อีกมุมอบอุ่น ของ ไฺฮโซตั๋ม และ ครอบครัว!

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย อีกมุมอบอุ่น ของ ไฺฮโซตั๋ม และ ครอบครัว!

ข่าวดาราล่าสุด star.teenee.com
บันเทิงดารา entertain.teenee.com

บ้านที่เข้าอกเข้าใจกัน ไม่ว่าโลกภายนอกบ้านจะร้อนเป็นไฟแค่ไหนเมื่อเดินเข้าชายคาพร้อมหน้าด้วยพ่อแม่ พี่น้อง ก็ร่มเย็นหายร้อนเป็นปลิดทิ้ง เหมือนดั่งความรู้สึกแรกเมื่อได้เข้ามายังรั้วบ้านหลังใหญ่ ย่านปทุมวันหน้าถนนเส้นที่ไม่เคยเงียบเหงา แต่บรรยากาศภายในบ้าน "ลีนุตพงษ์" กลับถูกโอบล้อมด้วยสายสัมพันธ์เน้นแฟ้นของครอบครัวใหญ่ อบอุ่นเงียบสงบเป็นส่วนตัว แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับ 4 ครอบครัวใหญ่ มีทางเชื่อมส่วนระเบียงให้ได้ออกมาพบปะกันได้ทุกบ้าน โดยวันนี้สาวฮอต เจ้าของนิยามความแรงที่สุดในตอนนี้อย่าง "ตั๋ม" วิชชุดา ลีนุตพงษ์ ได้ออกมาต้อนรับ พร้อมพาชมส่วนหนึ่งของบ้านใหญ่อันเป็นที่พักของครอบครัวเธอพร้อมเปิดใจพูดคุยกันอีกครั้ง แต่เป็นเรื่องราวของครอบครัวที่รักและอยู่ด้วยกันบนหลักของความ "เข้าใจ" มาตลอดชีวิตของตัวเธอเอง

เมื่อเดินมาชั้น 2 ในโซนห้องรับแขกใช้เฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลอบอุ่น มีของประดับตั้งโต๊ะสวยงามได้จากการเดินทางท่องเที่ยวในที่ต่างๆ พร้อมหน้าด้วยสมาชิกภายในบ้านกำลังนั่งพูดคุยกันออกรส นำโดย วิเชียร ลีนุตพงษ์ เจ้าสัวแห่งอาณาจักรรถยนต์ยนตรกิจกรุ๊ป ตามด้วยคู่ชีวิต "แตน" พฤทธิดา สาวตั๋มและตัวแทนน้องชาย "โต" สุวิชชา กับลูกสะใภ้ "ปอ" ปอแก้ว ที่วันนี้ติดงานช่วงบ่ายจึงส่งลูกสาววัย 2 ขวบ "น้องตินติน" ด.ญ.ตฤณ ลีนุตพงษ์ มาสร้างสีสันในการพูดคุยครั้งนี้ ให้สนุกปนเสียงหัวเราะมากกว่าเดิม สมเป็นครอบครัวอารมณ์ดี สบายๆ อย่างที่สาวตั๋มเกริ่นเอาไว้หลังได้รับการเชื้อเชิญให้เปิดบ้านในวันนี้

Ooo บ้านนี้หวงลูกมาก

ตั๋ม : เมื่อก่อนเราอยู่กันที่นี่ 4 คน พ่อแม่ พี่สาว น้องชาย พอน้องชายแต่งงานก็แยกไปอยู่อีกบ้านหนึ่ง ส่วนตั๋มคุณพ่อไม่ให้แยกบ้านไปไหนนอกจากเราจะแต่งงานค่ะ ทุกวันนี้ใครๆ ก็ถามว่าเราไม่มีคอนโดแยกอยู่จริงหรือเห็นกลับบ้านตลอด คือผู้หญิงสมัยใหม่ก็อยู่คนเดียวได้ใช่ไหมคะไม่ใช่เรื่องแปลก

คุณพ่อ : (หัวเราะแล้วพูดเสริมขึ้นทันที) ไปอยู่คนเดียวก็อันตราย อยู่ข้างนอก เหงาแล้วจะทำยังไงล่ะ? ก็อยู่กับเราดีกว่าไม่เหงาด้วย อยู่คนเดียวร้องห่มร้องไห้มาใครจะมาสนใจ

ตั๋ม: ขนาดตอนเรียนที่อังกฤษนะ ตั๋มก็ไปกับน้องชายตลอดค่ะ มีบ้านอยู่ที่นู้นกันสองคน คุณพ่อคุณแม่ก็จะแวะไปอยู่ด้วยเดือนเว้นเดือน ตั้งแต่ไฮสคูลจนถึง ป.โท ก็ไม่เคยห่างจากครอบครัวเลยจริงๆ พอโตมาน้องชายคุณพ่อคุณแม่จะปล่อย สามารถไปเที่ยวกลางคืนได้ด้วย จำได้ว่าตั๋มเคยเกาะหน้าต่างดูน้องได้ออกไปเที่ยวกลางคืนด้วย แล้วน้องก็ไม่เอาตั๋มไปด้วยนะ (หัวเราะ)

พ่อ : สำหรับลูกสาวจะหวงมากครับ แต่ลูกชายจะห่วงๆ มากกว่า ไม่หวงเขาเป็นผู้ชายเราก็ปล่อยไปไหนได้ตามสบาย คอยควบคุมเขาแค่เรื่องการพนัน ยา

เสพติด บอกลูกทุกคนเลยว่าอย่าไปยุ่ง เป็นคำสอนประจำครอบครัว สองอย่างนี้ถ้าติดไปแล้วจะลำบาก อย่างอื่นไม่เป็นไรหรอก เขาก็เชื่อฟังดี ทั้ง 2 คน ไม่เคยยุ่งเรื่องพวกนี้เลย

Ooo คุณพ่อที่ตามใจและพร้อมผลักดันทุกเรื่อง

คุณพ่อ: อาจเป็นความรู้สึกมาจากสมัยผมเด็กๆ เราเรียนหนังสือหนักมาก ถูกสอนมาต้องท่องจำนู้นนี่ ซึ่งท่องแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่เลย ได้ใช้บ้าง ไม่ได้ใช้เลยก็มี ผมว่าวิธีนี้ไม่ถูก พอมีลูกก็อยากให้เขาได้คิดเอง แม้กระทั่งเลือกโรงเรียนให้ก็จะเลือกในแนวทางหลักสูตรให้มีความคิดอ่านเป็นของตัวเอง พอโตลูกชายจะไม่ค่อยดื้อนะ ส่วนตั๋มเขาก็จะเป็นแบบนี้แหละทั้งแรง ทั้งตรง ซึ่งการเป็นคนตรงไปตรงมาดีอยู่แล้ว เราจะไปเปลี่ยนคาแรกเตอร์เขาไม่ได้หรอก แม้เรื่องอยากทำอาชีพอะไร ก็ไม่เคยบังคับอะไรที่เขาชอบที่เขาคิดว่าตัวเองจะทำได้ดี ผมจะมีหน้าที่ผลักดัน

ตั๋ม: แต่บางทีความคิดคุณพ่อเขาจะเกินพิกัดมากนะคะ อย่างตั๋มเคยบอกพ่อว่าอยากเป็นครู เขาก็บอกว่าดีสิจะเปิดโรงเรียนให้เลย ซึ่งเราก็ตกใจบอกพ่อว่าไม่ใช่นะ ตั๋มอยากเป็นแค่ครู เป็นครูมาสอน แล้วกลับบ้าน ไม่ได้อยากเป็นเจ้าของโรงเรียน ดูแลเป็นธุรกิจ ใจตั๋มอยากแค่มาสอนหนังสือแล้วกลับบ้านเท่านั้นเอง คุณพ่อก็จะมองว่าจะเป็นครูไปตลอดชีวิตหรือ ถ้าไม่มีธุรกิจของตัวเองชีวิตจะมั่นคงได้ยังไง

คุณพ่อ: ผมเห็นเขาชอบเล่นกับเด็ก ชอบไปเลี้ยงเด็กกำพร้า แบบนี้ก็เปิดโรงเรียนช่วยรับพวกเขามาสอนก็ได้ไม่ต้องไปหวังทำรายได้ เอากำไรหรอก เป็นความสุขเราก็ทำไปสิ โตแล้วต้องมีความรับผิดชอบต่ออะไรสักอย่างหนึ่ง แล้วพ่อเชื่อว่าจะพัฒนาไปได้แน่ๆ เพราะเรามีความรู้ไปได้หลายอย่างจะทำเป็นธุรกิจ หรือการกุศลก็ได้ แต่ตั๋มนี่จะไม่เอาๆ อย่างเดียว (คุณพ่อหันไปบอกกับลูกสาวหัวดื้อ)

ตั๋ม : ตอนนี้งานที่ลงตัวสุดก็ช่วยที่บ้านค่ะ เป็นผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และกรรมการผู้จัดการบริษัทเอส แอล อินเตอร์เนชั่นแนล ออโตโมบิล จำกัด รับผิดชอบดูแลงานพีอาร์กับมาร์เก็ตติ้ง

Ooo เหมือนแต่ต่างของ 2 สาวบ้านนี้

เมื่อพ่อลูกพูดถึงธุรกิจก็ดูจะเป็นเรื่องต้องต่อรองกันได้ไม่จบ จึงขอเบรกเมื่อพูดถึงคุณแม่ที่เตรียมของให้น้องตินตินเสร็จ แล้วเดินมานั่งร่วมวงสนทนา

ตั๋ม : เราชอบช็อปปิ้ง เสริมสวย ดูแลตัวเองเหมือนกันค่ะ เรื่องช็อปเราจะไปด้วยกันบ่อยแต่ซื้อคนละสไตล์ คนละอย่างกันเลย คุณแม่จะแนวไม่โป๊ แต่ตั๋มจะเปรี้ยว มีแหว่งๆ เว้าๆ ตลอด (หัวเราะ)

คุณแม่: ของแม่อะไรก็ได้ค่ะ แต่ห้ามโป๊เลย ตั๋มจะแซวแม่ตลอดว่าไม่มีใครใส่เสื้อผ้าเป็นแม่ชีเหมือนแม่แล้ว เปิดนิดหน่อยก็ไม่ได้

คุณพ่อ : จะมีเรื่องอารมณ์ร้อนแม่ลูกเขาจะคล้ายๆ กันมีปี๊ดมาบ้างแต่ไม่เหมือนกัน แม่เขาอารมณ์ร้อนเหมือนไม้ขีดไฟ จุดติดมาไฟก็มีวูบดียวแล้วก็หาย แต่ตั๋มร้อนมาแล้วจะไม่หยุด ติดๆ ดับๆ ไม่หยุดสักที เขาไม่ชอบทิ้งเรื่องที่ไม่พอใจจะคุมาเรื่อย แต่ก็จะหยุดได้ในเมื่อปัญหาเขาคลี่คลายได้แล้ว ถ้าไม่เคลียร์จบก็จะคิดอยู่อย่างนั้น

Ooo ลูกสาวเป็นข่าวดังครอบครัวรับมือยังไงบ้าง

กระแสของความตรง แรงของสาวตั๋ม ทั่วโลกโซเชียลมีเดีย นับเป็นสถานการณ์ที่คุณพ่อรับรู้ในความคิดของลูกสาวตลอด จนถึงวันที่กลายเป็นข่าวก็ยังเคารพการตัดสินใจของลูกสาวเสมอ

คุณพ่อ: ตอนนั้นเขามาคุยกับพ่อก่อน เราก็ถามเหตุผล ถามซ้ำให้มีสติคิดให้แน่ใจว่าที่เขาจะทำน่ะถูกต้องไหม ถ้าคิดว่าถูกต้องพ่อก็สนับสนุนให้ทำนะ ก็ช่วยเพราะเขามั่นใจแล้ว ขณะเดียวกันเราก็ดูพฤติกรรมเขามาก่อนหน้านั้นแล้วด้วย เขาไม่ได้ทำอะไรที่ผิดศีลธรรม โอเคว่าลูกเป็นคนแรง เป็นคนตรง แต่เขาก็ไม่ได้ประพฤติผิดอะไร

คุณแม่: วันที่เป็นข่าวใหญ่แม่ไม่รู้เลย บ่ายๆ เรายังนอนอยู่ก็มีไลน์ส่งมาเยอะแยะหยิบมาดูเห็นตั๋มเขาส่งข่าวมาให้ดู แม่รีบเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงเลย อะไรเนี้ย... ไม่บอกกันเลย ถ้าบอกแม่ก็คงจะห้ามเขาล่ะ

คุณพ่อ: (ยิ้ม) เขาไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก แค่คำพูดคำจาแรง แต่ไม่ไปทำร้ายใครขนาดนั้นหรอก เรารู้อยู่ เชื่อใจเขานะ

คุณแม่ : ข้อนี้แม่เชื่อนะ เพราะเขาเป็นคนพูดแรงจริงแต่จิตใจเขาไม่แรง

ตั๋ม : แต่หลังจากวันนั้นไม่มีอะไรน่ากลัวเลยค่ะ ฟีดแบ็กกลับกลายเป็นทางบวกมากกว่า มีคนมาขอถ่ายรูปมาให้กำลังใจกับเราด้วย พวกรุ่นพี่เจอตั๋มก็ทำท่ากราบเราแซวกันสนุกๆ

คุณแม่: (หันไปคุยกับลูกสาว) แม่ขอบอกอะไรนิดนึง ตั๋มเป็นคนตรงอะได้ แต่ให้คำพูดเบาลงหน่อย แสดงออกไปตรงๆ ดีแล้ว แต่คำพูดหยาบเปลี่ยนให้เบาลงบ้างก็ได้ เรื่องทุกอย่างจะโอเคหมดเลย (มองค้อนคุณพ่อ ) ส่วนป๊าก็มีแอบร้ายนะ ปล่อยให้ลูกไป เสียงบ่นน้อยๆ กลับทำทุกคนมีเสียงหัวเราะเกิดขึ้นอีก

ตั๋ม : มีเรื่องครั้งนี้ก็รู้ว่าพ่อแม่เขารักเรามากแค่ไหน อย่างแม่รู้เรื่องก็ห่วงตั๋มมากคุณพ่อจะเป็นคนไม่แสดงออกอะไรมาก แต่กลายเป็นกองทัพกุนซืออยู่ด้านหลัง พร้อมช่วยเหลือตั๋มตลอด อ้อ..เป็นเรื่องแรกๆ ที่เห็นแม่นอนไม่หลับด้วยเหมือนเป็นบาปทางอ้อมของเราจริงๆ ก็บอกให้แม่อย่าสนใจคอมเม้นท์ในโลกโซเชียลเยอะใครจะพูดอะไรก็ได้จริงไม่จริงไม่รู้กันหมดหรอก คงเป็นครั้งเดียวที่จะลงหน้า 1 หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ จากนี้ไม่เอาแล้ว ขอให้ไม่มีแล้ว ตั๋มได้รู้อะไรหลายอย่างมากพอสมควรสำหรับคนไม่แคร์โลก ไม่สนใจคนเลย

Ooo หลานรักมาเยือน

ขณะบทสนทนากำลังเข้มข้น เสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วของนางฟ้าตัวน้อย "น้องตินติน" ก็ดังมาจากหน้าบ้านสร้างรอยยิ้มของคนในบ้านให้กว้างขึ้นไปอีก แต่สาวน้อยยังเขินกล้องอยู่จึงเล่นกับพี่เลี้ยงอยู่ข้างๆ ไม่ยอมมานั่งเล่นกับคุณปู่คุณย่าในวงสัมภาษณ์

คุณพ่อ: คนนี้เขาเป็นสีสันของบ้าน เขาอารมณ์ดีทั้งวัน เล่นไม่หยุด หยุดก็ต่อเมื่อนอนหลับนั่นแหละ ถึงซนแต่กลัวแม่เขามาก ถ้าแม่พูดเขาจะไม่ดื้อเลยเชื่อฟัง ตอนนั้นเขาเล่นๆ อยู่ไม่เห็นแม่นึกว่าแม่ขึ้นไปข้างบนแล้ว ก็ปีนขึ้นมานั่งบนโต๊ะลอยหน้าลอยตา ตะโกนลั่นบ้าน "แม่มาดุเลย แม่ดุเลย" แต่ที่จริงแม่เขาเข้าห้องน้ำอยู่ พอเปิดประตูออกปึ้ง! ตินเห็นแม่แล้วหน้าเปลี่ยนสีไปเลย (หัวเราะเมื่อเล่าถึงวีรกรรมหลานสาว)

ตั๋ม : มองเขาเหมือนตั๋มตอนเด็กมากนะ ตัวอ้วนปุ๊กลุก เล่นซนๆ แบบนี้แหละ ตอนนี้ตินตินกำลังจะมีน้องนะคะ น้องสะใภ้ท้องอยู่ 4 เดือนแล้ว เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่จะวิ่งวุ่นเลี้ยงหลานกันมากกว่าเดิมอีก (ยิ้มมองไปที่คุณแม่กำลังแกะขนมให้หลาน)

Ooo เคล็ดลับครองรักมาราธอน

มีโปสเตอร์ตัดต่อรูปคุณพ่อคุณแม่ในหนังเรื่องต่างๆ อยู่ที่ห้องรับแขก สาวตั๋มบอกว่าทำให้ในวันครบรอบแต่งงาน เพราะคุณพ่อคุณแม่เป็นคนอารมณ์ดี แล้วรักกันมากแต่งงานกันมา 37 ปี เลยคิดให้เป็นพระเอกนางเอกหนังรักและหนังดังเรื่องที่ชอบ

คุณพ่อ : ตอนนั้นผมไปเรียนที่อังกฤษ ต่างคนต่างไปมาเจอกันที่โรงเรียนสอนภาษา ก็คิดว่าคนนี่แหละใช่สำหรับเรา

คุณแม่ : เราก็ไม่เคยมีแฟนเลย คบพ่อเป็นคนแรกก็แต่งงานกันเลย แต่ดูลูกมีแฟนหลายคนแล้วไม่แต่งสักที

ตั๋ม : อ้าว (หัวเราะ) คือตั๋มยินดีกับแม่นะที่เจอคู่แท้เลย แต่ให้ตั๋มเป็นแบบแม่ตั๋มก็ไม่เอา

คุณแม่ : ถ้าให้แม่เป็นแบบตั๋มแม่ก็ไม่เอานะ (หัวเราะกันลั่น) โชคดีที่พ่อดูแลเราดีไม่เคยทำให้เสียใจเลยค่ะ

คุณพ่อ : ทุกวันนี้เราก็คบกันเหมือนตั้งแต่แรก ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อยู่กันไม่มีปัญหา ไม่เคยทะเลาะกันเลย

คุณแม่: เราอยู่กันเหมือนเพื่อน เขาไม่ทะเลาะกับแม่หรอกแต่แม่อะชอบชวนทะเลาะ (หัวเราะ)

คุณพ่อ : เขาปี้ดมาแป๊บเดียว เดี๋ยวเขาก็หยุดไปเองแหละไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ยังไงก็รักกันอยู่แบบนี้มีความสุขดี

คุณแม่ : (หันมายิ้มหวานให้ทันที) ขอบคุณค่ะ

คุณพ่อ: การที่จะอยู่ด้วยกันนานๆ ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน คนเราไม่มีดีร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกครับ ข้อเสียของเขาถ้าเรามองเป็นเรื่องเล็กก็ไม่ใช่ปัญหา อย่างแม่ถ้าวันไหนอารมณ์แรง แรงมาก ก็เฉยไปก่อน พอเขาเย็นลงก็ต้องคุยกับเขาอย่าปล่อยเฉยไปเลย ก็หมดเรื่องแล้ว บางคนเอาข้อเสียมาเป็นเรื่องใหญ่ก็อยู่กันไม่ได้

ตั๋ม : เห็นไหมถ้ามีแฟนแล้วเอามาเทียบกับพ่อตั๋ม ทุกคนไม่ดีหมดนะ เพราะพ่อเป็นผู้ชายที่ดีมากจริงๆ ในฐานะเป็นพ่อ เป็นสามีของแม่เขาเป็นผู้ชายที่ดีไม่ว่าใครเข้ามาก็ไม่ดีเท่าพ่อเลย

แม่ : พ่อเขาไม่เคยพูดไม่เพราะเลย ไม่เคยได้ยิน มีเคยหลุดมาว่า "บ้า" คำเดียว ทุกคนเงียบบกันทั้งบ้านไม่เคยได้ยินจากปากพ่อ นี่คงเป็นคำหยาบสุดของพ่อแล้ว (คุณพ่อนั่งยิ้มรับคำชมจากสาวๆ )

"ประชุมกันอยู่เหรอค่ะ" เมื่อพูดถึงความหวานของบ้านนี้กันจบเสียงน้องตินติน ดังมาจากข้างหลังอีกครั้ง โดยคราวนี้หลานตัวน้อยพร้อมให้ถ่ายรูป ชวนคุณปู่ คุณย่า และพี่ตั๋ม (ไม่ยอมเรียกป้าตั๋ม) มาเล่นที่กลางบ้าน บรรยากาศถูกห้อมล้อมไปด้วยความอบอุ่นเต็มที่ พอได้จังหวะเหมาะสาวตั๋มก็หยิบพวงมาลัยมาชวนน้องตินตินไหว้ผู้ใหญ่ในบ้านตามประเพณีในวันครอบครัวนี้

"ประทับใจคุณพ่อคุณแม่มาตลอด เพราะใจดีกับลูกๆ ให้อิสระกับเสมออาจมีกักขังทางร่างกายไม่ให้ไปไหนบ้าง (หัวเราะ) ขอบคุณที่ดูแลลูกมาอย่างดี" สาวตั๋มเริ่มไหว้คุณพ่อคุณแม่พร้อมกล่าวขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง จากนั้นหลานตินติน ก็ทำตามอย่างว่าง่ายแต่ใช้การกอดคุณปู่คุณย่าเน้นๆ เป็นคำขอบคุณแทน หลังจากนั้นบ้านนี้ก็เต็มไปด้วยการพูดคุยและเสียงหัวเราะตลอดทั้งวัน