ่ายละครเรื่อง "ปดิวรดา" ร่วมกัน เราก็อยากให้แฟนๆ ได้เห็นคู่ขวัญในโชว์ครั้งนี้ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็เห็นดีด้วย" ผู้จัดการคนดังกล่าว
ผู้จัดการเจมส์จิยังได้กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องจัดคอนเสิร์ตถึง 2 รอบ เป็นเพราะมีเรื่องของผู้สนับสนุนและสปอนเซอร์เข้ามา
https://www.facebook.com/teeneedotcom